จากลูกแม่ค้าโบ๊เบ๊ ชีวิตรันทดถูกไล่ออกจากบ้าน เป็นเจ้ามือไฮโล ออกทีวีเป็นเจ้าของร้านทุกอย่าง 20 บาทจนผู้คนหลงเชื่อซื้อแฟรนไชส์ "เบนซ์ โอเค 20" ถูกผู้เสียหายร้องกองปราบฯ ข้อหาฉ้อโกง จ่ายไปนับแสนแต่ไม่มีของ ส่วนเจ้าตัวติดคุกข้อหาเช็คเด้ง 6 เดือนไม่รอลงอาญา
... รายงาน
ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) กำลังได้รับความนิยม ทั้งจากเจ้าของกิจการที่ต้องการขยายธุรกิจ ขยายสาขาเพิ่มขึ้น กับผู้สนใจที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ไม่อยากเหนื่อยกับการสร้างธุรกิจใหม่ ก็เลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญ ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงและยอมรับจากบุคคลทั่วไป
ถึงกระนั้น ธุรกิจแฟรนไชส์นับร้อยนับพันรายที่วนเวียนอยู่ในขณะนี้ อาจมีบางแบรนด์ที่กลายเป็นว่า "หลอกสูบเลือดสูบเนื้อ" จากคนมีฝันที่นำเงินเก็บมาทั้งชีวิตมาลงทุน สร้างความเดือดร้อน ก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ผู้เสียหายนับสิบราย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับ "เบนซ์ โอเค 20" หรือ นายนพพล บุญโชคยิ่ง วัย 27 ปี ทำธุรกิจแฟรนไชส์ขายสินค้าในราคา 20 บาท หลังหลอกให้ร่วมลงทุนแต่กลับไม่ส่งสินค้ามาให้ บางรายไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
น.ส.นัธชาพัฒน์ หิรัญวรสถิตย์ ชาว จ.จันทบุรี ผู้เสียหายรายหนึ่ง ระบุว่า ถูกนายเบนซ์หลอกลวงทำธุรกิจเช่นกัน แต่ไม่มีการส่งของมาให้ เมื่อสอบถามมักจะได้รับคำตอบว่าเกิดปัญหาการส่งสินค้าจากต่างประเทศ และระบุว่า "ผมไม่ได้โกงนะครับ ผมส่งของล่าช้า" ทั้งที่ตนทำธุรกิจ เสียเงินไปแล้วกว่า 430,000 บาท แต่กลับทำไม่ตรงตามสัญญา
"ถ้าไม่มีเจตนาว่าส่อพฤติกรรมที่ว่าจะไม่โกง คุณต้องไม่บอกว่าอยู่ต่างประเทศ เพราะคุณติดแบล็กลิสต์ออกต่างประเทศไม่ได้" น.ส.นัธชาพัฒน์ กล่าว
เธอกล่าวว่า ที่แจ้งความเอาผิด ส่วนหนึ่งเพราะแค้นใจเงิน 430,000 บาท แต่อีกส่วนหนึ่งคือ นายเบนซ์ยังลอยนวลที่จะทำเลวอย่างนี้อยู่ รู้สึกรับไม่ได้ ทำไมคนโกงยังมีชีวิต มีพื้นที่อยู่ในประเทศไทย บางคนที่จนกว่าก็ยังถูกหลอกอยู่เรื่อยๆ ไม่ควรทำพฤติกรรมไปเที่ยวปาร์ตี้ นั่งเรือยอร์ช ใส่นาฬิกาปาเต็กโดยการโกงจากพวกเรา เราไม่โอเค
ผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง คือ "เชอรี่-เมลิสา มหาพล" อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2549 ทำธุรกิจโกดังขายส่งสินค้า 20 บาทในชื่อ Lucky666 ถูกนายเบนซ์อ้างว่าเป็นหุ้นส่วน เพราะมีผู้เสียหายโทรศัพท์มาที่ตนว่า "โอนเงินให้แล้ว ทำไมยังไม่ส่งสินค้า" ถามว่าโอนเงินให้ใคร พบว่าโอนไปยังบัญชีนายเบนซ์ ทั้งที่เป็นเพียงลูกค้า ไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกับตน
แถมยังรู้อีกว่า นายเบนซ์สมอ้าง เป็นญาติทำธุรกิจร่วมกัน รวมทั้งใช้ชื่อตนไปเปิดแบรนด์สินค้าอื่นๆ อาทิ Hello Twenty, BB 20 และพยายามทำให้เข้าใจว่าโกดังสินค้า Lucky666 เป็นของ โอเค 20 เหมือนกัน จนมีลูกค้าโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องนี้จำนวนมาก จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
เชอรี่ กล่าวว่า รู้จักกับนายเบนซ์มา 1 ปีกว่า โดยติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะสั่งของจากตนมาตลอด ที่ผ่านมามีปัญหาเงินที่ค้างกว่า 1.8 ล้านบาท ผัดผ่อนชำระมากว่า 1 ปี แต่ก็ยังขายของให้ตลอด เพราะคิดว่านายเบนซ์อาจติดปัญหาลูกค้าจ่ายเงินบ้าง ไม่จ่ายเงินบ้าง
แต่เมื่อได้คุยกับผู้เสียหายรายอื่นทราบว่า นายเบนซ์มักจะหลอกในลักษณะคล้ายๆ กัน คือ โอนเงินแล้วไม่ส่งของมาให้ บางรายโอนเงินจ่ายค่าแฟรนไชส์และค่าสินค้า ตั้งแต่ 1 แสนบาท จนถึง 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า นายนพพล หรือเบนซ์ ถูกตำรวจ สน.ปทุมวัน ควบคุมตัวในคดีเช็คเด้ง ซึ่งตัดสินจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่หลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่ นางมนตรา บุญโชคยิ่ง มารดานายเบนซ์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ เมื่อ 11 ก.ค. อ้างว่าไม่ทราบเรื่องของลูกชาย เพราะอยู่ในเรือนจำ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือก็หาย เอกสารของลูกค้าหายหมด ยืนยันว่าไม่มีเรื่องฉ้อโกง ตนเองจะจัดการเรื่องทุกอย่างแทนลูกชาย ถ้าผู้เสียหายรายใดยังไม่ได้รับสินค้าให้มาติดต่อที่ตน
"คนไหนพูดเรื่องจริง ทางแม่จะเคลียร์ให้หมดนะ แต่ถ้าคนไหนพูดไม่จริง แม่จะฟ้องกลับให้ถึงที่สุดเลย" นางมนตรา กล่าว
สำหรับนายเบนซ์ หรือนายนพพล บุญโชคยิ่ง จบการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ทำธุรกิจเปิดร้านขายสินค้า "โอเค 20" เมื่ออายุ 20 ปี เปิดสาขาแรกที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร ในปี 2555 อ้างว่ามีรายได้วันละนับแสนบาท ก่อนจะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาบางบอน, สาขาวัดไทร เขตจอมทอง และสาขาเชียงใหม่
หลังจากนั้น นายนพพลไปออกรายการ "SME ตีแตก" ที่บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผลิตร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) แล้วได้รับรางวัลเป็นผู้ชนะในรายการตอนนั้น นอกจากนี้ ยังเคยไปออกรายการ "อายุน้อยร้อยล้าน" ของ ก้อง-อรรฆรัตน์ นิติพน ทำให้มีคนหลงเชื่อ เข้ามาทำธุรกิจกับโอเค 20 เยอะขึ้น (ปัจจุบันไม่มีคลิปรายการนี้แล้ว)
แต่รายการอายุน้อยร้อยล้าน ก็ถูกสังคมจับตามอง เพราะก่อนหน้านี้ถูกโลกโซเชียลแฉว่าคนที่มาออกรายการแต่ละคน บางคนไม่ได้ร่ำรวยจริง เช็กจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่ารายได้แค่ไม่กี่ล้าน แต่ใช้วิธีจ่ายเงินให้รายการ 1 ล้านบาท เพื่อให้ได้ออกทีวีล่อแมงเม่าซื้อแฟรนไชส์ ซื้อคอร์สอบรมหลักแสนบาท และธุรกิจแชร์ลูกโซ่เลี่ยงกฎหมาย
ทำเอา ก้อง-อรรฆรัตน์ ต้องออกมาชี้แจงว่า เราเป็นธุรกิจมีเดีย รับเงินจากผู้สนับสนุนรายการ มีทีมงานหลายสิบคนเพื่อทำงานนี้ มีต้นทุนการทำงานเดือนละหลายล้านบาท แต่มีสปอนเซอร์ดีๆ มากมายสนับสนุนในสิ่งที่เราทำ เพราะมีความเชื่อเหมือนกันว่า อาจเป็นแรงใจกระตุ้นให้เกิดนักธุรกิจรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น
ก่อนหน้านี้ นายเบนซ์ ไปออกรายการของ วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา เมื่อปี 2559 เผยชีวิตตัวเองว่า เกิดในครอบครัวรากหญ้า พ่อแม่หาบเร่แผงลอย ขายของอยู่ที่ตลาดโบ๊เบ๊ บ้านอยู่ฝั่งธนบุรี อายุ 18 ปี โดนพ่อไล่ออกจากบ้านเพราะติดเพื่อน ติดเที่ยวกลางคืน ใช้เงินเยอะ เมื่อพ่อให้เฝ้าร้านก็ขโมยเงินพ่อไปเลี้ยงเพื่อน
เมื่อถูกไล่ออกจากบ้าน ผันตัวไปเป็นเจ้ามือไฮโล 2 ปี เมื่อได้เงินมาก็ไปเที่ยวเล่นตลอด วันหนึ่งเริ่มขยายบ่อนไฮโล 3-4 แห่ง ให้ลูกน้องเฝ้า ก็ถูกลูกน้องโกงเงิน 3 วันโกงไป 2 ล้านบาท เมื่อหมดตัวจึงกลับเข้าบ้าน พ่อไม่ได้ว่าอะไร ให้ไปเฝ้าร้านเหมือนเดิม เมื่อที่บ้านขายส่งสินค้า จึงเกิดแนวคิดที่จะนำสินค้าเหล่านี้มาขายปลีกในราคา 20 บาท
นายเบนซ์ กล่าวว่า เปิดสาขาแรกที่มหาชัย เพราะคนที่บ้านไปเที่ยวกันบ่อย ไปซื้ออาหารทะเล ทานอาหารนอกบ้านทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เห็นว่ามีแรงงานต่างด้าวเยอะ ถ้ามาที่นี่ขายดีแน่ เน้นทำเลที่ใกล้กับร้านสะดวกซื้อดังเป็นหลัก หลังจากนั้นเปิดเอง 5 สาขา พร้อมลงโฆษณาหนังสือว่าจะขายแฟรนไชส์ ผ่านไป 3 ปีมีทั้งหมด 355 สาขา
สำหรับขั้นตอนการเปิดร้าน "โอเค 20" พบว่า จะให้ผู้สนใจหาทำเลที่เหมาะสม เช่น ตลาด หน้าโรงพยาบาล หน้าโรงเรียน แหล่งชุมชน ใกล้ร้านสะดวกซื้อชื่อดัง แล้วซื้อแฟรนไชส์เลือกแพ็คเกจการลงทุน เริ่มต้นที่ 99,000-659,000 บาท หลังจากนั้นจะนัดคิวจัดส่งสินค้า และนัดคิวเข้าตกแต่งร้าน หลังจากตกแต่งร้านเสร็จเปิดร้านได้ทันที
สินค้าที่นำมาขาย ประกอบด้วย ของใช้พลาสติก เครื่องเขียน เครื่องใช้ในห้องน้ำ อุปกรณ์โทรศัพท์ เครื่องครัว เครื่องมือช่าง ของเล่นเด็ก และสินค้าเบ็ดเตล็ด อ้างว่าลิขสิทธิ์ถูกต้อง โดยต้นทุนสินค้าตกชิ้นละ 15 บาท ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้กำไรชิ้นละ 5 บาท สินค้าที่นำไปขายแล้วขายไม่ได้ จะให้เปลี่ยนได้ภายใน 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คดีนายเบนซ์ตกเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ จากการตรวจสอบเพจ OK20 พบว่าอัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นภาพบรรยากาศจัดเรียงสินค้า สาขาห้วยยอด จังหวัดตรัง ก่อนที่จะไม่มีความเคลื่อนไหว สอดรับกับรายงานที่นายเบนซ์ถูกจับกุม ขณะที่เว็บไซต์ของร้านโอเค 20 ไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไป
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท โอเค 20 จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 54/233 ซอยบรมราชชนนี 101 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร มีนายนพพล บุญโชคยิ่ง เป็นกรรมการบริษัท
ที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท พบว่าบริษัท โอเค 20 แห่งนี้ ยังไม่มีการส่งงบการเงินแต่อย่างใด ซึ่งตามกฎหมายหากขาดการส่งงบการเงินเกิน 3 ปีติดต่อกัน นายทะเบียนจะพิจารณาดำเนินการถอนชื่อนิติบุคคลออกจากทะเบียนเพื่อปรับปรุงฐานข้อมูล และป้องกันการใช้ชื่อนิติบุคคลที่มิได้ทำการค้ามาหลอกลวงประชาชน
เมื่อนายเบนซ์ถูกจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน แถมยังมีคดีฉ้อโกงจากผู้เสียหายนับสิบรายรออยู่ ขณะที่แม่ของนายเบนซ์อ้างว่าจะรับผิดชอบทั้งหมด จึงไม่รู้ว่าในวันข้างหน้า ธุรกิจโอเค 20 ของนายเบนซ์จะมีชะตากรรมอย่างไร
