xs
xsm
sm
md
lg

ผอ-นร.โรงเรียนชุมพลโพนพิสัยยันทำพานไหว้ครูล้อการเมืองไม่มีตำรวจ-ทหารขู่ ตาชั่งเอียงเพราะติดกาวไม่ดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


หนองคาย - ผอ.และนักเรียน ร.ร.ชุมพลโพนพิสัย ที่เป็นข่าวในโซเชียลฯ เกี่ยวกับพานไหว้ครู ยันไม่มีตำรวจ-ทหารสั่งให้ลบภาพ ส่วนภาพที่เห็นตาชั่งเอียงเพราะเป็นการถ่ายด้านข้าง ประกอบกับติดกาวไม่ดีจึงทำให้เอียงไม่มีเจตนาอื่นแฝง



เมื่อช่วงสายวันนี้ (14 มิ.ย. 62) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับข่าวพานไหว้ครูของโรงเรียนชุมพลโพนพิสัย ในอำเภอโพนพิสัย จ.หนองคาย ที่มีข่าวในโซเชียลมีเดียว่ามีทหารและตำรวจเข้าไปสั่งลบ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปอย่างกว้างขวาง โดยนายพิพัฒน์ ศรีสุขพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมครูอาจารย์ และนักเรียนชั้น ม.6/2 ได้ร่วมกันชี้แจงรายละเอียดที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้มีตำรวจและทหารเข้ามาสั่งให้ลบรูปภาพต่างๆ ออกจากโซเชียลฯ แต่อย่างใด

นายพิพัฒน์ ศรีสุขพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงเช้าเป็นพิธีไหว้ครู ส่วนช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมพี่น้องรหัส มีการนำนักเรียนกว่า 2,900 คนมาจัดกิจกรรมร่วมกัน ในช่วงบ่ายได้มีตำรวจเข้ามาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอะไร เนื่องจากที่ผ่านมาเคยเกิดปัญหาการทะเลาะวิวาท ประกอบทางโรงเรียนได้ทำ MOU กับ สภ.โพนพิสัย อยู่แล้ว

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลให้จำนวน 2 นาย ตนก็นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน ปรากฏว่ามีผู้สื่อข่าว (ไทยรัฐออนไลน์) โทร.มาหาตน บอกว่า ผอ.รู้ไหมเป็นข่าวอยู่ในเฟซบุ๊กแล้วเรื่องพาน ตนก็ได้ถามกลับไปว่าพานมันเป็นอะไร เขาก็บอกว่าพานของเด็กมันมีปัญหา ตนก็ให้ส่งเฟซฯ กลับมาตนดูเพื่อจะได้ตรวจสอบว่ามีปัญหาอะไร จากนั้นผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวก็ได้ถามตนต่อว่า ผอ.มีตำรวจและทหารเข้ามาในโรงเรียนไหม ตนก็ได้ตอบกลับไปว่าทหารจะเข้ามาทำไม ไม่ได้เป็นเรื่องที่ทหารจะต้องเข้ามาเพราะตนเข้าใจว่าเป็นการไหว้ครูเท่านั้น แต่ตนตอบว่ามีตำรวจเข้ามา แต่เข้ามาดูแลความสงบความปลอดภัยเท่านั้น แต่กลับมีเฟซบุ๊กออกมาว่ามีตำรวจและทหารเข้ามาสั่งให้ลบรูปออกจากเฟซบุ๊ก จนกลายเป็นประเด็นกระจายออกไปทั่วประเทศ ขอยืนยันว่าไม่ได้มีทหารเข้ามาในโรงเรียนแต่อย่างไร ที่ตำรวจเข้ามาก็เพื่อดูแลความสงบเท่านั้น ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมไปถึง ผกก.โพนพิสัย ก็ได้มาอำนวยความสะดวกที่ถนนบริเวณหน้าโรงเรียนเป็นประจำแต่เช้าทุกวันอยู่แล้ว

นายพิพัฒน์กล่าวต่ออีกว่า หลังจากตนทราบเรื่องก็ได้ให้เอาพานมาดู ก็เป็นพานตามรูปที่มีการลงในโซเชียลฯ ก็ได้สอบความถามคิดเห็นของเด็กในการทำพานแบบนี้ว่ามีจุดประสงค์อะไร เจตนาของเด็กนั้นเป็นความคิดที่ริเริ่มสร้างสรรค์ มีจิตใจชอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อนุสาวรีย์แสดงให้เห็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเราสร้างมา จึงมีพวงมาลัยและธูปเทียนมากราบไหว้ ส่วนพานรูปตาชั่งนั้นแสดงให้เห็นว่ามีแต่คนโจมตี 250 ส.ว. เขาอยากจะแสดงให้เห็นว่า ส.ว.เป็นตัวแทนของคนหลายล้านคนที่อยู่ในประเทศไทยซึ่งรัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนด

“รูปที่ถ่ายออกมาตาชั่งมองดูเอียง เพราะเป็นการถ่ายด้านข้าง ประกอบการติดกาวไม่ดีจึงทำให้เอียง พานที่ทำขึ้นเป็นการสร้างสรรค์ของเด็กนักเรียน วันนี้ก็มีแถลงการณ์ของสภานักเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กด้วย” ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าว และว่าทางโรงเรียนไม่ได้ฝักใฝ่เรื่องการเมือง และนักการเมืองไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมไหว้ครูของโรงเรียนอยู่แล้ว โรงเรียนมุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษา ได้รับรางวัลมากมาย โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง มีมาตรฐานสากล เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงตั้งมากว่า 50 ปี

ด้าน น.ส.รัชฎาภรณ์ คำเหลือง, นายชรินธร นาคเสน, น.ส.ณัชชา ชัยเวทย์ และนายจิฏฏิภัค พลหงส์ เด็กนักเรียนชั้น ม.6/2 บอกว่า พานที่นักเรียนในชั้นร่วมกันทำขึ้น จะสื่อให้เห็นถึงว่านักเรียนชั้น ม.6/2 ทุกคนยังรักประชาธิปไตย ซึ่งทุกวันนี้ไม่ค่อยจะมีแล้ว จึงอยากจะสื่อให้ทุกคนเห็นและรักประชาธิปไตย ไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และต้องการสื่อให้เห็นว่าอนุสาวรีย์ที่เกิดขึ้นมันผ่านเหตุการณ์อะไรมาบ้างจนถึงปัจจุบัน จึงสื่อออกมาในรูปแบบของพานไหว้ครู

ส่วนพานที่เป็นรูปตาชั่งนั้น ต้องการสื่อให้เห็นว่า ส.ว.250 คน เป็นตัวแทนของประชาชนหลายล้านเสียง ซึ่งแล้วแต่คนจะมองว่ามันสื่อไปในทางไหน ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเด็กนักเรียนได้เล่าให้ฟังว่า เป็นการจัดกิจกรรมพี่น้องรับน้องสายรหัส ม.ต้นของโรงเรียน ในขณะที่พวกตนและเพื่อนๆ อยู่บนห้องเพื่อรอไหว้ครูได้ พวกตนได้ยินและได้เห็นเพื่อนหลายๆ ห้องแจ้งเข้ามาให้ทราบว่ามีตำรวจเข้ามา พวกตนจึงได้ไปดูพานไหว้ครูที่ห้องโสตฯ ที่พวกตนเก็บพานไว้ก็ไม่เห็นพานแล้ว จึงสงสัยว่าพานหายไปไหนแล้วเท่านั้น แต่ไม่ได้มีใครมาขู่หรือบังคับให้ลบรูปภาพอะไรทั้งนั้น

กำลังโหลดความคิดเห็น