เอเอฟพี - บริษัทเจ้าของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ยื่นข้อเสนอขอซื้อคู่แข่งสำคัญอย่าง ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ในราคาเกือบๆ 32,000 ปอนด์ (หรือ 40,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 36,000 ล้านยูโร หรือ 1.209 ล้านล้านบาท) ในความเคลื่อนไหวที่ทำเอาวงการช็อกกันทั่วหน้าวันนี้ (11 ก.ย.) ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นการผนึกกำลัง 2 ฮับการเงินใหญ่ที่สุดของโลกในเอเชียและยุโรปเข้าด้วยกัน
ข้อเสนอเทคโอเวอร์สูงมหึมาซึ่งครอบคลุมหนี้สินด้วยนี้ มีเงื่อนไขว่า ลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป (LSEG) บริษัทเจ้าของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน จะต้องโยนทิ้งข้อเสนอมูลค่า 27,000 ล้านดอลลาร์ของตนที่จะเข้าเทคโอเวอร์ “รีฟินิทีฟ” (Refinitiv) บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงินสัญชาติสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันทางด้าน LSEG ก็แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ออกมาโดยแถลงว่าจะ “พิจารณาข้อเสนอนี้” แต่ขณะเดียวกันก็ย้ำว่าตนเอง “ยังคงมุ่งมั่นผูกพันธ์” อยู่กับข้อเสนอที่จะซื้อรีฟินิทีฟ
ข่าวสร้างเซอร์ไพรซ์ข่าวนี้ ในเบื้องต้นส่งให้ราคาหุ้นของ LSEG พุ่งขึ้นไป 10% ต่อจากนั้นก็ยืนอยู่แถวๆ ราคาหุ้นละประมาณ 71 ปอนด์ หรือสูงขึ้นจากราคาปิดวันก่อน 4.5% ทว่ายังคงห่างไกลมากจากราคาขอเสนอซื้อซึ่งเท่ากับตีมูลค่า LSEG ในราคาหุ้นว่ากว่า 83 ปอนด์ ท่ามกลางความสงสัยข้องใจของพวกนักวิเคราะห์ที่ว่าดีลนี้มีโอกาสเป็นไปได้หรือ ในเมื่อ LSEG แสดงท่าทีมุ่งมั่นต้องการเทคโอเวอร์ รีฟินิทีฟ ถึงขนาดนี้
ในคำแถลงของ ฮ่องกง เอ็กซ์เชนจส์ แอนด์ เคลียริ่ง ลิมิเต็ด (HKEX) ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ระบุว่า ได้ยื่นข้อเสนอต่อบอร์ดของ LSEG เพื่อควบรวมกิจการของบริษัททั้งสองเข้าด้วยกัน โดยที่จะชำระเป็นเงินสดและหุ้นซึ่งตีราคา LSEG ไว้ที่ 31,600 ล้านปอนด์ บวกด้วยการชำระหนี้สินให้อีก 2,000 ล้านปอนด์
"บอร์ดของ HKEX เชื่อว่า ข้อเสนอควบรวมกับ LSEG นี้ เป็นการเสนอโอกาสทางยุทธศาสตร์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างสูง ทั้งนี้เพื่อสร้างบริษัทที่เป็นผู้นำทางโครงสร้างพื้นฐานตลาดหลักทรัพย์ระดับโลกขึ้นมา” คำแถลงของ HKEX ระบุเห็นกันว่า การควบรวมกันนับว่ามีส่วนช่วยเหลือตลาดหลักทรัพย์ทั้งสองให้มีฐานะที่ดีขึ้นในการแข่งขันกับพวกคู่แข่งรายสำคัญๆ อย่างเช่น ตลาด ICE และ CME จากสหรัฐฯ อันที่จริงแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนมองหาทางเพิ่มการปรากฏตัวของตนในเอเชียมานานแล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้เปิดเผยแผนการต่อเชื่อมกับตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นคู่แข่งของ HKEX"
ข้อเสนอการขอเข้าเทคโอเวอร์จากทางฮ่องกง ยังเกิดขึ้นในจังหวะเวลาที่อังกฤษกำลังจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป อันเป็นความเปลี่ยนแปลงใหญ่ซึ่งนักการเมืองบางรายหวาดกลัวว่า อาจทำให้ภาคการเงินที่ใหญ่โตของอังกฤษต้องอ่อนแอลง
HKEX ซึ่งมีฐานแห่งหนึ่งอยู่แล้วในลอนดอน โดยเป็นเจ้าของตลาดซื้อขายโลหะล่วงหน้า “ลอนดอน เมทัล เอ็กซ์เชนจ์” แถลงว่า ตนเองได้ร่วมแสดงบทบาทสำคัญในการค้ำจุนฐานะของซิตี้ออฟลอนดอน ให้เป็นศูนย์กลางการค้าโลหะที่มีความสำคัญที่สุดของโลก และ “HKEX มีความมุ่งมั่นผูกพันอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนและในการสร้างบทบาทระยะยาวทั้งของลอนดอนและของฮ่องกง ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก”
สำหรับ LSE นั้นได้ประกาศในเดือนสิงหาคมว่า การที่ตัดสินใจจะซื้อ รีฟินิทีฟ ในดีลมูลค่า 27,000 ล้านดอลลาร์ ก็ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านข้อมูลตลาดและการวิเคราะห์ตลาด
