xs
xsm
sm
md
lg

ตัดไม่ขาด "แก้ว" ยังดูแล "อ๊อด โอภาส" ลามไปถึง "เสธ.ต๊อด" ห่วงด้วย แม้ไม่ใช่ผัว แต่ยังเป็นครอบครัว

เผยแพร่:


"แก้ว อภิรดี" ตัดไม่ขาด ห่วง "อ๊อด โอภาส" อดีตผัวเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ยังดูแลให้กำลังใจ แม้ไม่ใช่สามีภรรยา แต่ยังเป็นครอบครัว เผยแม้แต่ "เสธ.ต๊อด" ก็ห่วงไปด้วย เชื่ออดีตสามีไม่เครียดเรื่องป่วย แต่เครียดเพราะวัยทอง

แม้จะออกจากการเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว แต่ "แก้ว อภิรดี ภวภูตานนท์" ก็ยังห่วงใย "อ๊อด โอภาส ทศพร" ตลอด โดยเฉพาะกรณีที่อีกฝ่ายป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ล่าสุดแก้วได้เปิดใจระหว่างมาร่วมงานประกาศรางวัล Press Awards 2019 "เณศไอยรา" รางวัลสื่อสารมวลชน วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ "รางวัลแห่งความสำเร็จ" "บุคคลตัวอย่าง" ประจำปี 2562 ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ หลักสี่ เผยความเป็นพ่อแม่ลูกยังตัดกันไม่ขาด ซึ่งแม้แต่ "เสธ.ต๊อด พันเอก วินธัย สุวารี" ก็ยังห่วงใยอดีตสามีไปด้วย

"คือโรคของพี่อ๊อดเป็นโรคที่ยังไงก็รักษาไม่หาย เป็น 1 ใน 200 โรคที่ถือว่าไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ แต่ว่าประคับประคองให้ไม่แย่มากดีกว่า นี่คือทำได้ดีที่สุดตรงนี้ ซึ่งถ้าพี่อ๊อดดูแลตัวเองตรงนี้น้อยเกินไป มันก็จะหนักขึ้น ก็คือหนักตั้งแต่อัมพาต อัมพฤกษ์ หรือเกิดอุบัติเหตุแล้วมีปัญหาไปเลย เพราะว่าภูมิเขาทำงานผิดปกติ ภูมิเขาทำให้กระดูกทุกส่วนในร่างกายมันต่อติดกันเลย ซึ่งอันนี้อันตรายมาก อย่างเวลาขับรถหันซ้าย หันขวาเขาก็จะลำบาก แต่ยังไงตัวเราก็ต้องช่วยตัวเองด้วย เขาก็ดูแลตัวเองอยู่เรื่องกายภาพบำบัด แต่ที่แน่ๆ คือทั้งลูกและตัวแก้วเองก็ยังคอยดูแลอยู่ค่ะ"

ยังเป็นครอบครัว แม้ไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว
"พี่อ๊อดจะปรึกษาเราตลอดนะคะ คือเราไม่ได้เป็นครอบครัวที่ไม่ใช่ครอบครัว (ยิ้ม) คำว่าครอบครัวไม่ได้แปลเปลี่ยนไปไหน แต่คำว่าสามีภรรยาต่างหากล่ะที่เปลี่ยนไป แต่ในหน้าที่ของคุณพ่อก็ยังคงเหมือนเดิม หน้าที่ของครอบครัวคือพ่อแม่ลูกก็ยังคงเป็นสถานะเดิม เราแค่เปลี่ยนสถานะในส่วนของสามีภรรยาเท่านั้น เพราะฉะนั้นความรักความผูกพันในส่วนที่จะต้องดูแลเกื้อหนุนกันมันเยอะกว่าเพื่อนอยู่แล้ว​ ขนาดเพื่อนเรายังดูแลเลย แล้วนี่เขามากกว่าเพื่อนนะ แค่ไม่ได้เป็นสามีทำไมเราจะดูแลไม่ได้"

ไม่ยากที่จะดูแลอีกฝ่ายเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน
"ก็ไปดูแลปกติเลยค่ะ เป็นเรื่องหนึ่งในชีวิตเราเลยค่ะ แต่ก็เป็นการดูแลเบื้องต้น เพราะเขายังไม่ได้หนัก แต่ถ้าเขาหนักก็จะถึงเรา พี่อ๊อดเขาจะเป็นคนไม่ค่อยพูด ถ้าเขาแย่เขาถึงจะพูด แล้วบ้านเขาก็อยู่หลังบ้านแก้วนี่เอง เหมือนแค่เอามือผลักรั้วก็เจอกันแล้ว (หัวเราะ)​ ก็เลยไม่ได้ยากอะไรที่จะดูแล อาหารการกินคนทำงานบ้านแก้วก็ดูแลเขาอยู่ตลอด ลูกก็ได้เจอกันอยู่สม่ำเสมอ โดยรวมถ้าแกแย่จริงๆ ก็ต้องบอกอยู่แล้ว เพราะที่พึ่งของแกก็มีแค่พวกเรา"

ไม่รู้อีกฝ่ายเกรงใจตนหรือเปล่า แต่สนิทกัน ไม่น่าต้องเกรงใจ แม้แต่เสธ.ต๊อดยังห่วงใย
"อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ แต่จริงๆ สนิทกันขนาดนี้แล้วก็ไม่น่าที่จะต้องเกรงใจ ถ้าเกรงใจแปลว่าต้องรบกวนในสิ่งที่ไม่ถูกต้องใช่ไหมคะ แต่นี่เรื่องโรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้วที่เราควรจะดูแลกัน และที่สำคัญที่สุดพี่อ๊อดก็ไม่ได้มีแค่แก้วนะคะ นอกจากแก้วและลูก ต๊อด เขาก็ยังใส่ใจห่วงใยด้วยนะคะ เพราะเขาถือว่าเป็นคนในครอบครัวแก้ว การที่ดูแลคนที่เจ็บไข้ได้ป่วยไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนที่รักกันหรือแค่คนในครอบครัวนะคะ ถ้าเรารู้สึกผูกพันกับใครแล้วเขาป่วย เราก็ควรที่จะให้การช่วยเหลือถ้าเราทำได้นะคะ ถึงเราไม่ใช่คุณหมอก็เถอะ แต่เราก็สามารถรวบรวมทรัพย์เงินทองเท่าที่เราสามารถทำได้"

รับอ๊อดยังใช้ชีวิตปกติ แต่มีโลกส่วนตัวที่อาจเข้าไม่ถึง
"ปกติค่ะ แค่ถ้าอยู่ๆ เขาไม่ได้เกิดอาการอักเสบขึ้นมานะ เพราะโรคภูมิแพ้มันไม่ได้เกิดขึ้นสม่ำเสมอตลอดเวลานะคะ แต่ถ้าช่วงไหนที่ออกกำลังกายในเรื่องของกายภาพน้อยไป หรือแม้แต่เรื่องของความอ้วน เขาก็ต้องคอยดูแลตัวเองตลอด และตัวเขาเองก็ต้องดูแลตัวเองก่อนอันดับแรก แล้วถ้าหนักจริงๆ คนในครอบครัวก็ถึงดูว่าเขาต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง แต่เดี๋ยวนี้เขามีโลกส่วนตัวเยอะ ก็อาจจะเข้าไม่ถึงก็ตรงนี้แหละ กลายเป็นน​างห้องอยู่ในห้องส่วนตัวเยอะหน่อย อะไรที่อาจจะทันการก็อาจจะไม่ทันการก็ตรงนี้แหละ ไม่ใช่พวกเราไม่ไปดูแน่นอน"

เชื่อเครียดเพราะวัยทองมากกว่า
"ถามว่าเขาเครียดไหม แก้วว่าเขาเป็นมานานแล้วนะ ไม่น่าจะเพิ่งมาเครียด ถ้าจะเครียดก็น่าจะวัยทองแหละ (หัวเราะ)​ อันนี้คิดเองนะ ก็วัยนี้แล้วเนอะ คงไม่ใช่วัยทองไม่รู้ร้อนแล้วล่ะ แต่พี่อ๊อดเขาเป็นคนที่​ถ้าเป็นมากจริงๆ เขาก็จะบอก แต่ถ้าไม่มากเขาก็อึดอยู่"

"ตอนนี้ก็ห่วงเรื่องโชคร้ายที่เป็นโรครักษาไม่หาย แต่ห่วงไปก็ไม่มีประโยชน์แล้วนอกจากต้องสู้กันต่อไป แต่จะไปบอกเขาว่าเป็นห่วงโน่นนี่มากก็ไม่ดี เพราะเขาก็เป็นคนปกตินะ จะไปทำเหมือนเขาเป็นคนป่วยขนาดนั้นก็ไม่ได้ เราต้องให้เกียรติเขา เขาขะได้รู้สึกว่าเขาปกติ แต่บางทีเวลาไปไหนด้วยกันเขาก็อาจจะไม่ค่อยชอบถ่ายรูป เขาจะชอบพูดตลอดว่าระวังติดผมเข้าไปนะ คือคนเคยร้องเพลงยืนกางขาอยู่ตลอดนะ เขาก็เลยไม่มั่นใจ แต่แฟนคลับก็ยังติดตามคอยให้กำลังใจเขาตลอดนะ เพราะเสียงเขาก็ยังใสกริบเหมือนเดิมนะคะ และเขาก็ยังสนุกสนานเหมือนเดิม เขาก็ยังรับงานปกติ ก็ถ้าใครที่รักเขาก็จ้างงานเขาเยอะๆ นะคะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน พี่อ๊อดเขาก็จะภูมิใจค่ะ"

กำลังโหลดความคิดเห็น