xs
xsm
sm
md
lg

ห้ามขึ้นแล้ว! อบต.บุกตรวจ-แปะคำสั่งห้ามใช้ “คอนโดไม้ไผ่” ตูบผะหยา 5 ชั้น หน้าดอยนางนอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


เชียงราย - เจ้าของนางนอนเบสแคมป์-คอนโดไม้ไผ่/ตูบผะหยา 5 ชั้น หน้าเทือกเขาดอยนางนอน เร่งหาทางปรับแบบ-ขอก่อสร้าง หวังเปิดใหม่เต็มตัวหนาวนี้ หลังคนทะลักเที่ยวจน อบต.บุกตรวจ-แปะป้ายคำสั่งห้ามขึ้น ห้ามใช้อาคาร หวั่นเกิดอันตราย

หลังจากมีการนำเสนอข่าว “คอนโดไม้ไผ่-ตูบผะหยา” ที่นายขวัญณรงค์ ขวาเมืองพาน นักธุรกิจท้องถิ่น ชาวบ้านป่าแฝหมู่ 3 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย พลิกผืนนาหน้าเทือกเขาดอยนางนอน ที่เป็นมรดกตกทอดมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวโฮมสเตย์ “นองนอนเบสแคมป์” รับกระแสถ้ำหลวงฟีเวอร์ โดยร่วมกับสล่าพื้นบ้านนำไม้ไผ่มาสร้างเหมือนคอนโดมิเนียมทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูง 5 ชั้น (รวมดาดฟ้า) ตามภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้ผู้คนหลั่งไหลไปเที่ยวชมกันอย่างต่อเนื่อง จนทางหมู่บ้านต้องจัดพื้นที่วัดป่าแฝที่อยู่ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นลานจอดรถ พร้อมจัดรถรับส่งคิดค่าบริการคนละ 10 บาทนั้น


ล่าสุดพบว่าคอนโดฯ ไม้ไผ่ดังกล่าวมีอันต้องปิดให้บริการขึ้นชมทิวทัศน์ทุ่งนา-เทือกเขาดอยนางนอนแล้ว เนื่องจากทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โป่งผา ได้มีหนังสือแจ้งไปยังนายขวัญณรงค์ ว่าอาคารดังกล่าวสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และอาจผิดต่อระเบียบหลายข้อ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเชิญในช่วงนี้ต่างผิดหวังไปตามๆ กัน เพราะได้ดูแต่ตัวอาคารไม้ไผ่-ใช้บริการดื่มกาแฟ ชา ข้าวซอยน้ำเงี้ยว ฯลฯ

ขณะที่ อบต.โป่งผา ได้ออกหนังสือคำสั่งลงชื่อ น.ส.สุดา ปฏิเสน รองปลัด อบต.โป่งผา รักษาราชการแทนปลัด อบต.โป่งผา และปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.โป่งผา มอบหมายให้กองช่างไปยื่นหนังสือต่อเจ้าของคอนโดฯ ไม้ไผ่ดังกล่าว ระบุเนื้อหาห้ามใช้อาคาร หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารที่อาจเป็นภยันตราย ตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 41 วรรคหนึ่ง (กรณีที่การก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้ายหรือรื้อถอนอาคารไม่ได้รับใบอนุญาต) เลขที่ ชร.78403/0734 แจ้งถึงนายขวัญณรงค์ เจ้าของอาคารดังกล่าวว่ากรณีที่มีการก่อสร้างอาคารไม้ไผ่กว้าง 25 เมตร ยาว 20 เมตร จำนวน 1 หลัง ตั้งอยู่กลางทุ่งนาของหมู่บ้านป่าแฝนั้น พบว่ายังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และเนื่องจากอาคารอาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 41 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ห้ามไม่ให้ใช้หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนด้วย

นอกจากนี้ อบต.โป่งผา ยังได้มีคำเตือนอีกหลายข้อมีเนื้อหาว่า ผู้ใดก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยเจ้าของอาคารไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และผู้ใดได้รับคำสั่งแล้วฝ่าฝืน นอกจากจะต้องระวางโทษดังกล่าวแล้วยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละ 500 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน รวมทั้งถ้าเป็นการกระทำของผู้ดำเนินการต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นๆ

และถ้าเป็นการกระทำอันเกี่ยวกับอาคารเพื่อพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม การศึกษาหรือการสาธารณสุขหรือเป็นกระกระทำในทางการค้าเพื่อให้เช่า ให้เช่าซื้อ ขาย หรือจำหน่ายโดยมีค่าตอบแทนซึ่งอาคารใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับเป็นสิบเท่าของโทษที่บัญญัติสำหรับความผิดนั้นๆ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้านนายขวัญณรงค์กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับหนังสือจากทาง อบต.โป่งผาแล้วก็ขอไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนตูบผะหยาอีก แต่ให้ดูอยู่ด้านล่าง และมีบริการเพิงพักที่เป็นเพิงไม้ไผ่ชั้นเดียว โดยมีบริการกาแฟ น้ำเงี้ยว น้ำดื่ม ฯลฯ ต่างๆ ไว้รองรับเช่นเดิม ส่วนอาคารไม้ไผ่ทรงสูงหรือตูบผะหยาก็ติดป้ายแจ้งห้ามขึ้นเอาไว้เรียบร้อย

นายขวัญณรงค์กล่าวยอมรับว่า คนในระดับชาวบ้านเราไม่อาจจะเข้าไม่ถึงข้อกฎหมายต่างๆ อย่างละเอียดเพราะทางหน่วยงานราชการก็ไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้รู้ทั่วถึง และช่วงที่ก่อสร้างใหม่ๆ นั้นตนก็ไม่ได้มุ่งจะให้คนขึ้นไปชมกันมาก เพราะตั้งเป้าว่าจะทำให้เสร็จเรียบร้อยทั้งหมดก่อนแล้วค่อยไปเปิดอย่างสมบูรณ์ในช่วงปลายปี 2562 แต่ปรากฏว่าผู้คนที่ทราบข่าวต่างเดินทางไปเยือนกันเป็นจำนวนมากจึงต้องให้บริการดังกล่าว และยังมุ่งหวังให้อาคารไม้ไผ่สูงดังกล่าวเป็นตูบผะหยา หรืออาคารไม้ไผ่สำหรับดูทิวทัศน์ที่งดงาม โดยจำกัดคนที่จะขึ้นไปด้วย ไม่ใช่คอนโดฯ ไม้ไผ่ หรือที่พักที่ให้เช่านอนพักอย่างที่บางส่วนเข้าใจกันแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับแจ้งจาก อบต.โป่งผา แล้วก็จะร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการปรับแบบเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย คาดว่าจะทันและสามารถเปิดให้ขึ้นชมได้ในช่วงปลายปีนี้ตามเป้าต่อไป ส่วนช่วงนี้คนที่สนใจก็ยังสามารถเดินทางไปชมและเที่ยวกันได้ตามปกติ

ด้าน พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารี สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการตำรวจท่องเที่ยว 4 (สว.ส.ทท.2 กก.4) กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) ที่ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมนักท่องเที่ยวที่ยังเดินทางไปยังนางนอนเบสแคมป์ดังกล่าว พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวไปมากันต่อเนื่อง ก็ได้ขอให้มีการนำไปดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบดังกล่าวต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น