"ฝ้าย แอมไฟน์" ยกเป็นบทเรียนราคาแพง จ่ายค่าปรับจบคดีรีวิวเมจิกสกินไปแบบจุกๆ ด้าน "ไซร่า เน็ตไอดอล" ถูกส่งตัวขึ้นศาล พรุ่งนี้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 5 คน
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (12 มิ.ย.) นักร้องสาว "ฝ้าย แอมไฟน์" หรือ "ณัฐหทัย แสงเพชร" และ "ไซร่า มิเรอร์" เน็ตไอดอล ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามหมายเรียกพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีรีวิวเมจิกสกิน ซึ่งทั้งสองคนยอมรับสารภาพ ฝ้ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอางค์ พ.ศ.2558 มาตรา 41 วรรค 2(1) นะครับ ซึ่งมีโทษตามมาตรา 84 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สามารถจ่ายค่าปรับกับอย.ได้ทันที
ขณะที่ไซร่า มิเรอร์ มีความผิดฐานโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ สรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดการหลงเชื่อโดยไม่สมควร อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญิติอาหาร มาตรา 40 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 70 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถูกส่งตัวขึ้นศาลทันที
อย่างไรก็ตาม "ฝ้าย แอมไฟน์" ออกมาเปิดใจว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาแพง จ่ายค่าปรับจบคดีไปแบบจุกๆ
"วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหานะคะ ก็จะคล้ายๆ ของทางพี่ขวัญ (อุษามณี ไวทยานนท์) เมื่อวานกรณีเดียวกันค่ะ ก็มีการเปรียบเทียบปรับ และเดี๋ยวไปจ่ายค่าปรับที่ทางอย.ค่ะ เพราะมีทางเลือกระหว่างไปศาลกับทางอย. ของฝ้ายคือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี เพราะฉะนั้นก็สามารถไปจ่ายค่าปรับที่อย.ได้ค่ะ ก็เลยเลือกไปทางอย.น่าจะดีกว่าค่ะ"
"ที่ผ่านมากังวลมากค่ะ ตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจที่เกิดกรณีแบบนี้กับตัวเองและกับทุกคนด้วย เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตัวเราและต่อคนอื่นๆ แต่ว่าพอมาวันนี้ก็รู้สึกอยากให้จบค่ะ เพราะว่าตัวเราเองก็ไม่สบายใจมานานแล้วนะคะ มาวันนี้ก็จบแบบจุกๆ ค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงนะคะ เพราะคงไม่มีใครที่อยากจะมาเจอเรื่องราวแบบนี้"
"จริงๆ หลังจากที่มีกรณีของผลิตภัณฑ์ที่เราทำการรีวิวไป ในเรื่องของการโฆษณาออนไลน์หรือว่าโฆษณาสินค้าต่างๆ มันก็ค่อยๆ ซาลงด้วย และตัวเราก็ไม่ได้รับงานตรงนี้มานานแล้ว พอยิ่งมาเจอกรณีนี้พอเป็นแบรนด์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเราก็แทบจะไม่ได้รับเลย เราก็ค่อนข้างกลัว เพราะผลกระทบมันไม่ได้เกิดแค่ 1-2 เดือน แต่นี่ผ่านมาเป็นปีแล้วเราก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องมีสติมากขึ้น และต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบมากขึ้นค่ะ"
โอดเชื่อใจคนง่ายเกินไป รู้แค่ว่าผลิตภัณฑ์มีแต่คนดังๆ มารีวิวทั้งนั้น ไม่คิดว่าจะมีปัญหาขนาดนี้
"จริงๆ แล้วมันก็คงคล้ายๆ กันหมดนะคะ เพราะด้วยผลิตภัณฑ์เขาค่อนข้างเยอะมาก ตัวเราไม่ได้รีวิวทุกผลิตภัณฑ์ก็จริง แต่เราก็รับทราบว่าหลายผลิตภัณฑ์เขามีคนดังๆ มีใครหลายๆ คนที่รีวิว เราก็อาจจะเชื่อใจง่ายเกินไป และอาจจะรู้สึกว่าถ้าเขามีเงินจ้างขนาดนี้หรือเขามีผลิตภัณฑ์เยอะขนาดนี้มันจะต้องดี มันจะต้องไม่มีปัญหาอะไร ก็เลยทำให้เกิดกรณีนี้ขึ้น และมีเราเป็นหนึ่งในนั้นด้วยค่ะ"
"ข้อกฎหมายก็เพิ่งศึกษาก่อนจะมานี่แหละค่ะว่าข้อหาของตัวเองมีอะไรบ้าง แต่ศึกษาไปก็ไม่มีประโยชน์เลยค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องได้รับการพิจารณาจากผู้ใหญ่อีกทีนึง ว่าของเราจะต้องโดนเท่าไหร่ ก็ได้แต่ทำใจค่ะ"
สบายใจจบคดีซะที ยกเป็นบทเรียน
"ตอนนี้จบคดีมันก็สบายใจในระดับนึงที่ว่าเราก็ยอมรับในสิ่งที่เราทำนะคะ และอยากจะขอโทษจริงๆ ที่เราเป็นส่วนนึงที่ทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิดนะคะ ตัวเราเองก็เข้าใจผิดมาโดยตลอดเช่นเดียวกันว่าสิ่งที่เราทำไปมันจะไม่เกิดผลกระทบอะไร แต่วันนี้ก็อยากจะให้ทุกคนได้เห็นว่าการที่เราทำอะไรโดยที่เราไม่ไตร่ตรองก่อนหรือว่าเราไม่หาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนมันเกิดผลย้อนหลังได้ตลอดเวลา แม้จะผ่านไปเป็นปีแล้วก็ตาม อย่างเช่นที่ฝ้ายและหลายๆ คนได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และรับทราบสิ่งที่ตัวเองต้องเสียค่าปรับในวันนี้"
"ก็อยากจะขอโทษและอยากจะขอบคุณที่อย่างน้อยเราก็ยังอยู่ในกรณีที่เราก็ยังได้รับโอกาสที่เป็นการเปรียบเทียบปรับได้ ก็ถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ"
จากนั้น "พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา" รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนคดีเมจิกสกิน ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้มีเข้ามาแค่ 2 คนเท่านั้น ส่วนคนอื่นได้ติดต่อขอเลื่อนนัด โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจบ้าง อยู่ต่างประเทศบ้าง และในวันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ก็จะมีเข้ามารับฟังข้อกล่าวหาอีกประมาณ 5 คน
"วันนี้ได้มีกลุ่มผู้ต้องหาที่เราออกหมายเรียกไปมาพบพนักงานสอบสวนจำนวน 2 คนนะครับ คนแรกเป็นศิลปิน-นักร้องได้มาพบนะครับ และได้แจ้งข้อหาให้ทราบว่าโฆษณาเครื่องสำอางค์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือเกินความจริง อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอางค์ พ.ศ.2558 มาตรา 41 วรรค 2(1) นะครับ ซึ่งมีโทษตามมาตรา 84 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในข้อความที่โฆษณาก็คือใช้คำว่า เคล็ดลับหน้าใส ไม่ต้องฉีด หน้าใส ไม่ต้องไปคลินิก ในส่วนนี้ผู้ต้องหาท่านนี้ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาครับ ซึ่งจะได้ดำเนินคดีต่อไปครับ"
"ส่วนคนที่สองที่เป็นเน็ตไอดอล ได้มาพบในกรณีที่เขาเคยโฆษณาอาหารเสริม ชนิด คลิโอ โดยใช้คำพูดว่า คลิโอเจ้าแรกในโลก ช่วยให้แขนขาเรียว หุ่นเพรียวกระชับ เคล็ดลับหุ่นเฟิร์ม คลิโอลดน้ำหนักเร็ว 7 วัน ก็แจ้งข้อหาให้ทราบว่าโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ สรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดการหลงเชื่อโดยไม่สมควร อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญิติอาหาร มาตรา 40 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 70 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับครับ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาครับ"
"ก็คือรับสารภาพทั้งสองคนครับ คนแรกนั้นเนื่องจากเป็นคดีตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอางค์ ที่มีอัตราโทษปรับสถานเดียว หรือมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ก็อยู่ในอำนาจของเลขาธิการสำนักงานอาหารและยาที่จะทำการเปรียบเทียบปรับได้ ตามมาตรา 90 และเมื่ื่อทำการเปรียบเทียบปรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คดีก็ต้องยุติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาครับ"
"ส่วนผู้ที่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหารนั้น ต้องนำตัวไปฟ้องศาลแขวงครับ ที่เมื่อวานนี้ศาลแขวงก็ได้พิพากษาลงโทษผู้ที่กระทำผิด จำคุก 1 ปี แต่รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง เหลือ 6 เดือน และไม่เคยต้องโทษมาก่อนก็รอลงอาญา 1 ปี และปรับ 30,000 บาท ลดกึ่งหนึ่งเหลือ 15,000 บาท สำหรับผู้ที่กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอาหารจะได้รับโทษแบบนี้ในกรณีเมื่อวานนะครับ ส่วนวันนี้จะเป็นอย่างไรนั้นก็อยู่ในดุลยพินิจของศาลครับ"
เผยถ้าออกหมายเรียกครั้งที่สองแล้วไม่มา เตรียมออกหมายจับ
"ส่วนคนที่เหลือนั้นก็เลื่อนมาครัับแต่ยังไม่ได้กำหนดใหม่ครับ ถ้ากำหนดใหม่เดี๋ยวเราจะออกหมายเรียกไปอีกครั้งหนึ่งครับ ส่วนผู้ที่ไม่ได้แจ้งเลื่อนมาก็ถือว่าไม่ได้มาตามนัด เราจะออกหมายเรียกอีกครั้งหนึ่ง ถ้าออกหมายเรียกครั้งที่สองแล้วยังไม่มา เราก็จะออกหมายจับต่อไปครับ แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีใครที่จะไม่ติดต่อกลับมาครับ"
"เหตุผลในการเลื่อน บางคนนั้นเลื่อนเพราะว่าอยู่ต่างประเทศครับ ยังกลับมาไม่ทัน เราก็ให้เลื่อนไปเพราะว่ามีเหตุผลครับ แต่พรุ่งนี้มีมาอีกแน่นอนครับ เราตั้งเป้าไว้ 5 คนครับ"
"หลังจากที่ทำการแจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาทราบเสร็จก็ถือว่าเสร็จสิ้นในส่วนของตำรวจ แล้วก็จะส่งไปทางอัยการหรือว่าฟ้องศาลแขวงเลย หรือว่าส่งไปปรับที่สำนักงานอาหารและยาก็ขึ้นอยู่กับความผิดของแต่ละคนครับ"
"ถามว่ามีรายชื่อเพิ่มอีกไหม ในขณะนี้ทางสำนักงานอาหารและยาเพิ่งส่งมาให้เราพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพียงแค่ 13 คนครับ ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาครับ ซึ่งทั้ง 13 คน ขณะนี้ที่มาตรวจสอบเบื้องต้นแล้วยังเป็นความผิดครั้งแรกอยู่ครับ แต่ทุกคนเราจะทำการสอบประวัติทั้งหมดครับ ถ้ามีความผิดเป็นครั้งที่ 2 เราจะต้องเอาโทษเก่าที่รอลงอาญาไว้มาร่วมยื่นฟ้องไปกับปัจจุบันด้วยครับ สำหรับใครที่เคยถูกศาลพิพากษาลงโทษและรอลงอาญามาก่อน และมาครั้งนี้กระทำผิดอีกครั้งหนึ่ง ทางพนักงานสอบสวนก็จะมีการฟ้องเพิ่มโทษไปด้วยครับ ในส่วนคนที่จะมาพรุ่งนี้ก็ตามที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้เลยครับ และสองคนที่ไม่มาเมื่อวานก็แจ้งว่าจะมาวันพรุ่งนี้ด้วยครับ"
เผยมีคนที่บอกว่าอยู่ต่างประเทศ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร
"ก็มีที่อยู่ต่างประเทศนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่มีการแจ้งว่าอยู่ต่างประเทศ ถ้าเขากลับจากต่างประเทศก็จะมาพบครับ"