xs
xsm
sm
md
lg

ท้องถิ่นคึก-สนาม กทม.ระอุ “ณรงค์ศักดิ์” ชน “ชัชชาติ” พิสูจน์ใครแกร่งที่สุดในปฐพี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:

ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร (ซ้าย), ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (ขวา)
ป้อมพระสุเมรุ

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กระดานการเมืองเริ่มเข้าที่ ปี่พาทย์การเมืองท้องถิ่นก็เริ่มบรรเลง

เมื่อผู้รับผิดชอบหลักอย่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่อนหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ให้ตระเตรียมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้พร้อมสรรพ ทั้งยังมีหนังสือให้รับแจ้งเหตุการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น ปี 2562 ไว้แล้ว

คาดกันว่า ไม่เกิน 3 - 4 เดือนนี้จะมีการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ

รับกับกระแสตื่นตัวทางการเมือง เมื่อ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยากไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น (นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา)

ปรากฏประชาชนกว่า 60% ระบุว่า อยากไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นกันแล้ว

ทางด้าน “นักการเมือง - นักเลือกตั้ง” ก็ขยับแข้งขารอสัญญาณปล่อยตัวกันแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว “ส.ว.ก๊อง” ชูชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จ.เชียงใหม่ ที่เตรียมลงชิงชัยนายก อบจ.เชียงใหม่ ของพรรคเพื่อไทย

หรือการขยับตัวแรงๆของ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว ทักษิณ ชินวัตร ที่มีข่าวว่าหลบลมร้อนไปกบดานอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ก็เริ่มเทียวไปเทียวมามากขึ้น ในฐานะ “แม่ทัพเลือกตั้งท้องถิ่น” โดยเฉพาะสนามภาคเหนือตอนบน

พร้อมประกาศิตยึดพื้นที่ในหลายจังหวัดที่เสียไปให้พรรคอื่นคืน ทั้ง จ.เชียงใหม่ ที่ส่ง “ส.ว.ก๊อง” ลงโซ้ยกับ “เสี่ยโต๊ะ” บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ ที่ปันใจไปอยู่กับ “ท๊อปบูต” หรือใน จ.เชียงราย ที่กำชับว่าต้องกินรวบให้ได้ หลังถูก “อนาคตใหม่” เข้ามาลูบคม โดยเฉพาะเขต 1 ที่ สามารถ แก้วมีชัย สอบตกอย่างไม่น่าเชื่อ คล้ายๆ กับที่ จ.ลำปาง ที่ “ค่ายสีส้ม” เจาะได้เช่นกัน

เป้าหมายสำคัญที่สุดไม่พ้น จ.พะเยา กับคำสั่งชำระแค้น “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตทีมงานที่ไปเป็นใหญ่อยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ และยังใกล้ยึด จ.พะเยา ได้อย่างเบ็ดเสร็จ และรอบนี้เตรียมส่ง “เสี่ยดม” อัครา พรหมเผ่า น้องชายและอดีตแคนดิเดตรัฐมนตรี ลงชิงนายก อบจ.พะเยา ที่คาดว่าจะต้องชนกับ “เสี่ยอี๊ด” วรวิทย์ บุรณศิริ” อดีต นายก อบจ.พะเยา ที่ “เจ๊แดง” สนับสนุน

ด้านน้องใหม่อย่าง “ค่ายสีส้ม” พรรคอนาคตใหม่ ก็ประกาศชัดเจนต่อยอดความสำเร็จในสนามระดับชาติ และเตรียมลุยสนามท้องถิ่นกับเขาเหมือนกัน โดยจะเปิดรับสมัครผู้เข้าคัดเลือกลงเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

ตามประสา “พรรคเนื้อหอม” ที่กระแสมาแรง กวาด ส.ส.เขต-บัญชีรายชื่อ ทั่วประเทศได้เกิน 80 ที่นั่ง ทำให้ “นักการเมือง - นักเลือกตั้ง” อยากจะสวมหมวกสีส้ม ลงแข่งใจจะขาด

อย่างรายของ “นายกฯเป้า” จิรวุฒิ สิงห์โตทอง อดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย ออกตัวแรงบุกไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ไว้ล่วงหน้า หมายตาขอลงชิงนายก อบจ.เมืองชลฯ ที่มี “เสี่ยป๊อก” วิทยา คุณปลื้ม ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนาน

เช่นเดียวกับกระแสข่าวที่ว่า พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ อดีต ส.ส.โคราชหลายสมัย ที่เพิ่งแตกหักกับพรรคเพื่อชาติ ต้นสังกัดล่าสุด ก็แต่งตัวเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.นครราชสีมา ในนามพรรคอนาคตใหม่เช่นกัน

ซึ่งตามปกติสนามท้องถิ่นนั้น มักมีการแตะมือกันของพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อส่งผู้สมัครลงแข่งในนาม “กลุ่ม” มากกว่าจะเป็น “ตัวแทนพรรค” เนื่องจากพฤติกรรมชาวบ้านมักเลือก “ตัวบุคคล” มากกว่า “ต้นสังกัด”

ครั้งนี้ก็เช่นกัน เริ่มมีการแบ่งข้างกันเล่นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของพรรคการเมืองใหญ่ สอดคล้องกับการแบ่งขั้วในสนามการเมืองใหญ่

จึงมีเค้าลางความร่วมมือของ “เพื่อไทย - อนาคตใหม่” ในหลายพื้นที่ เช่นเดียวกับ “พลังประชารัฐ - ภูมิใจไทย” ที่เริ่มขยับเป็นเนื้อเดียวกันในพื้นที่ภาคอีสาน

อย่างที่ วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และผู้ดูแลพื้นที่โคราชพ่วงอีสานใต้ของพรรคกางสูตรในส่วนของ จ.นครราชสีมาว่า ได้มีโอกาสคุยกับหัวหน้าทีมจากพรรคภูมิใจไทย จะแทกทีมกัน จะจัดคนลงสมัครแบบเป็นแพคคู่ สนับสนุนคนที่จะเป็นนายกอบจ.คนเดียวกัน แต่ ส.จ.ต่างคนต่างรับผิดชอบ เป็นต้น

ทว่าสนามท้องถิ่นไหนๆ ก็คงไม่น่าสนใจเท่ากับ “สนามเมืองกรุง” ที่กำลังจะมีศึกชิง “อาณาจักรเสาชิงช้า” การเลือกตั้งผู้ว่า กทม.พ่วงด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ไปในคราวเดียว

ผลจากการเลือกตั้งใหญ่ ที่พรรคพลังประชารัฐ สามารถกำชัยได้ใน 12 จาก 30 เขต เป็นแชมป์ที่นั่ง ส.ส. ขณะที่พรรคอนาคตใหม่คว้าไป 10 เขต ด้วยแต้มรวมกว่า 8 แสน เป็น “แชมป์ปอปปูลาร์โหวต” ในเขตนครบาล

ส่วนพรรคเพื่อไทยไม่บาดเจ็บมากนักกับ 8 ที่นั่งที่ได้มา ขาดไปก็เพียง “แชมป์เก่า” พรรคประชาธิปัตย์ ที่สูญพันธุ์ถูกกวาดตกแม่น้ำเจ้าพระยาเรียบวุธ

ส่งผลให้สมการ-ภูมิทัศน์ทางการเมืองในเขต กทม.ปรับเปลี่ยนไปในทันที เมื่อ “เพื่อไทย - ประชาธิปัตย์” คู่เดือดในอดีต ไม่ได้เป็น “มวยหลัก” เช่นเดิม

กลายมาเป็น “พลังประชารัฐ” ที่ต้องดวลกับ “อนาคตใหม่” มากกว่า

และเพื่อป้องกันการ “ตัดคะแนน” กันเอง ทิศทางความร่วมมือจึงออกมาในรูป “เพื่อไทย - อนาคตใหม่” ชนกับ “พลังประชารัฐ - ประชาธิปัตย์”

ฝ่ายหลังผู้รับผิดชอบคือ “เสี่ยตั้น” ณัฐฏพล ทีปสุวรรณ และ “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ซึ่งก็เติบโตมาใน “ค่ายสีฟ้า” มากกว่า

แม้ “ค่ายสีฟ้า” มีภารกิจต้องกู้ชื่อ “แชมป์เมืองหลวง” กลับคืนมา แต่เมื่อ “พลังประชารัฐ” ได้เปรียบทั้งเรื่องทุน และอำนาจรัฐ มากกว่าในยามนี้ ก็จำต้องหลบให้ หรือประคองตัวไปก่อน

ดูแล้วพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคมาตลอดคง “บาย” ในรอบนี้

ในส่วนของ ส.ก.นั้น ดูแล้วแต่ละพรรค อาจจะเลือกลุยกันเต็มสูบ มีบางพื้นที่ที่ลงแข่งกันเอง หากตกลงผู้สมัครกันไม่ได้

แต่ “จุดยุทธศาสตร์” ที่แท้จริงอยู่ที่บัลลังก์ “พ่อเมืองหลวง” มากกว่า ที่ทั้ง 2 ฟากจำเป็นต้องตกผลึกกันอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อไม่ “ตัดแต้ม” กันเอง

แม้ว่า “อนาคตใหม่” จะมีกระแสและคะแนนดิบจากการเลือกตั้งใหญ่เหนือกว่าทุกค่าย แต่มีข้อจำกัดเรื่องบุคลากร เพราะ “ตัวดี” ส่วนใหญ่ถูกเข็นลงสมัคร ส.ส.และได้เป็นผู้แทนฯกันไปหมดแล้ว ครั้นจะให้ลาออกจาก ส.ส.มาก็คงไม่คุ้มเสี่ยง

ที่โดดเด่นที่สุดของฟาก “เพื่อไทย - อนาคตใหม่” ตอนนี้คงไม่พ้น “เสี่ยทริป” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม และอดีตแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่เริ่มฟอร์มทีมเตรียมลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ที่มีเสียงเชียร์มานานแล้ว

นาทีนี้ใส่ชื่อเจ้าของสมญา “ชัช เดอะฮัคค์” ที่ถูกนำคาแรกเตอร์การ์ตูน “ยักษ์เขียวจอมพลัง” มาล้อกับที่เคยถูกขนานนามว่า “รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” ว่า เตรียมตัวที่จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ โดยมีแรงหนุนจาก 2 พรรคการเมืองฝ่ายค้านไปได้เลย

ขณะที่ฟาก “พลังประชารัฐ - ประชาธิปัตย์” นั้น “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบัน เคยเสนอตัวไว้ ก็ถูกมรสุมหลายเรื่องจนช้ำไปทั้งตัว

และยิ่งมีเบอร์ใหญ่อย่าง “ชัชชาติ” เป็นคู่แข่งด้วยแล้ว ก็เท่ากับกดดัน 2 พรรคฝ่ายรัฐบาลต้องคัดแคนดิเดตที่ “ปังสุดๆ” เป็นคู่เทียบ

หวยก็เลยไปออกที่ “ผู้ว่าฯหนึ่ง” ณรงค์ศักดิ์ โอสถาธนากร ผู้ว่าฯพะเยา และอดีตผู้ว่าฯเชียงราย ผู้สร้างชื่อจาก “ปฏิบัติการถ้ำหลวง” ในการบริหารจัดการภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า อะคาเดมี ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อย่างปลอดภัย ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องชื่นชมดังก้องโลก จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ และเพิ่งครบรอบปีไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

เป็น “ผู้ว่าฯหนึ่ง” ที่มีบทพิสูจน์ในเรื่อง “ภาวะผู้นำ - ความเด็ดขาด” แถมเคยฟีเวอร์ถึงขนาดคนเชียร์ให้เป็นนายกฯมาแล้ว

สเปกต้องตาต้องใจ “บิ๊กพลังประชารัฐ” รวมไปถึง “บิ๊กตึกไทยคู่ฟ้า” ที่กำลังทาบทามอย่างหนักให้ปลงใจมาลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ภายหลังจากเกษียณอายุราชการในช่วงเดือนตุลาคม 2562 นี้

แล้วถ้า “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” มาตามนัด ก็ปูเสื่อรอดู “แมตซ์หยุดโลก” ได้เลย

ศึกชิง “อาณาจักรเสาชิงช้า” หนนี้ จะได้รู้กันว่า “กัปตันหนึ่ง” ฮีโร่ถ้ำหลวง กับ “เสี่ยทริป - ชัชชาติ” เดอะฮัคค์จอมพลัง ใครจะแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี.




กำลังโหลดความคิดเห็น