xs
xsm
sm
md
lg

ทหารเกาหลีเหนือแปรพักตร์ข้ามแดนซบ ‘เกาหลีใต้’ อีกราย

เผยแพร่:


เอเอฟพี - ทหารเกาหลีเหนือแปรพักตร์นายหนึ่งได้ลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามายังเขตปลอดทหาร (demilitarized zone) ที่กั้นกลางระหว่างสองเกาหลี ซึ่งถือเป็นการหลบหนีข้ามแดนโดยตรงที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก กองทัพโสมขาวแถลงยืนยันวันนี้ (1 ส.ค.)

นับตั้งแต่คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝั่งจากผลของสงครามเมื่อ 65 ปีก่อนก็มีพลเมืองโสมแดงทยอยหลบหนีข้ามมายังฝั่งเกาหลีใต้แล้วไม่ต่ำกว่า 30,000 คน โดยสาเหตุหลักของการลี้ภัยก็คือปัญหาเศรษฐกิจซึ่งทำให้ชาวโสมแดงอดอยากแร้นแค้น

อย่างไรก็ดี ผู้แปรพักตร์ส่วนใหญ่มักจะหนีข้ามไปยังจีนก่อน แล้วจึงหาวิธีเดินทางต่อมายังเกาหลีใต้ผ่านประเทศที่ 3 มีเพียงส่วนน้อยที่กล้าเสี่ยงชีวิตหนีข้ามเขตปลอดทหารชายแดน ซึ่งเต็มไปด้วยกับระเบิด และมีกำลังทหาร 2 ฝ่ายคุ้มกันอยู่อย่างหนาแน่น

เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2017 มีทหารโสมแดงวิ่งหลบลูกกระสุนปืนของเพื่อนร่วมชาติข้ามมายังหมู่บ้านปันมุนจอมจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก โดยทหารวัย 24 ปีคนดังกล่าวแม้จะถูกยิงหลายนัด แต่ยังโชคดีที่รอดชีวิตมาได้

คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้แถลงว่า ทหารแปรพักตร์คนล่าสุดนี้ถูกจับหลังจากเดินข้ามเส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร (military demarcation line) และมุ่งหน้ามาทางทิศใต้เมื่อคืนวันพุธ (31 ก.ค.)

กองทัพเกาหลีใต้ได้นำตัวทหารโสมแดงผู้นี้ไป “คุมขังตามกระบวนการ” และอยู่ระหว่างสอบปากคำ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการระบุตัวตนหรือแรงจูงใจในการหลบหนี

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 โซลได้สั่งปลดผู้บัญชาการทหารถึง 3 นาย หลังปล่อยให้ทหารเกาหลีเหนือนายหนึ่งเดินท่อมๆ ผ่านรั้วไฟฟ้าและกล้องวงจรปิดตรงแนวพรมแดนเข้ามาโดยไม่มีใครตรวจพบ

การติดต่อสื่อสารระหว่างโซลและเปียงยางเริ่มเป็นไปอย่างจำกัดตั้งแต่เดือน ก.พ. หลังการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือปิดฉากลงด้วยความล้มเหลว ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการปลดอาวุธนิวเคลียร์หรือผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรใดๆ ได้

รัฐบาลเปียงยางประณามผู้แปรพักตร์ซึ่งมักจะกลายเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีให้กับต่างชาติว่าเป็นพวก “เศษเดนมนุษย์”

ปักกิ่งมองว่าชาวเกาหลีเหนือที่หนีข้ามแดนมายังจีนมีสถานะไม่ต่างจากผู้อพยพผิดกฎหมาย และจะส่งคนเหล่านั้นคืนให้แก่ทางการโสมแดง ซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนระบุว่าพวกเขาจะต้องตกเป็นเหยื่อการคุมขังและทรมานอย่างหนัก

กำลังโหลดความคิดเห็น