รอยเตอร์ – ลี กา-ชิง (Li Ka-shing) บุคคลคลที่ร่ำรวยที่สุดบนเกาะฮ่องกงออกมาเรียกร้องวันศุกร์(16 ส.ค)ให้ประชาชนชาวฮ่องกงมีความรักให้กับฮ่องกงและมีความรักให้กับตัวเอง ถือเป็นครั้งแรกของลีที่ออกมาเรียกร้องทางสาธารณะ 1 วันก่อนหน้าเอกอัครราชทูตจีนประจำอังกฤษ หลิว เสี่ยวหมิง (Liu Xiaoming) ประกาศว่าจีนมีอำนาจในการจัดการความไม่สงบอย่างรวดเร็ว
รอยเตอร์รายงานวันนี้(16 ส.ค)ว่า สารจากลี กา-ชิง (Li Ka-shing)ปรากฎบนหน้าแรกของส่วนโฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับชั้นนำต่างๆของฮ่องกง เรียกร้องให้สาธารณะหยุดความโกรธเกรี้ยวด้วย “ความรัก” และหยุดความรุนแรง โดยในประกาศโฆษกณาได้มีการลงนามไว้ว่า “พลเมืองฮ่องกง ลี กา-ชิง”
ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการจัดเดินขบวนครั้งใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งยุทธศาสตร์ที่ทางตำรวจใช้กับผู้ประท้วงนั้นมีความรุนแรงมากขึ้น และมหาเศรษฐีลีในวัย 91 ปีกล่าวเตือนว่า แนวทางที่ดีที่สุดสามารถนำไปสู่ผลที่เลวร้ายได้
ทั้งนี้พบว่าการเดินมาร์ชวันอาทิตย์(18)ที่มีกลุ่มแนวหน้าสิทธิพลเมือง(Civil Human Rights Front) เป็นผู้จัดซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการจัดการประท้วงคนเรือนล้านเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมาได้รับอนุญาตให้รวมตัวภายในสวนสาธารณะวิคตอเรียกได้เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
ซึ่งทางกลุ่มได้ยืนขออุทธรณ์ในการตัดสินใจจากเจ้าหน้าที่
แต่อย่างไรก็ตาม การเดินขบวนที่มีกำหนดจะถูกจัดในวันเสาร์(17)ที่เขตเกาลูนย่าน Hung Hom นั้นถูกห้าม
รอยเตอร์รายงานว่า ลีซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอดีตผู้บริหรฮัตชิสัน โฮลดิงส์ไม่ได้แสดงถึงการสนับสนุนต่อรัฐบาลบริหารเกาะฮ่องกงหรือต่อตัวผู้ว่าการเกาะ แครี แลม โดยคำประกาศบนหนังสือพิมพ์ได้ชี้ไปที่การสนับสนุนต่อเสรีภาพ ความอดทนอดกลั้น และความเป็นนิติรัฐ
อย่างไรก็ตามสารที่ถูกเผยแพร่โดยโฆษกของลีได้กล่าวว่า มหาเศรษฐีฮ่องกง ลี กา-ชิง ได้กล่าวว่า “ถนนนำไปสู่นรกนั้นมักจะปูไว้ด้วยความตั้งใจดี เราต้องจำให้ดีถึงผลที่จะตามมาอย่างคาดไม่ถึง”
และเขายังชี้ว่า ถือเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะลงทุนในคนรุ่นใหม่เพื่อที่จะทำให้เกิดผลในอนาคตและต่อฮ่องกง
“พวกคนรุ่นใหม่มักหวั่นเกรงต่อนาคตที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา” รายงานจากแถลงการณ์ของลี และในแถลงการณ์ยังชี้ว่า “ผมคิดว่ารัฐบาลได้ยินเสียงที่ทั้งดังและชัดเจนจากกลุ่มผู้ประท้วงแล้ว และนั่นได้ทำให้พวกเขาต้องพยายามหาทางออก”
รอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่ที่รวมไปถึงธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่นได้ให้การสนับสนุนรัฐบาลของแลมและกองกำลังตำรวจฮ่องกง
ในวันพฤหัสบดี(15) แคปปิตอล อิโคโนมิคส์ (Capital Economics)บริษัทวิจัยออกมาเตือนว่า การประท้วงอาจนำฮ่องกงไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และเป็นวันเดียวกันกับที่เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอน หลิว เสี่ยวหมิง (Liu Xiaoming)ออกมาเตือนว่า จีนมีอำนาจภายใต้กฎหมายสามารถจัดการความไม่สงบภายในฮ่องกงอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเขาได้แสดงความเห็นว่า “รัฐบาลกลางจะไม่ยอมนั่งทับมือของตัวเองและเฝ้ามอง” และกล่าวเสริมต่อนักข่าวว่า “เรามีทางออกและอำนาจอย่างเพียงพอภายใต้จำกัดของกฎหมายพื้นฐานในการปราบปรามความไม่สงบอย่างรวดเร็ว”
รอยเตอร์ชี้ว่า หลิวได้อ้างไปถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับย่อยของฮ่องกงที่บ่งชี้ว่า ***รัฐบาลบริหารเกาะฮ่องกงมีสิทธิ์สามารถร้องขอจีนแผ่นดินใหญ่ในการควบคุมความสงบภายในดินแดนได้***
และหลิวยังกล่าวว่า “ทางรัฐบาลกลางจะไม่ยอมให้พวกก่อความรุนแรงแค่ไม่กี่คนลากฮ่องกงไปตามถนนที่อันตราย ตกลงไปส่วนลึกที่สุดอันตราย”
ทั้งนี้หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สฉบับวันศุกร์(16)ออกมาเตือนว่า จีนมีทางเลือกในการใช้กำลังเข้าแทรกแซง พร้อมกับประณามการเข้ามายุ่งเกี่ยวฮ่องกงของสหรัฐฯ
ซึ่งทางโกลบอลไทม์สย้ำว่า สถานการณ์ในฮ่องกงจะไม่เกิดขึ้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในจัตุรัสเทียบอันเหมินเมื่อวันที่ 4 ก.ค 1989 ที่จบลงด้วยการใช้รถถังเข้าปราบปรามกลุ่มนักศึกษาจีนที่เรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อ 30 ปีก่อนหน้า ตอบโต้การกล่าวหาของที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว จอห์น โบลตัน
