xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : เบื้องลึกพรรคเล็กปั่นราคา เกมข่มขู่กรรโชกการเมือง

เผยแพร่:


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2562 ตอน เบื้องลึกพรรคเล็กปั่นราคา เกมข่มขู่กรรโชกการเมือง



ความเคลื่อนไหวของกลุ่มพรรคการเมืองขนาดเล็ก ที่มีส.ส.พรรคละหนึ่งคน ที่เรียกกันว่า “กลุ่มสิบพรรค” โดยการนำของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ  นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล หน.พรรคประชาธรรมไทย หรือคุ้นเคยในนาม “เสี่ยหมา”ออกมาเคลื่อนไหว

ประกาศกร้าว จะแยกตัวออกจากรัฐบาลผสม  19 พรรคการเมือง เพื่อไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ บนจุดยืนรัฐบาลทำดี ก็เอาด้วยสนับสนุน แต่หากทำไม่ดี ก็พร้อมลงมติเทไปให้ฝ่ายค้าน โดยขอดู และลงมติเป็นครั้งๆ ไป

 
ว่าไปแล้ว ท่าทีลักษณะของมงคลกิตติ์ และนายพิเชษฐ์ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ตั้งแต่ตอนฟอร์มคณะรัฐมนตรี ตอนนั้น มงคลกิตติ์ แสดงตัวเป็นโต้โผใหญ่ เป็นตัวตั้งตัวตี ให้กลุ่มสิบพรรครวมตัวกัน

ยื่นข้อเสนอ ขอโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรีสองเก้าอี้ คือ รมช.คลังหรือรมช.ศึกษาธิการ ให้กับตัวเอง และรมว.แรงงานให้กับนายพิเชษฐ์ แต่การต่อรองไม่สำเร็จ จากนั้น กลุ่มสิบพรรคก็เงียบไป ไม่ค่อยมาเคลื่อนไหวอะไรมากนัก

มารอบนี้ การออกมาปั่นราคาของพรรคการเมืองขนาดเล็กใน 19  พรรคร่วมรัฐบาล ที่ขู่จะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งถ้าเสียงส.ส.จากกลุ่มพรรคเล็กหายไปจริง ก็สุ่มเสี่ยงต่อลมหายใจของรัฐบาลจะอยู่หรือไปในทุกครั้งที่ประชุมสภาฯ

สถานการณ์ล่าสุด มีข่าวว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงคนในรัฐบาลโดยเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้จัดการรัฐบาลและว่าที่ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ลงมาเคลียร์กับพวกพรรคขนาดเล็กลงตัวหมดแล้ว

โดยรับปากจะให้เก้าอี้ ตำแหน่งทางการเมืองให้กับคนของพรรคขนาดเล็กได้กันทั่วถึง ไม่มีตกหล่น จนทำให้บางคนในกลุ่ม 10  พรรคที่คิดจะเอาด้วยเป็นแนวร่วมเดียวกับมงคลกิตติ์ ชิ่งหนีออกมา ขอเกาะขบวน หนุนลุงตู่ต่อไป

การเล่นบทตีรวน ปั่นราคาของพวกพรรคเล็ก ในรัฐบาลผสม 19 พรรค  คงไม่จบแค่นี้ แม้รอบนี้ จนไปถึงตอนโหวต พรบ.งบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท   จะเคลียร์กันได้ ไม่มีแตกแถว

แต่เมื่อมีช่องทางและจังหวะมาถึง การฉวยโอกาส พยายามปั่นราคาทางการเมือง เรียกร้องสารพัด จากพวกพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล  จะเกิดขึ้นอีกแน่นอน และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องลงมาเคลียร์ปัญหาแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น

โดยเฉพาะที่จะเกิดแน่ๆ และจะมีการเรียกร้องปั่นราคา กันหนักๆ ก็คือ  ช่วงฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 

แค่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลขนาดเล็ก ออกมาขู่ก่อนลงมติ หนักใจที่จะต้องลงมติไว้วางใจให้  เจอแค่นี้ อาจได้เห็น มีคนหิ้วกระเป๋าเจมส์บอนด์ ไปประเคนให้พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลบางพรรคก็เป็นไปได้

ปัญหาลักษณะเช่นนี้ เป็นโจทย์ใหญ่ ที่น่าหนักใจของพลเอกประยุทธ์และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่จะแก้เกม พลิกสถานการณ์ รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอย่างไร?

เพราะรอบนี้ แม้จะเคลียร์กับพวกกลุ่มพรรคเล็กได้ โดยยอมประเคนเก้าอี้การเมือง เช่นพวกกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ให้ ตามที่กลุ่มพรรคเล็กต่อรอง

แต่ระยะยาว หากพลเอกประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐ ปล่อยให้พวกพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเล็กเหล่านี้ กดหัว ต่อรอง ข่มขู่ได้เรื่อยๆ ย่อมไม่เป็นผลดีแน่นอน

ครั้นจะใช้แผน ดึงส.ส.ฝ่ายค้านมาอยู่ด้วย เป็นส.ส.งูเห่า เพื่อคอยคานกับพวกพรรคเล็ก ไม่ให้ต่อรองมาก ดูแล้ว  ถึงตอนนี้ ยังไม่สำเร็จ

สำหรับ เบื้องหน้าเบื้องหลังที่พวกกลุ่มพรรคเล็กบางพรรคใน   19พรรคร่วมรัฐบาล  พยายามต่อรอง กับพรรคพลังประชารัฐ  จนขู่จะแยกตัวออกไปเป็นฝ่ายค้าน สาเหตุหลักมาจากเรื่องการต่อรองเอาตำแหน่งทางการเมือง ที่เคยรับปากกันไว้ ถ้าไม่ออกมาขย่มก็มีหวังชื่อหายแน่
 
โดยอาศัยจังหวะนี้จัดหนักออกไป จะดีและเหมาะกับสถานการณ์ที่สุด เพราะรัฐบาลเตรียมส่งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563ไปให้สภาผู้แทนราษฏร พิจารณาให้ความเห็นชอบวาระแรกในช่วงเดือนตุลาคม

รัฐบาลไม่ต้องการให้พรบ. งบประมาณมีปัญหา มีความเสี่ยงที่จะไม่ผ่านสภาฯ ต้องคุมเสียงส. ส. ให้แน่นหนาแน่นอนที่สุด ดังนั้นเสียงงอแงที่ร้องออกมาในจังหวะนี้จึงจะได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่าปกติ ให้ทุกอย่างได้ทั้งเงินทั้งกล่อง

ตอนนี้ ก็เห็นแล้วว่า หลังจากมีเสียงข่มขู่ถอนตัว พรรคเล็กดูดีมีความสำคัญขึ้นมาแล้วในสายตาของพรรคแกนนำรัฐบาล เลยกำลังเตรียมตบรางวัลให้ตำแหน่งใหญ่ เป็นประธานกรรมาธิการชุดต่างๆไปนั่งแอ๊คท่าในเร็วๆนี้

อย่างไรก็ดี ในระยะยาว เมื่อรัฐบาลตั้งหลักได้ ก็คงจะถึงเวลาเอาคืนพรรคเล็กบ้าง ย่อมมองหาวิธีตอบโต้สั่งสอนกลับไปแน่ เช่นเด็ดหัวบางคนในพรรคเล็ก ที่มาปั่นราคา เพราะบางคนมีชนักติดหลังหลายเรื่อง

หรือหัวหน้าพรรคเล็กบางพรรค ก็มีเรื่องถูกลูกพรรค อดีตผู้สมัครส.ส.ร้องเรียน กกต. ว่าเบี้ยวเงิน ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง และขาดคุณสมบัติการลงเลือกตั้ง

เมื่อไหร่...ถ้าถึงเวลาปฏิบัติการดัดหลังเอาคืน พวกที่เรียกร้องจะเอาตำแหน่งต่างๆ ถึงตอนนั้นลำพังแค่เก้าอี้ส.ส. ของตัวเอง ยังอาจรักษาไว้ไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น