สุราษฎร์ธานี - เจ้าหน้าที่อุทยานหมู่เกาะอ่าวทอง จ.สุราษฎร์ธานี ยิงดับเสี่ยรถแบ็กโฮ บนชายหาดเกาะพะลวย ขณะบุกรุกเข้าไปในเขตหวงห้ามยามวิกาล
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (11 ก.ค.) พ.ต.อ.วิรุฬ สุวรรวงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ ผกก.สภ.เกาะสมุย พ.ต.ท.พิชัย สองเมือง รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.อนุมัติ รื่นพานิช สารวัตรสอบสวน สภ.เกาะสมุย นายสุทธิพงษ์ ทองเรือง ปลัดอำเภอเกาะสมุย เจ้าหน้าที่อัยการจังหวัดเกาะสมุย ปลัดอำเภอเกาะสมุย แพทย์เวรโรงพยาบาลเกาะสมุย ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจสืบสวน สภ.เกาะสมุย อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่เกาะพะลวย โดยใช้เวลาเดินทางกว่า 1 ชั่วโมง ออกจากเกาะสมุย
เพื่อไปทำการชันสูตรตรวจสอบในที่เกิดเหตุ บริเวณบนชายหาดอ่าวสน หน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง หมู่ 6 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมตรวจสอบสภาพศพนายอภิชัย รัตน์ตนะ อายุ 43 ปี ภูมิลำเนา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นเจ้าของรถแบ็กโฮที่มารับเหมาขุดดินรับจ้างทั่วไปบนเกาะพะลวย
จากการตรวจสอบ พบบริเวณที่เกิดเหตุหน้าที่ทำการอุทยานฯ พบปลอกกระสุนปืนขนาดลูกซองกระจายอยู่หลายจุด ส่วนผู้ตายถูกยิงเข้าที่ลำตัวถูกกระสุนหลายนัด นอนเสียชีวิตอยู่บนชายหาด โดยข้างศพพบมีดปลายแหลม แห ฉมวก อุปกรณ์หาปลา และไฟส่องสว่างของผู้ตายตกอยู่ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตมาแล้วกว่า 10 ชั่วโมง
ในเบื้องต้น จากการสอบถามเจ้าหน้าอุทยาน เปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนของวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อุทยานได้เข้าเวรยามปฏิบัติหน้าที่ภายในที่ทำการอุทยานฯ ได้มีผู้ตายขับรถจักรยานยนต์บุกรุกเข้ามาในที่ทำการ 2 คัน และผู้ตายได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่อุทยาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ให้ผู้ตายออกไปจากพื้นที่หวงห้าม แต่ผู้ตายไม่ยอมและได้เดินถือมีดเข้ามาจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ยิงปืนขู่ไปหลายนัด เพื่อกดดันให้ผู้ตายเดินทางออกจากพื้นที่ และทราบว่ากระสุนได้ถูกผู้ตายจนเสียชีวิต ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจเขม่าดินปืนจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง หลายคน รวมทั้งยึดอาวุธปืนลูกซองยาว กระบอกที่ใช้ก่อเหตุไว้เป็นของกลางและยึดไปตรวจสอบ
ด้านกลุ่มญาติผู้ตายที่เดินทางมามุงดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ ต่างเปิดเผยว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และมีการจัดฉากสภาพศพของผู้ตาย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีเงื่อนงำหลายอย่าง
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่บนเกาะพะลวย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คนตายมีนิสัยก้าวร้าว มักทำตัวเป็นขาใหญ่ มีเรื่องกระทบกระทั่งกับคนบนเกาะพะลวยอยู่ประจำ
