รอยเตอร์ - เรือพิฆาตลำหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐฯล่องเฉียดใกล้หมู่เกาะที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้เมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) กระพือความขุ่นเคืองจากปักกิ่ง ซึ่งประณามว่าเรือลำดังกล่าวล่วงล้ำน่านน้ำของจีนโดยไม่ได้รับอนุญาต
น่านน้ำที่พลุกพล่านแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในประเด็นล่อแหลมมากขึ้นเรื่อยๆ ในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน ในนั้นรวมถึงสงครามการค้าที่กำลังลุกลาม, อเมริกาคว่ำบาตรกองทัพจีนและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับไต้หวัน
โฆษกกองเรือที่ 7 แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าเรือพิฆาต เวย์น อี.เมเยอร์ ปฏิบัติการท้าทายคำกล่าวอ้างด้านอาณาเขต ในนั้นรวมถึงคำกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ที่เกินเลยของจีนรอบๆ หมู่เกาะพาราเซลส์ ซึ่งทางไต้หวันและเวียดนาม ต่างก็อ้างกรรมสิทธิ์เช่นกัน
"จีนพยายามขยายการกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เพิ่มเติม เหนือน่านน้ำภายใน, ทะเลอาณาเขต, เขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีป มากกว่าสิทธิที่แท้จริงของพวกเขาภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ" โฆษกระบุ
ต่อมา กองบัญชาการภาคใต้แห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีนระบุในถ้อยแถลง ว่าเรือเวย์น อี.เมเยอร์ เข้ามาในน่านน้ำใกล้กับหมู่เกาะพาราเซลส์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีน พร้อมเผยว่าจีนจำเป็นต้องเคลื่อนพลเพื่อติดตามเรือดังกล่าวและแจ้งให้พวกเขาออกไปจากน่านน้ำ และบอกว่าสหรัฐฯ กำลังก่ออันตรายแก่สิทธิอธิปไตยของจีน ด้วยการลาดตระเวนในทะเลจีนใต้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"เราขอย้ำอีกครั้งว่าอำนาจอธิปไตยของจีนเหนือหมู่เกาะต่างๆและน่านน้ำที่อยู่ใกล้เคียง ในทะเลจีนใต้เป็นสิ่งหักล้างไม่ได้ การยั่วยุโดยเรือหรือเครื่องบินกองทัพต่างชาติ ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้ไปได้"
เหตุกระทบกระทั่งครั้งนี้ดูเหมือนจะเกิดผิดที่ผิดเวลา เนื่องจากเวลานี้ทั้งสองชาติกำลังหาทางคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างกัน
เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) สหรัฐฯ แสดงความยินดีที่จีนกลับมาซื้อสินค้าด้านการเกษตรของอเมริกา แต่ยังคงคำขู่ปรับขึ้นภาษีเอาไว้ ในขณะที่สองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกกำลังเตรียมเปิดเจรจารอบใหม่เพื่อหาทางยุติสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมานาน
จีนและสหรัฐฯต่างสาดน้ำลายเข้าหากันในช่วงขวบปีที่ผ่านมา โดยวอชิงตันกล่าวหาปักกิ่งว่ากำลังเคลื่อนไหวทางทหารในทะเลจีนตั้ง ด้วยการสร้างสิ่งปลูกสร้างทางทหารบนเกาะเทียมทั้งหลายและตามแนวปะการังต่างๆในน่านน้ำพิพาท
ปีกกิ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ เส้นทางขนส่งสินค้าทางเรืออันสำคัญที่มีมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ก่อความขัดแย้งกับบรูไน, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน และเวียดนาม ที่อ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่บางส่วนของทะเลแห่งนี้เช่นกัน
จีนอ้างว่าการก่อสร้างดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องตนเองและสหรัฐฯต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความตึงเครียดที่คุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ จากการส่งเรือรบและฝูงบินทหารเข้าเฉียดใกล้หมู่เกาะต่างๆ ที่ปักกิ่งอ้างกรรมสิทธิ์