xs
xsm
sm
md
lg

อธิการฯมรภ.โคราชแถลงยันช่วยอาจารย์-นศ. สู้คดี “พระพุทธรูปอุลตร้าแมน”เต็มที่ ผวาสังคมแตกแยกหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:




ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- อธิการฯ ม.ราชภัฎโคราช ตั้งโต๊ะแถลงพร้อมช่วยเหลืออาจารย์และนศ.สู้คดี “พระพุทธรูปอุลตร้าแมน” เต็มที่ทั้งฝ่ายกม.และค่าใช้จ่ายทั้งหมด สั่งกำชับไม่ให้เกิดซ้ำอีก ย้ำขอให้จบได้แล้ว หวั่นทำสังคมไทยแตกแยกหนัก สาดโคลนกันทางโซเชียลฯทำบานปลาย เผย นศ.เข้มแข็งไม่เครียด ด้านผู้ว่าฯโคราช ชี้เป็นบทเรียนสังคมคิดทำอะไรให้รอบคอบ

วันนี้ ( 13 ก.ย. ) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีการแชร์ผลงานศิลปะ “ภาพวาดพระพุทธรูปอุลตร้าแมน” ในโลกออนไลน์พร้อมระบุว่าไม่เหมาะสมเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นพระพุทธศาสนา ต่อมาทราบว่าเป็นผลงานของนักศึกษาหญิง ชั้นปีที่ 4 หลักสูตรศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จัดแสดงในงานการแสดงผลงานศิลปะของนักศึกษาหลักสูตรศิลปศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ภายใต้ชื่องาน “เต๊อะเติ๋น” บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช

จากนั้นอาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาเจ้าของผลงาน ได้เข้ากราบขอขมาต่อเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แต่เรื่องยังบานปลายไม่จบ กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดินได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นักศึกษา ผู้วาดภาพ และผู้เกี่ยวข้องรวม 5 คน ที่กองบังคับการปราบปราม ขณะที่ผู้ที่ซื้อภาพดังกล่าวไปได้ทำการเปิดประมูลขายภาพทางโซเชียลมีเดียปั่นกระแสกันอย่างคึกคัก ภาพแรกสามารถขายได้ 5 แสนบาท และ ขณะนี้ได้เปิดประมูลภาพที่ 2 อ้างว่ามีผู้เสนอราคาซื้อสูงถึง 2 ล้านบาท นั้น

ผศ.ดร. อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา
ล่าสุดวันนี้ ที่ห้องรับรองสำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เชิญ ผศ.ดร. อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา พร้อมด้วย ผศ.ดร. ธวัช ตราชู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และ อาจารย์ที่เกี่ยวข้อง เข้าหารือทางออกของปัญหากรณี “ภาพวาดพระพุทธรูปอุลตร้าแมน” ที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาหารือร่วมกันประมาณ 30 นาที

หลังการหารือ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวในจังหวัดฯ จบไปแล้ว แต่เป็นเรื่องของคนอื่นที่ไม่จบ ทางจังหวัดฯ เองเป็นตัวกลางในการนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สำนักพุทธศาสนาฯ และ วัฒนธรรมจังหวัด ไปพบเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพูดคุยกันแล้วว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งอาจไปกระทบความรู้สึกคนอื่น ซึ่งนักศึกษาเจ้าของผลงานก็ได้แสดงความรู้สึกเสียใจและขอโทษ คิดว่าน่าจะจบได้แล้ว ตนเองก็คิดอย่างนั้น และไม่ควรจะไปต่อความให้มันยืดยาว เพราะอาจก่อให้เกิดกระแสในสังคม และคนที่น่าสงสารที่สุดคือตัวเด็กนักศึกษา ผู้เป็นเจ้าของผลงานจะได้รับผลกระทบที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นตามมา

“ วันนี้ทางอธิการบดี ได้มาพบปะหารือกันในการช่วยเหลือเด็กและอาจารย์ที่ถูกดำเนินคดี และน่าจะยุติกันได้แล้ว ตัวนักศึกษาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ การที่สังคมออกมาถกเถียงกันมากยิ่งทำให้เรื่องยาว ส่วนเรื่องประมูลภาพผ่านสื่อออนไลน์นั้น คิดว่าอาจเป็นเรื่องของกระแสที่ทำให้ภาพมีราคาสูงขึ้น ถ้าสังคมหยุดเดี๋ยวก็คงจบไป กรณีที่เกิดขึ้นทำให้คนในสังคมได้ข้อคิดว่าการจะทำเรื่องอะไรต้องคิดให้มาก คิดให้รอบคอบ ต้องเตือนสติตนเองตลอดเวลา เรื่องจินตนาการ เรื่องความคิดสร้างสรรค์ต้องมี แต่ต้องมีจุดให้คิดรอบคอบด้วยว่า ความรู้สึกคนในสังคมจะเป็นอย่างไร ถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญของสังคมไทยและไม่ใช่เฉพาะเรื่องของศาสนาเรื่องอื่นก็ต้องระวัง ผมอยากให้เรื่องนี้จบ” นายวิเชียร กล่าว
ผศ.ดร. ธวัช ตราชู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา
ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ( 13 ก.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พร้อมคณะผู้บริหารและนิติกร ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณี“ภาพวาดพระพุทธรูปอุลตร้าแมน”

ผศ.ดร.อดิศร กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น และได้กำชับไปยังคณาจารย์รวมถึงนักศึกษาไปแล้วว่า เรื่องของศาสนา สถาบันกษัตริย์ และชาติ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่งต่อความรู้สึกของคน การวาดภาพต้องศึกษาให้ดี และทางมหาวิทยาลัย จะควบคุมกำกับดูแลไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำรอยขึ้นอีก และทางเราไม่เคยทอดทิ้งเด็ก ดูแลเด็กเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เพราะเราถือว่านักศึกษาเป็นเสมือนลูกของเรา ซึ่งได้เชิญทั้งคณาจารย์และนักศึกษามาทำความเข้าใจและให้กำลังใจแล้ว

อย่างไรก็ตามกรณีเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดี นั้น ขอให้เป็นเรื่องของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นดุลยพินิจของผู้ฟ้องว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งความจริงมีหลายช่องทางที่จะเข้ามาพูดคุยกันเพื่อสร้างความเข้าใจ ก่อนที่จะไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำ สิ่งที่เกิดขึ้นเราไม่ได้ต่อว่า เพราะท่านสามารถแสดงออกได้ในฐานะคนหวงแหนพุทธศาสนา แต่ในส่วนของทางมหาวิทยาลัย ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือคนของเรา ทางเรามีฝ่ายนิติกรและฝ่ายกฎหมาย จะปกป้องบุคลากรและนักศึกษา รวมถึงรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด เราจะไม่ทอดทิ้งใครไว้แน่นอน และขณะเดียวกันก็ยินดีพูดคุย จะถอนฟ้องก็ยินดี จะไม่ถอนก็เป็นสิทธิของท่าน


ผศ.ดร.อดิศร กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดตอนนี้คือ ประชาชนเกิดความแตกแยกต่อสู้กันกันเองในสื่อโซเชียลมีเดีย สังคมไทยมีปัญหาเรื่องนี้สูง มีการขยายประเด็นความขัดแย้งออกไปอย่างกว้างขวางดูจากการแสดงความคิดเห็นบนสื่อออนไลน์ มันกลายเป็นประเด็นคล้ายการเมืองของกลุ่มคนเสื้อเหลืองกับเสื้อแดง อันนี้คือจุดอันตรายของสังคมไทย เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทางมหาวิทยาลัยไม่อยากออกมาให้ข่าวกับสื่อในตอนแรก

เราต้องถอดบทเรียนกันทั้งประเทศ เรื่องการให้ความรู้ ทั้งนักศึกษา ทั้งผู้ใหญ่ ในเรื่องความสามารถในการใช้สื่อ ซึ่งเรามีแต่อารมณ์และงมงายบวกกับศรัทธา เหตุผลแทบไม่มี คิดว่าต้องเอาวิชานี้มาเป็นวิชาสอนในการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา สิ่งเหล่านี้ที่เป็นห่วงมากที่สุด ตนพูดวันนี้คิดว่าน่าจะจบ ขอฝากและวิงวอนไปยังทุกท่านที่เป็นห่วงทั้งตัวนักศึกษา ห่วงศาสนา ในนามของมหาวิทยาลัยฯ ก็ขอให้จบ และขอยืนยันว่านักศึกษามีความเข้มแข็งมาก ไม่ได้เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอาจารย์ทุกคนก็ดูแลกันอยู่ ผศ.ดร.อดิศร กล่าวในตอนท้าย
ประมูลขายราคา 5 แสนบาท

ประมูลขายได้ราคา 2 ล้านบาท

กำลังโหลดความคิดเห็น