ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่เผยผลการตรวจที่เกิดเหตุในท่อบำบัดน้ำเสียโรงงานน้ำยางข้น จ.สงขลา พบมีสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่าสูงเกินกว่า 200 ppm เป็นเหตุให้คนงานหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันนี้ (13 ส.ค.) ความคืบหน้ากรณีคนงานซึ่งลงไปซ่อมท่อระบบบำบัดน้ำเสียภายในโรงงานทัทวิน ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นโรงงานส่งออกน้ำยางข้นไปต่างประเทศ และหมดสติ 4 คน และเสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน เบื้องต้น คาดสาเหตุน่าจะสูดดมก๊าซไข่เน่า หรือก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ที่เกิดจากระบบบำบัดน้ำเสียเข้าไป
ล่าสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน มลพิษจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด สาธารณสุขอำเภอสะเดา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เพื่อร่วมกันตรวจสอบจุดเกิดเหตุภายในท่อระบบบำบัดน้ำเสียที่คนงานทั้ง 4 คนลงไปและหมดสติทันที ซึ่งมีความลึกประมาณ 1.50 เมตร กว้าง 2 เมตร มีน้ำลึกประมาณ 12 เซนติเมตร และต่อมาจากตัวโรงงานไปยังบ่อบำบัดน้ำเสีย
จากการใช้เครื่องมือตรวจวัดความเข้มข้นของมลพิษอากาศ พบว่า มีสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่าสูงเกินกว่า 200 ppm ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อร่างกายหากสูดดมหรือสัมผัส จะทำให้สมองถูกทำลายสูญเสียความสามารถในการสั่งการและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งเป็นอาการเดียวกับที่เกิดขึ้นขณะที่คนงานลงไปในท่อและหมดสติทันที นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบริเวณรอบจุดเกิดเหตุ พบว่า มีรอยใบไม้ไหม้ซึ่งเป็นผลข้างเคียงกับสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ด้วย
ส่วนในทางคดีนั้น ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกพยานแวดล้อมมาสอบสวนเพิ่มเติมอีก 3 ราย ว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือความบกพร่องของทางโรงงานและผู้รับเหมา ก็จะหาผู้รับผิดชอบและดำเนินการทางคดี
อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงงานแห่งนี้ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำยางข้นส่งต่างประเทศ ที่ผ่านมา เคยถูกชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นมาแล้วถึง 5 ครั้ง และล่าสุดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็เป็นหนึ่งใน 5 โรงงานที่ นายถาวร เสนเนียม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง 2 ส.ส.สงขลา ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองแงะ เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และทางโรงงานกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย กระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้น
