xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : 4 พรรค 2 ฝ่ายลุยสู้ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

เผยแพร่:


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 11 กันยายน 2562 ตอน 4 พรรค 2 ฝ่ายลุยสู้ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.


   
สนามเลือกตั้ง กทม. เป็นสมรภูมิรบที่ ไม่มีฝ่ายค้าน ไม่มีฝ่ายรัฐบาล ยิ่งวันนี้ทุกพรรคการเมืองก็อยากจะส่งคนของตัวเองเข้ามามีอำนาจที่เสาชิงช้าทั้งสิ้น ไม่มีใครอยากจะซูเอี๋ยใคร
               
โดยเฉพาะฟากฝ่ายค้าน ที่พรรคเพื่อไทยวางตัว “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีต รมว.คมนาคม ขวัญใจวัยรุ่น ที่ลุยสร้างฐานเสียง โผล่ไปทางนั้นที โผล่ไปทางนี้ที โชว์วิชั่นถูกจริตคนหลายฝ่ายมานานปี

ทว่า ต้องมาเจอกับนักการเมืองดาวรุ่งพุ่งแรง อย่างพรรคอนาคตใหม่ ที่กวาด ส.ส.เข้าสภาหลายคน กำลังฮึกเหิม เป็นประเภทความมั่นใจเหลือล้น ไม่หลบให้ง่ายๆ
               
ยิ่งการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา นักการเมืองสายเลือดใหม่ทะลักเข้าสภามาเยอะ ยิ่งทำให้พรรคสีส้มมั่นใจว่า ตัวแทนของตนจะถูกอกถูกใจและตรงเป้าหมายคนกทม. มากกว่า
               
ข่าวว่า มีชื่อของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ส่อแวว อดเข้าสภายาว จะหันมาเอาดีกับผู้ว่าเมืองกรุง แต่สุดท้ายพรรคปฏิเสธ เพราะยังไม่ได้หารือกัน
               
ว่ากันตามความจริง เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ เพราะการมีชัยในสนามผู้ว่าฯ กทม. มันสามารถสร้างอิมแพ็คทางการเมืองได้ เพียงแต่ว่า พรรคส้มหวานต้องออกมาปฏิเสธโดยเร็วไว นั่นเพราะคดีเรื่องถือหุ้นสื่อของ “ไพร่หมื่นล้าน” ยังคาอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
               
หากศาลตัดสินว่า “ธนาธร” ผิด ย่อมส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติในการเป็นแคนดิเดตชิงผู้ว่าฯ กทม. การออกตัวเร็ว อาจทำให้ฝ่ายคู่แข่งจับทางทัน เลยตัดไฟเสียแต่ต้นลม
               
จึงประเมินแล้วพรรคอนาคตใหม่ น่าจะให้คนอื่นที่มีชื่อเสียง และภาพลักษณ์ดูเป็นคนทันสมัยลงชิงมากกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีชื่อของ “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ โผล่มาอยู่ระยะหนึ่ง
              
  “เสี่ยทิม” มีความใกล้เคียงกับธนาธร ทั้งความเป็นคนรุ่นใหม่ รูปร่างหน้าตา การแสดงวิสัยทัศน์ พูดจาฉะฉาน น่าเชื่อถือ จนถูกอกถูกใจและกลายเป็นเซเลบของกลุ่มวัยรุ่น

พิธาฝากผลงานไว้หลายซ็อต โดยเฉพาะตอนประชุมสภาอภิปรายเรื่องการเกษตร จนคนแห่แชร์ แฟนคลับอวยกันยกใหญ่
               
ซึ่งถ้าไม่ใช่ชื่อนี้ ตัวแทนพรรคสีส้มก็คงมีสเปกใกล้เคียงกัน
               
ส่วนปัญหาใหญ่ที่พรรคสีส้มต้องขบให้แตกคือ จะต้องขับเคี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ที่มั่นใจในตัว “ชัชชาติ” อีกทั้งสนามเลือกตั้ง กทม.เป็นสนามศักดิ์ศรี ที่อยากจะได้มาหลายสมัยแต่สู้ไม่ได้สักที ทั้งที่พยายามสร้างฐานเสียงมาเป็นสิบๆ ปี

ประเมินว่าเพื่อไทย ภายใต้การนำทัพของเจ้าแม่กทม. คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่น่าจะยอมหลีกให้กับพรรครุ่นอาตี๋รุนหลาน ที่ระยะหลังๆ ชักเริ่มจะขบเหลี่ยมกันแล้ว
               
หากสุดท้ายไม่มีใครหลบให้ใคร จะยุ่งยาก เพราะคะแนนจะตัดกันเอง และประเคนไปให้อีกฝั่งได้เก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.แบบเตะหมูเข้าปากหมา
               
ทว่า ฝ่ายรัฐบาลก็มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็อยากจะกู้หน้า ตามคิวที่เปิดชื่อตัวเป้งๆ ออกมากันหนาหู

ไม่ว่าจะเป็นอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. และกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่แห้วเก้าอี้รัฐมนตรี ซึ่งดูเป็นคนมีภูมิฐาน หัวนอก
               
หรือแม้แต่ชื่อ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ตกงาน แต่ชื่อชั้นยังขายได้ เพียงแต่ไม่ใช่ของใหม่ และเคยเป็นนายกรัฐมนตรี จะยอมลดเกรดลงมาเล่นสนามท้องถิ่นพิเศษหรือเปล่า เท่านั้นเอง
               
ด้านพรรคพลังประชารัฐ การได้ที่นั่ง ส.ส.มาเป็นอันดับ 1 ของเมืองกรุง และเลี้ยง ส.ก. และ ส.ข.เอาไว้เต็มมือ ก็คงจะไม่ยอมหลบให้พรรคประชาธิปัตย์เหมือนกัน

ตามคิวที่ว่า วางสเปกเอาไว้เรียบร้อย ต้องเป็นคนหน้าตาดี มีการศึกษา ดูเป็นคนรุ่นใหม่ หรือมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ประชาชนทุกสีมองข้ามเรื่องฝ่าย
               
เก้าอี้ตัวนี้ พรรคพลังประชารัฐ ต้องการเก็บเอาไว้ ไม่ปล่อยไปให้ศัตรูอย่างพรรคเพื่อไทย และอนาคตใหม่แน่ แคนดิเดตต้องเปรี้ยง ตามคิวที่ปล่อยข่าวเรื่อง “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ผู้ว่าฯหมูป่า มาพักหนึ่งจนฮือฮา ก่อนจะเงียบหายไป
               
เก้าอี้นี้ พวก กทม.ที่ตีจากพรรคประชาธิปัตย์มาพรรคพลังประชารัฐ ก็อยากลง แต่สุดท้ายคงต้องหลบ เพราะกระแสคนกรุงตอนนี้ เข็นส่งไปอาจจะตายน้ำตื้น ขนาด “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ที่อยากจะลงอีกครั้ง ยังวิ่งไม่ได้
               
นอกจากนี้ ยังต้องเป็นคน 2 พรรคคือ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ เห็นพ้องต้องกัน เพื่อไม่ให้ตัดคะแนนกันเอง จนประเคนเก้าอี้ไปให้อีกฝั่งเช่นเดียวกัน
               
ถึงตรงนี้ยังไม่มีเคาะ เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน
               
นอกจากพรรคการเมือง ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมจับตา พวกลงสมัครแบบอิสระ แต่มีความป๊อบปูลาร์ในตัวเอง ไม่เล่นกีฬาสี อาจจะลงมาเป็น “ม้ามืด” อีก
               
การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ครั้งหน้านี้ สนามเปิดกว้างมาก อยู่ที่ใครจะสดใหม่ ถูกใจประชาชนเท่านั้น เรื่องพรรค เรื่องต้นสังกัด อาจต้องตัดออกไป
กำลังโหลดความคิดเห็น