ลูกชายตามหาพ่อป่วยและหลงๆลืมๆวัย 74 ปีมา 4 วัน ชาวบ้านจูงสุนัขเข้าไปฉี่พบเสียชีวิตในป่าหญ้าลึก100เมตรภายในซอยส้มทอง ย่านคูคต
เมื่อเวลา 19:00น. วันที่ 24 พ.ค. 2562 ร.ต.อ.มนตรี รัตน์พันธ์ รอง.สว.เวรสอบสวน สภ.คูคต รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตภายในป่าหญ้าข้างทาง ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยส้มทอง อยู่ติดกับตลาดบุญร่มเย็น หมู่ที่ 2 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลภูมิพลฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพันธ์ พิสุธานนท์ ผกก.สอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เขต 1(ศพฐ.1) และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุต้องเดินเท้าเข้ามาประมาณ100เมตร พบประชาชนยืนมุงดูกันจำนวนหนึ่ง ทางด้านเจ้าหน้าตำรวจจึงได้นำเชือกมากั้นในที่เกิดเหตุไว้เพื่อรอ แพทย์เวรโรงพยาบาลภูมิพลฯ และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เขต 1(ศพฐ.1) ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ต่อมาเวลาผ่านไปประมาณ10นาที ก็มีนายอนุศักดิ์ ฤทธิยา อายุ 39ปี ลูกชายผู้ตาย ได้เข้ามาแสดงตัว และบอกว่าผู้เสียคือพ่อของตนเอง ชื่อนายโกวิทย์ ฤทธิยา อายุ74 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 59/27 หมู่ที่ 2 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ผู้เสียชีวิตนั้น ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าแต่อย่างใด สภาพนอนหงายและเสียชีวิตมาแล้ว4วัน และไม่พบการต่อสู้แต่อย่างใด ซึ่งตนเองก็ได้ออกติดตามหาพ่อ มานาน4วันแล้วแต่ก็ไม่พบ จึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คูคต แล้ว
นายอนุศักดิ์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิตคือพ่อของตนเอง เนื่องจากคุณพ่อของตนเอง ได้มีอาการป่วยและหลงๆลืมๆ โดยชอบเดินออกจากบ้าน บ้างทีตำรวจก็ขับรถมาส่งถึงบ้าน หรือบางครั้งตนเอง ก็เคยไปรับพ่อที่สภ.คูคต เป็นประจำ และก็จะชอบถ่ายในป่าข้างทาง เพราะจากป่าตรงนี้กับบ้านตนเองนั้น อยู่ห่างไปประมาณ1กิโลเมตร
และจากการสอบถาม นางจอยฯ อายุ45ปี ผู้ที่พบครั้งแรกได้เล่าว่า บ้านตนเองอยู่ตรงข้ามกับป่าหญ้า ใกล้ที่เกิดเหตุ และเมื่อช่วงใกล้จะมืด ได้มีคนจุงสุนัขมาฉี่แถวนี้ แล้วก็บอกตนเองว่า มีคนนอนอยู่ในป่า เมื่อ2วันที่แล้ว ผ่านมาก็เห็นอย่างนี้ ทำไม่ไม่ยอมตื่นสักที เมื่อตนเองได้ฟังก็ชะเง้อดู ก็พบอย่างที่มีชาวบ้านบอกตนเองจริง จึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
ร.ต.อ.มนตรี รัตน์พันธ์ รอง.สว.เวรสอบสวน สภ.คูคต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ร่วมชันสูตรพลิกศพพร้อมกับแพทย์เวร และบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยทางเจ้าหน้าที่ จึงได้เชิญลูกชายของผู้ตาย ไปสอบสวนที่เพิ่มเต็มโรงพัก เพื่อทำการสอบสวนถึงสาเหตุอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังนิติเวชโรงพยาบาลภูมิพลฯ เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง และให้ญาติๆไปขอรับศพ นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.
