xs
xsm
sm
md
lg

คลังสมองสหรัฐฯ เผยเวียดนาม-จีนตึงเครียด เรือ 2 ฝ่ายเผชิญหน้าในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รอยเตอร์ - สถาบันคลังสมอง 2 แห่ง ที่มีสำนักงานในสหรัฐฯ เผยว่า เรือเวียดนามและจีนได้เผชิญหน้ากันในพื้นที่ใกล้แปลงน้ำมันนอกชายฝั่งในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้ ซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม

เขตเส้นประ 9 เส้น รูปตัวยู (U) ของจีน ซึ่งกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างในน่านน้ำทะเลจีนใต้ จีนได้ใช้อ้างสิทธิครอบคลุมทั้งไหล่ทวีปของเวียดนาม ที่เวียดนามเองได้มอบสัมปทานน้ำมันให้ต่างชาติ

เรือ Haiyang Dizhi 8 ที่ดำเนินการโดยสำนักงานธรณีวิทยาของจีน (CGS) เสร็จสิ้นภารกิจสำรวจน่านน้ำใกล้หมู่เกาะสแปรตลีย์ 12 วัน เมื่อวันจันทร์ (15) ตามรายงานของศูนย์การศึกษายุทธศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (CSIS) และศูนย์การศึกษาเพื่อการป้องกันประเทศชั้นสูง (C4ADS)

หนึ่งในแปลงน้ำมันที่เรือลำดังกล่าวเข้าสำรวจเป็นแปลงน้ำมันที่เวียดนามอนุญาตสัมปทานแก่บริษัท Repsol ที่เป็นบริษัทด้านพลังงานของสเปน ซึ่งเมื่อปีก่อน และในปี 2560 บริษัทจำต้องระงับปฏิบัติการในน่านน้ำเวียดนามเพราะแรงกดดันจากจีน

ข้อมูลจาก Winward Maritime ที่รวบรวมโดยศูนย์ C4ADS ระบุว่า ขณะที่เรือ Haiyang Dizhi 8 ทำการสำรวจ มีเรือของหน่วยรักษาชายฝั่งจีน 3 ลำคอยคุ้มกัน ขณะเดียวกัน ก็มีเรือเวียดนาม 9 ลำ คอยติดตามอยู่อย่างใกล้ชิด

ในอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นหลายวันก่อนหน้า เรือของหน่วยรักษาชายฝั่งจีน Haijing 35111 ทำในสิ่งที่ CSIS อธิบายว่าเป็น “ลักษณะของการคุกคาม” ต่อเรือของเวียดนามที่กำลังให้บริการแท่นขุดน้ำมันของญี่ปุ่น Hakuryu-5 ที่บริษัท Rosneft ของรัสเซียเช่าใช้ในแปลงน้ำมัน 06.1 ของเวียดนาม ห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศราว 370 กิโลเมตร โดยแปลงดังกล่าวก็อยู่ภายในพื้นที่เส้นประ 9 เส้นของจีนเช่นกัน

เมื่อปีที่ผ่านมา รอยเตอร์รายงานว่า บริษัท Rosneft Vietnam BV ที่เป็นบริษัทในเครือ Rosneft มีความวิตกว่า การขุดเจาะของบริษัทที่แปลง 06.1 จะสร้างความไม่พอใจให้แก่จีน

“เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ขณะที่เรือของเวียดนามกำลังออกจากแท่นขุด Hakuryu-5 เรือ 35111 ได้แล่นผ่านเข้าไประหว่างเรือเหล่านั้นด้วยความเร็วสูง โดยห่างจากเรือแต่ละลำในระยะ 100 เมตร และห่างจากแท่นขุดไม่ถึงครึ่งไมล์ทะเล” CSIS ระบุในรายงาน

อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนจนถึงตอนนี้ยังมีเรือลำใดของจีนที่ยังคงท้าทายแท่นขุดเจาะของ Rosneft

ในปี 2557 ความตึงเครียดระหว่างเวียดนามและจีนพุ่งถึงระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี เมื่อแท่นขุดน้ำมันของจีนเริ่มขุดเจาะในน่านน้ำเวียดนาม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการปะทะกันของเรือทั้งสองฝ่าย และเกิดเหตุจลาจลต่อต้านจีนในเวียดนาม

ในการตอบสนองต่อรายงานการเผชิญหน้าของเดือนนี้ นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ว่า ตำแหน่งของจีนในทะเลจีนใต้ชัดเจนและมั่นคง

“จีนปกป้องอย่างแน่วแน่ในสิทธิอธิปไตยของประเทศในทะเลจีนใต้ และสิทธิทางทะเล และในขณะเดียวกัน ก็สนับสนุนส่งเสริมการควบคุมข้อพิพาทกับประเทศที่เกี่ยวข้องผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว

ในวันอังคาร (16) กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ออกคำแถลงตอบสนองต่อการพัฒนาที่เกิดขึ้นล่าสุดในทะเลจีนใต้

“หากปราศจากการอนุญาตจากเวียดนาม การกระทำทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยฝ่ายต่างชาติในน่านน้ำของเวียดนามจะไม่มีผลทางกฎหมาย และถือเป็นการบุกรุกน่านน้ำเวียดนาม และการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม กล่าว แต่คำแถลงไม่ได้ยืนยันหรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

ทั้งบริษัท Rosneft และบริษัท Repsol ยังไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความเห็นของรอยเตอร์ในเรื่องนี้

ในคำแถลงฉบับใหม่ที่ออกในวันพุธ (17) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนยอมรับว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเวียดนาม

“เราหวังว่าฝ่ายเวียดนามจะสามารถเคารพอำนาจอธิปไตยของจีน และขอบเขตอำนาจเหนือน่านน้ำที่เกี่ยวข้อง และไม่กระทำการใดที่อาจทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น” นายเกิง ชวง กล่าวแถลง

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ขณะที่จีนกำลังดำเนินการสำรวจแปลงน้ำมัน นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ของเวียดนามได้เดินทางไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของหน่วยรักษาชายฝั่งเวียดนามในกรุงฮานอย

สื่อของทางการเวียดนามไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์พิพาท แต่ได้เผยภาพนายกฯ เหวียน ซวน ฟุ้ก กำลังพูดคุยกับลูกเรือบนเรือผ่านวิดีโอลิงก์ โดยผู้นำเวียดนามได้กล่าวกับลูกเรือให้มีความระมัดระวังและพร้อมต่อสู้ และตระหนักถึงการพัฒนาที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ตามคำแถลงของหน่วยรักษาชายฝั่งเวียดนามที่ระบุบนเว็บไซต์

ในวันเดียวกัน นางเหวียน ถิ กิม เงิน ประธานสมัชชาแห่งชาติเวียดนาม ได้พบหารือกับนายลี่ จ้านซู ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ที่กรุงปักกิ่ง โดยสำนักข่าวซินหวาของจีนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมกันปกป้องรักษาสันติภาพและความมั่นคงในทะเล.
กำลังโหลดความคิดเห็น