จุดประกายความหวัง! ฝนโปรยนาหว่านแห้งอุทัยฯ เริ่มงอก แต่อ่างเก็บน้ำทุกแห่งยังแห้งขอด

อุทัยธานี - ชาวนาอุทัยฯ เริ่มมีความหวัง..หลังเสี่ยงดวงทำนาปีแบบหว่านแห้ง ล่าสุดฝนโปรยต่อเนื่องหลายวัน เมล็ดพันธุ์ข้าวเริ่มงอก แต่ภัยแล้งยังไม่สิ้น อ่างเก็บน้ำทั่วจังหวัดยังแห้งขอด-ไม่มีน้ำใหม่ไหลเข้า

หลังจากชาวนาแทบทุกพื้นที่ของอุทัยธานียอมเสี่ยงไถปรับดิน และหว่านข้าวบนผืนดินที่แห้งแล้ง หรือที่เรียกกันว่า หว่านแห้ง เพราะเมื่อเข้าสู่ฤดูทำนาปีมาเกือบ 2 เดือนแล้วแต่ยังคงไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับปลูกข้าว เนื่องจากปีนี้ฝนทิ้งช่วงยาวนาน จนคลองธรรมชาติและอ่างเก็บน้ำต่างๆ เหลือน้ำน้อยลงมาก แต่หากรอนานกว่านี้จะส่งผลให้ไม่ทันในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปี

นายไพศาล รามัญพงษ์ อายุ 45 ปี ชาวนาหมู่ 5 ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี กล่าวว่า ทุกปีจะเริ่มหว่านข้าวนาปีกันตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน แต่ปีนี้น้ำในคลองแห้งขอด สูบขึ้นมาใส่ผืนนาเพื่อหว่านข้าวกันไม่ได้เพราะฝนทิ้งช่วงนาน

ล่าสุดเมื่อมีฝนตกลงมาต่อเนื่องหลายวันติดตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรลงทุนหว่านแห้งไปตั้งแต่ต้นๆ เดือนพฤษภาคมเริ่มงอกเห็นเป็นต้นกล้าเขียวขจี จุดประกายความหวังให้ชาวนาอุทัยธานีที่เสี่ยงดวงหว่านแห้งไว้ โดยหวังว่าจะมีฝนตกลงมาตามฤดูกาล ทำให้ข้าวนาปีเจริญงอกงามไปจนถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวได้

อย่างไรก็ตาม นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยว่า แม้จะมีฝนตกลงมาหลายวันติดแต่ยังคงไม่มีปริมาณน้ำเติมเต็มในอ่าง ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำหลักยังวิกฤต โดยล่าสุดน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำหลักเพื่อใช้ในการเกษตร เช่น เขื่อนทับเสลา มีน้ำเก็บกัก 38.24 ล้าน ลบ.ม หรือ 23.90% ใช้การได้ 21.24 ล้าน ลบ.ม. หรือ 14.85% มีน้ำไหลเข้า 0.08 ล้าน ลบ.ม. ระบาย 0.00 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนห้วยขุนแก้ว มีน้ำเก็บกัก 6.56 ล้าน ลบ.ม. หรือ 15.11% ใช้การได้ 4.39 ล้าน ลบ.ม.(10.64%) น้ำไหลเข้า 0.00 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 0.00 ล้าน ลบ.ม., เขื่อนวังร่มเกล้า มีระดับเหนือน้ำ +27.53 ม.รทก. มีระดับท้ายน้ำ +24.00 ม.รทก. ระบายน้ำ 0.00 ลบ.ม./วินาที, แม่น้ำสะแกกรัง มีระดับบริเวณหน้าศาลากลาง จ.อุทัยธานี +15.41 ม.รทก.(ต่ำกว่าตลิ่ง 3.09 ม.), ประตูระบายน้ำคลองขุมทรัพย์และเสด็จประพาสต้นระดับน้ำ+15.51 ม.รทก., ฝายทัพคล้าย มีระดับเหนือฝาย +118.00 ม.รทก. มีระดับท้ายฝาย +115.55 ม.รทก. มีปริมาณน้ำผ่าน 0.00 ลบ.ม./วินาที

นายฐกรเปิดเผยว่า ฤดูนาปีเราจะปล่อยน้ำลงไปช่วยเสริมน้ำฝนให้ชาวนา ซึ่งเป็นหลักการที่ทางกรมฯ กำหนดไว้ให้ว่านาปีจะต้องได้ทำ 1 ครั้ง แต่ในเรื่องระยะเวลาการปล่อยนั้นคงต้องดูกำหนดจากทางกรมฯ อีกทีว่าจะเป็นช่วงไหน ซึ่งที่ผ่านมามีฝนตกในพื้นที่มากพอสมควร แต่ยังคงอยู่ในสภาวะแล้งอยู่เช่นเดิม ก็หวังกันว่าเดือนกันยายน-ตุลาคมจะมีน้ำมาเติมอ่างได้เกือบเต็ม