เลือดนักการเมืองพุ่งพล่าน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เผยค้นพบตัวตนแล้วว่าชอบด้านการเมือง อยากทำประโยชน์เพื่อประชาชนและส่วนรวม เผยเหตุลาออกจากพรรคเก่าเพราะพูดแล้วไม่ทำ เตรียมสังกัดพรรคใหม่
เซอร์ไพร์สตั้งแต่มีชื่อของ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ไปเล่นการเมืองสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไทย งงว่าไปไงมาไงเล่นละครร้องเพลงอยู่ดีๆ โผล่ไปเป็นนักการเมือง และยิ่งตกใจหนักเข้าไปอีก เมื่อจู่ๆ ฟิล์มก็ประกาศลาออกจากพรรค โดยเจ้าตัวเผยว่า ลาออกเพราะเสนออะไรไปพรรคก็ไม่อนุมัติ ทั้งที่เป็นสิ่งที่เคยพูดเอาไว้ตอนหาเสียงไม่อยากเป็นคนที่พูดแล้วไม่ทำ ก็เลยตัดสินใจลาออกดีกว่า แต่ไม่ทิ้งการเมืองเพราะคือตัวตนและอยากทำเพื่อประชาชนและส่วนรวม
“คือผมก็มีจุดยืนของผมอยู่แล้วว่าอยากเข้ามาเพื่อพัฒนาประเทศ ทุกพรรคผมว่าก็มีมุมมองที่แตกต่างกันไป แต่ว่าเวลาเราเสนออะไรไปแล้วมันไม่เป็นไปตามอย่างที่เราต้องการอยากให้เป็น บางทีผมก็มองว่าเราอาจจะไม่มีความรู้ความสามารถตรงนั้นหรือเปล่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเขาถึงไม่อนุมัติในโครงการที่เราเสนอไป มันเป็นเรื่องของอุดมการณ์และแนวทางความคิดด้วย เพราะว่าทางเดินมันไม่ตรงกัน ก็เป็นเรื่องปกติที่ออกมา ก็มีแต่คนบอกว่าผมบ้าหรือเปล่า เพราะมีแต่คนเขาอยากจะอยู่ในรัฐบาล เพราะมีแต่ผลประโยชน์ แต่ผมไม่ได้มองตรงนั้น แต่ว่าไม่ทิ้งการเมืองนะครับ แค่ออกจากพรรคเดิม อนาคตยังเล่นการเมืองแน่นอนครับ ตอนนี้ผมก็ทำงานของผมครับ”
“จริงๆ ผมมองว่าเส้นทางการเมืองของแต่ละคนมีแนวทางที่แตกต่างกัน แต่ของผมจะชัดเจนในเรื่องที่ว่าจะทำอะไรให้ใครมากกว่า คือผมมองว่าเสนอไปแล้วแต่ละอย่างมันไม่ตรงตามคำพูดที่เราได้ไปพูดกับประชาชนไว้ คือไปพูดไว้เต็มไปหมดเลย นั่นคือรูปแบบการเมืองในสมัยก่อนที่ดีแต่พูด แต่พอคุณได้รับเลือกไปแล้วคุณไม่ทำอะไรสักอย่างเลย แต่ในส่วนของผมมองว่าเราพูดไปแล้ว แต่ทำไมถึงไม่ทำ พอไม่ทำผมก็ออกดีกว่า”
“เราคงทนดูเวลาเราไปเล่นคอนเสิร์ตหรือเวลาเราไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนแล้วเขามาถามเราว่า ไหนสัญญาไว้บนเวทีวันนั้น ไหนบอกจะแก้เรื่องข้าว เรื่องประมง เรื่องเกษตร เรื่องอะไรต่างๆ ไม่เห็นจะแก้ได้เลย แล้วผมจะไปพูดยังไง เพราะพวกคุณไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในแสงสว่าง เขาจำหน้าพวกคุณยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ จำชื่อยังไมได้เลยด้วยซ้ำ แต่คุณไปรับปากเขาเต็มไปหมด แต่คนที่โดนคือผมไง แล้วพอไม่ทำผมก็ต้องออกอยู่แล้ว”
ส่วนจะไปสังกัดพรรคไหนให้เป็นเรื่องของอนาคต ชอบการเมืองมาก รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง
“อันนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตครับ แต่ว่าในส่วนตัวผมในเส้นทางการเมืองก็คือใช่ตัวเองมากที่สุด ได้มีการเสนอไอเดียความคิด เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เขาแก้ไขกันน่ะครับ มันก็ตรงกับทางของเรา ผมก็มองว่าเวลาเราได้ดีเบท ได้พูดคุย ได้ประชันทางด้านความคิด ได้แก้ปัญหาในแต่ละเวทีที่ผมไป รู้สึกว่ามันเจอตัวตนครับ ก็รู้สึกชอบ”
“ตอนนี้ก็มีพรรคติดต่อเข้ามาเยอะมากครับ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจครับเพราะตอนนี้ก็เป็นช่วงว่างๆ อยู่ แต่ผมก็คิดโปรเจ็คใหม่ อย่างเรื่องฝุ่น PM2.5 ผมก็มีความรู้แนวทางในการแก้ไข เพราะว่าผมก็เป็นบริษัทเดียวเลยที่เอาหน้ากากกันฝุ่นเข้ามา เป็นบริษัทแรกๆ เลยก่อนที่จะมีฝุ่นเข้ามาอีก เพราะผมเดินทางไปประเทศจีน และเดินทางไปเกือบทั่วทุกทวีปของโลกใบนี้ เพราะว่าเราทำทัวร์ เราก็จะรู้ว่าแต่ละทวีปเกิดอะไรขึ้นและได้แนวทางการแก้ไขมา ก็มีหลายๆ พรรคที่สนใจทางนี้ครับ”
ไม่หวั่นมีปัญหากับอดีตต้นสังกัดพรรค
“ไม่มีแน่นอนครับ ทุกคนทำงานเป็นมืออาชีพพอ คือการเมืองที่ผมบอกไม่ใช่ว่าพรรคไม่ดี แต่แค่ว่าบางอย่างนั้นแต่ละแนวทางการบริหาร เราก็เป็นแค่ตัวเล็กๆ คนนึงที่อยู่ในคณะบริหาร เราไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว คณะบริหารก็ไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว ฉะนั้นไม่มีใครผิดในเรื่องนี้ แต่แค่ว่ามันไม่ตรงตามอุดมการณ์ผม ผมไม่ชอบ”
การเมืองคือตัวตนสิ่งที่ชอบ แต่วงการบันเทิงก็ไม่ทิ้ง
“จริงๆ ผมก็ไม่ได้ทิ้งไปไหน ก็ยังอยู่ แต่วันนี้เป็นงานที่ดี เป็นกึ่งการกุศล นำรายได้ส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือพี่น้องในวงการบันเทิง จุดยืนของผมก็เป็นฟิล์มคนเดิมครับ ซึ่งผมไม่รู้ว่าทุกท่านจะให้คำจำกัดความผมว่าอะไร แต่ผมทำอะไรก็ได้ครับที่ทำเพื่อประชาชนและเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม เพราะธุรกิจของผมก็ยังทำ การเมืองผมก็ทำ เพราะได้รับโอกาสที่ดีมาจากประชาชน เราก็อยากจะตอบแทน งานในวงการมีโอกาสที่ดีเราก็ทำ เอาเป็นว่าเน้นว่าปีนี้มุ่งเน้นอะไรมากกว่าดีกว่า มันก็แล้วแต่ช่วง ปีที่ผ่านมาก็การเมือง ปีนี้พักช่วงการเมืองเว้นว่างอยู่ก็จะเป็นธุรกิจและช่วยเหลือด้านการกุศลต่างๆ”