xs
xsm
sm
md
lg

อย่าการ์ดตก หากไม่อยากน้ำตาตกเช่นสิงคโปร์

เผยแพร่:



อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติกันนาน พาลจะทนไม่ไหว อยากไปโน่นไปนั่น คำถามคือว่าจะรับกันได้มั้ย ถ้าสิ่งที่ได้ร่วมทำกันมาอาจสูญเปล่า

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ยังคงต้องย้ำกันทุกวันว่า อย่าการ์ดตก แม้ตัวเลขผู้เติดเชื้อโควิดรายใหม่จะลดลง แต่ผลที่เราร่วมกันอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติวันนี้ จะปรากฏผลในอีก7-14 ข้างหน้า ดังนั้นวันนี้เราเบาใจได้แต่ยังวางใจไม่ได้

เห็นตัวอย่างข้างบ้านเราที่สิงคโปร์ ที่ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถอดบทเรียนโควิด-19 จากกรณีของประเทศสิงคโปร์ โดยระบุ 6 จุดอ่อนสำคัญที่ต้องระวัง แม้วว่าระยะแรกสิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการกับโควิด แต่ระยะหลังมานี้ จำนวนผู้ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด สิงคโปร์จึงเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประเทศอื่นๆ ที่ต้องหันมามองเพื่อป้องกันโควิดให้ได้อย่างยั่งยืน

จุดอ่อนที่สำคัญ 6 ประการ เริ่มจาก

หอพักคนงานต่างชาติที่อยู่กันอย่างแออัด ผู้ติดเชื้อกว่าครึ่งของประเทศ เป็นกลุ่มที่พักอยู่ในหอพักเหล่านี้ และรัฐบาลได้ประกาศให้ 12 หอพักเป็นพื้นที่กักกันโรค เป็นเวลา 14 วันด้วย

รัฐบาลให้คนสิงคโปร์ที่กลับมมาจากต่างประเทศทำ Home quarantine เองที่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน โดยมีการประเมินว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อหลุดเข้ามาประมาณ 500 คนที่ตรวจไม่เจอตอนที่เข้าประเทศ)แต่ตอนกักตัวเองอยู่ที่บ้าน คนจำนวนหนึ่งไม่ได้เข้มงวดมากนัก มีการสัมผัสใกล้ชิดกับคนในบ้าน ทำให้แพร่ต่อภายในบ้าน/ครอบครัว แล้วต่อมาก็กระจายไปให้คนอื่นต่อไปอีก

Social Distancing ไม่สามารถใช้ได้จริงในสิงคโปร์ คนที่อยู่ร่วมกลุ่มกันหรือมีกิจกรรมอย่างใกล้ชิดอาจเกิดเหตุการณ์ “Super spreader” ที่นำไปสู่การติดเชื้อจำนวนมาก
รัฐบาลต้องย้ำการทำกิจกรรมทางสังคมเฉพาะกับสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันเท่านั้น
อยู่บ้านให้มากที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ สิงคโปร์ต้องใช้เจ้าหน้าที่กว่า 3,000 คนเพื่อดูแลให้ปฏิบัติตามมาตรการ ต้องออกคำเตือนมากกว่า 6,200 ครั้ง และปรับมากกว่า 1,000 ครั้ง ตั้งแต่ที่เริ่มประกาศใช้มาตรการ

ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยหนัก โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 10 รายในสิงคโปร์มีอายุมากกว่า 60 ปี
บ้านพักคนชรา Lee Ah Mooi พบผู้ติดเชื้อ 16 รายและมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทั้งคู่เป็นหญิงชราวัย 86 ปี

เด็กจำนวนมากเป็นพาหะของโรคที่ไม่แสดงอาการและอาจติดเชื้อจากหรือไปสู่ผู้สูงอายุในครอบครัวโดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.63 ศูนย์เลี้ยงเด็กเล็กได้ระงับการให้บริการ เว้นแต่กรณีผู้ปกครองที่มีความจำเป็น และไม่สามารถหาวิธีการดูแลเด็กด้วยวิธีอื่นได้

จุดอ่อนที่ 6 คือ ประมาณร้อยละ 20 ของพนักงานในสิงคโปร์ยังคงต้องทำงานสำหรับการให้บริการที่จำเป็น รัฐบาลพยายามให้ประชาชนส่วนใหญ่อยู่บ้านเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสได้ดียิ่งขึ้น
สถานที่ทำงานที่ได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการได้ต้องมีมาตรการดูแลและระมัดระวังอย่างมาก

ประเทศไทยกลายเป็นที่กล่าวขานว่ามีมาตรการในการรับมือและจัดการได้ดีจนมีคำชมจากหลายประเทศ คนไทยหลายเสียงจึงบอกว่าเมื่อเราทั้งหมดร่วมกันเดินมาถูกทางแล้วอย่าให้ทำครึ่งๆ กลางๆ อาจจะยังต้องเผชิญความเจ็บปวดกันอีกสักระยะ แม้ว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเข้าใกล้ความจริงที่จะไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่ก็อย่างเพิ่งดีใจใช้ชีวิตตามปกติ ให้พวกเราตั้งการ์ดไว้ แล้วเราจะรอดไปด้วยกัน

กำลังโหลดความคิดเห็น