xs
xsm
sm
md
lg

ดรามาฆ่าไม่ตาย !!?? 2 ปี BNK 48 กับมรสุมข่าวลบ

เผยแพร่:



จริงหรือที่ BNK48 อยู่ในช่วงขาลง !!???

ดูเหมือนจะเป็นคำถามในใจของหลายคนมาพักใหญ่ๆ แล้ว โดยพิเคราะห์จากการที่เพลงในช่วงหลัง ไม่ได้เป็นเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ถล่มทลาย ฮิตทั้งเพลง ทั้งท่าเต้น เหมือนเมื่อคราว “คุ้กกี้เสี่ยงทาย”

นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นกับ BNK48 ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ประดับประเทศ ที่เพิ่งจะมีอายุครบ 2 ปีไปหมาดๆ หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเป็นวันที่ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวงการเพลงเมืองไทย กับการปรากฏตัวของสมาชิกในวง ที่ล้วนแต่เป็นสาวน้อย วัยใส จำนวนมากถึง 29 คน ในงาน Japan Expo Thailand 2017


แม้ว่าเพลงในซิงเกิลหลังๆ อาจจะไม่เปรี้ยงปร้างเท่ากับ “คุ้กกี้เสี่ยงทาย” แต่ BNK48 ก็ยังเป็นวงที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน ที่เป็นแรงเชียร์สำคัญของไอดอลทั้ง 2 รุ่น ที่มีจำนวนมากถึง 51 คน รวมไปถึงยังเป็นวงที่มีงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานพรีเซ็นเตอร์ที่ยังคงติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็วางลิมิตไว้ว่าไม่เกิน 10 แบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ จะต้องว่าจ้างด้วยตัวเลขที่สูงถึง 8 หลัก ทำให้จากที่เคยคาดการณ์ว่าการลงทุนปั้นไอดอลวงนี้ จะต้องขาดทุนอย่างน้อย 5 ปี กลับทำตัวเลขกำไรได้ตั้งแต่ย่างเข้าปีที่ 2 ดังตัวเลขต่อไปนี้

ปี 2560 รายได้ 40,549,323.58 บาท ขาดทุน 22,298,366.99
ปี 2561 รายได้ 673,298,981 บาท กำไร 146,851,038 บาท

โดยที่รายได้กว่า 50% มาจากสินค้าเมอร์แชนไดส์ อีก 25% มาจากออนไลน์ และอีก 25% มาจากสปอนเซอร์ชิป

สอดคล้องกับแง่มุมของ “จิรัฐ บวรวัฒนะ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีเอ็นเค48 ออฟฟิศ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์วง BNK48 ในประเทศไทย ที่เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยมองว่าทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับ BNK 48 ไม่ว่าจะเป็นแง่บวก หรือลบ นั้นสะท้อนให้เป็นว่า ไอดอลวงนี้ยังคงอยู่ในกระแสความสนใจของผู้คน หนำซ้ำยังมีแผนที่จะผลักดันไอดอลวงนี้ ไปสู่ระดับภูมิภาค ซึ่งถือว่าเป็นสนามเดียวกับวงเกิร์ล กรุ๊ป ตระกูล 48 ที่ทำตลาดอยู่ในหลายประเทศในเอเชีย และแถบอาเซียน

อย่างไรก็ตาม ในที่นี้คงขอตัดข้ามข่าวในแง่บวก แต่ขอโฟกัสเฉพาะข่าวในแง่ลบ ซึ่งพูดได้เลยว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ BNK 48 ถือกำเนิดขึ้นมา ก็ต้องเจอกับมรสุมในเชิงลบอยู่อย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ซึ่งถือเป็นข้อห้าม เป็นกฎเหล็กสำหรับสมาชิก BNK 48 ที่จะต้องยึดถือและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ผู้ที่กระทำผิดก็จะได้รับโทษไปตามความเหมาะสม แต่ก็รู้กันดีว่าเรื่องความรักไม่เข้าใครออกใคร และก็ด้วยความที่สมาชิกในวงล้วนแล้วแต่เป็นเด็กสาววัยรุ่นด้วยแล้ว ก็ย่อมหลีกเลี่ยงข่าวทำนองนี้ไม่พ้น

ดังกรณีล่าสุดของ “มัยร่า” หรือ “มะอิระ คูยามา” ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น อายุ 22 ปี สมาชิกรุ่นที่ 2 เจ้าของฉายา “กระเบนน้อย” ดังที่จะไล่เรียงไทม์ไลน์ให้เห็นเป็นขั้นเป็นตอนต่อไปนี้


ปฐมบทของดรามาในคราครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมีเพจดังปล่อยข่าวว่า มัยร่าแอบซุ่มคบหากับอดีตผู้กำกับรายการเรียลิตี้ของ BNK48 ซึ่งมีภรรยาแล้ว และที่สำคัญกำลังตั้งครรภ์อยู่ โดยมีประจักษ์พยานเป็นภาพถ่ายที่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าฝ่ายชายไปหามัยร่าที่คอนโดและนั่งรถออกไปด้วยกัน

จากนั้นก็มีการขยี้ดรามาต่อด้วยการขุดโพสต์ต่างๆ ของมัยร่า ที่มักจะพร่ำเพ้อเกี่ยวกับการรอคอย , การไม่จำเป็นต้องครอบครองสิ่งที่ชอบ รวมไปถึงโพสต์ที่ระบุว่า “ไม่ชอบนก” ซึ่งคนก็ไปตีความว่าหมายถึงภรรยาของฝ่ายชายที่มีชื่อว่านกหรือไม่ ? อย่างไร ? แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้ กลายเป็นหัวข้อที่ผู้คนนำมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน จนกระหึ่มไปทั่วโซเชียล ถึงขนาดที่แฮชแท็ก #BNKโป๊ะแตก ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทยแลนด์กันเลยทีเดียว

ในเวลาต่อมา ทางผู้จัดการวง BNK48 ได้มีการโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยระบุว่า มัยร่ากับอดีตผู้กำกับ พักอยู่ละแวกเดียวกัน และเจอกันด้วยความบังเอิญ ส่วนที่นั่งรถออกไปด้วยกันนั้น เพราะฝ่ายชายจะไปหาภรรยาที่นั่น ผู้จัดการวงยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ทางบริษัทมีการเรียกทั้งคู่มาตักเตือนแล้ว รวมถึงมีการลงโทษมัยร่า ที่ขึ้นรถไปกับบุคคลอื่นสองต่อสอง ทำให้คนที่พบเห็นเข้าใจผิด

จากนั้นทางฝ่ายชายก็มีการโพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกันว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิด และภรรยาของตนเองรู้เรื่องดี โดยมีการแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการแท็กชื่อภรรยาของตัวเองด้วย รวมถึงทางฝั่งภรรยาก็ออกมาช่วยยืนยันอีกแรง

แต่เรื่องราวไมได้จบลงง่ายๆ แบบนี้ เมื่อน้องสาวของภรรยาออกโรงมาคอมเมนท์ในเพจของมัยร่า ประมาณว่า ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ทำร้ายจิตใจพี่สาวของเธอ ฯลฯ แม้ว่าคอมเมนต์ดังกล่าวจะถูกลบออกไป แต่ก็ยังช้ากว่านักสืบโซเชียลที่แคปหน้าจอไว้ก่อน

จากกรณีแรก ก็มีกรณีที่สองตามมา เมื่อปรากฏว่ามีคนแอบจับพิรุธ จากในไอจีของมัยร่า กับไอจีของ “อะตอม ศดายุ โปลิตานนท์" หรือ "Dif Kids" หนุ่มแรปเปอร์ วัย 26 ปี ผู้เคยร่วมร้องเพลง “ประเทศกูมี” ว่าทั้งคู่น่าจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติด้วยกัน ซึ่งทางฝั่งของอะตอม ก็มีการเคลื่อนไหวด้วยการโพสต์ชี้แจงในเฟซบุ๊ก Dif Kids โดยระบุว่า มีอะไรเข้ามาถามได้เลย ไม่อยากให้ไปฟังคนอื่น และเมื่อมีสมาชิกเฟซบุ๊กเข้ามาสอบถามถึงกระแสข่าวดังกล่าว อะตอมก็อธิบายว่า มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการไปด้วยกันตามประสาพี่น้อง


แต่กระนั้น ข่าวนี้ก็ส่งผลให้มัยร่า ถูกคำสั่งพักงานเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่ 12 ส.ค. - 12 ต.ค. 62 ถือเป็นสมาชิกคนแรกที่ได้รับโทษพักงานนานที่สุด

หลังจากการถูกคำสั่งพักงานครั้งนี้ ก็วนกลับมาคดีเก่าอีกครั้ง เมื่อปรากฏว่าเพจดังเพจเดิมโพสต์ภาพชาย-หญิงคู่หนึ่งกำลังเลือกซื้อหนังสือ โดยระบุว่า ฝ่ายหญิงในชุดนักศึกษา สวมวิกผมยาว และสวมหมวก คือมัยร่า ส่วนผู้ชายคืออดีตผู้กำกับนั่นเอง และจากข่าวนี้เอง ที่กลายเป็นที่มาของให้แฮชแท็ก #อวสานมัยร่า ซึ่งขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ประเทศไทยทันที


ก่อนที่ในเวลาต่อมา เรื่องราวยิ่งบานปลายหนัก เมื่อมัยร่าประกาศจบการศึกษา หรือแกรด (ลาออกจากวง) ทั้งน้ำตา พร้อมทั้งยืนยันว่าตนเองไม่ใช่บุคคลในภาพ ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าที่ผ่านมา ทำผิดกฎของวง 2 ครั้ง และได้รับการลงโทษไปแล้ว แต่ก็ไม่วาย โดนคุกคามอยู่ตลอดเวลา ถึงขนาดมีคนไปดักรอที่หน้าบ้านและโดนปาของใส่ จึงเป็นเหตุให้ต้องตัดสินใจแบบนี้ โดยจะมีสเตจแกรดช่วงปลายเดือน พ.ย. และจะมีงานจับมือในวันที่ 7 ธ.ค. เป็นงานสุดท้าย


หากเมื่อย้อนกลับไปดูเส้นทางของ BNK 48 ตลอดระยะ 2 ปีที่ถือกำเนิดขึ้นมานั้น ก็พบว่าเคยมีข่าวดรามาในเชิงลบ ต่างกรรม ต่างวาระออกมาก่อนหน้านี้ไม่น้อยเริ่มจากข่าวของ “ซัทจัง - สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์” สมาชิกน้องเล็กสุดของวง ซึ่งถูกตั้งข้อหาว่ามีส่วนทำให้สมาชิกวง BNK 48 มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ถึงขนาดทะเลาะวิวาทตบตีกันในห้องแต่งตัว แต่ข่าวดังกล่าว ก็ไม่ได้ถูกขยายต่อ หลังจากที่ผู้ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาออกมาชี้แจง ว่าเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งดังกล่าวไม่เป็นความจริง อาจจะมีแค่งอนๆ กันบ้างตามประสาผู้หญิง แต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร

ประเด็นข่าวต่อมา เป็นกรณีของ “อร - พัศชนันท์ เจียจิรโชติ” ที่ถูกกระแสโซเชียลโจมตีว่า “แอ๊บแบ๊ว” เกินกว่าเหตุ จนน่ารำคาญ เพียงเพราะการไลฟ์สดขณะพูดคุยกับแฟนคลับด้วยน้ำเสียงออดอ้อน และมีคนตัดคลิปนี้ไปเผยแพร่ และก็บังเอิญที่เนทไอดอลคนดัง เจ้าของเพจ “บันทึกของตุ๊ด” นำไปแชร์ต่อ

ต่อกันด้วยกรณีของ “กระเต็น - เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ” ที่โพสต์ไอจีสตอรี่เตือนสมาชิกรุ่นน้องเรื่องการใช้ภาษาไทย แต่ความหวังดีดังกล่าว กลับทำให้โอตะของรุ่น 2 ไม่พอใจ เพราะเห็นว่าไม่สมควรที่จะต้องโพสต์ให้สาธารณชนเห็น

แต่ 3 กรณีข้างต้น ก็นับว่ายังไม่รุนแรงนัก เมื่อเทียบกับกรณีของ “เมษา จีนะวิจารณะ” ที่ตกเป็นข่าวดรามา เมื่อมีคนออกมาแฉว่าเธอแอบคบกับผู้ชาย พร้อมทั้งลงรูปประกอบ เป็นภาพขณะที่ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกัน รวมถึงมีการเปิดเผยอินสตาแกรมลับที่เมษาแอบเล่น ทำให้ต้นสังกัดได้ออกมาประกาศพักงานเธอเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม เพื่อเป็นการลงโทษที่ฝ่าฝืนกฎ


เมษาเป็นหนึ่งในสมาชิกของวง ที่ประกาศประกาศจบการศึกษาในปีที่ผ่านมา ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นศิลปินเดี่ยว มีผลงานซิงเกิลเพลง “พยายามไม่พอ” ที่ได้โทโมะ (อดีตสมาชิกวงเคโอติก) มาแต่งเพลงท่อนแร็ปให้

จากนั้นก็มาถึงกรณีของอีกหนึ่งสมาชิกของวงอย่าง “แคน - นายิกา ศรีเนียม” ที่โดนแฉในลักษณะไม่ต่างกัน ซึ่งก็เป็นเหตุให้ถูกต้นสังกัดแบนเป็นระยะเวลา 1 เดือนเช่นเดียวกัน ก่อนจะประกาศจบการศึกษาก่อนหน้าเมษาเพียงไม่นาน โดยไม่มีการระบุถึงสาเหตุที่แท้จริง


แต่ต่อให้เจอมรสุมข่าวลบถาโถมหนักหนาสาหัสขนาดไหน ก็ยังเชื่อมั่นว่า บรรดาโอตะทั่วประเทศ ก็ยังคงพร้อมที่จะเทใจ และชูแขนสนับสนุนวงไอดอลวงโปรดอย่าง BNK 48 ต่อไปอีกนานโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น

นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 9-15 พฤศจิกายน 2562
กำลังโหลดความคิดเห็น