พัทลุง - ตำรวจตามยึดรถเก๋งวีออส ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงถล่มผู้ช่วย ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย เสียชีวิตคาที่ พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เร่งล่าตัวคนร้ายที่เหลือ
จากกรณีกลุ่มคนร้ายที่มีรถเก๋งโตโยต้าวีออส ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ใช้อาวุธปืนสงครามชนิดอาก้า และเอ็ม 16 ยิงถล่มรถมิตซูมิตชิปาเจโร่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กก 1999 พัทลุง เป็นเหตุให้ นายสุนทร เรืองแก้ว อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เจ้าของ หจก.เรืองแก้วการก่อสร้าง และเป็นผู้ช่วย ส.ส. คือนายฉลอง เทอดวีระพงษ์ ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย โดยเหตุเกิดบนถนนสายหัวถนนท่านช่วย-ทุ่งนาชี ท้องที่หมู่ 6 ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง เวลาประมาณ 18.20 น. ส่วนประเด็นสังหารนั้น ตำรวจมุ่งไปในด้านความขัดแย้งด้านธุรกิจรับเหมา และความขัดแย้งเรื่องคดีค้างเก่า
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับกลุ่มคนร้ายไปแล้ว 4 คน และได้จับกุม นายอรรถพร สุติถิพันธุ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 5 ต.คูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา เมื่อตอนเช้าของวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา และล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 62 ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายประเสริฐ คงแก้ว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 10 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ผู้ทำหน้าที่ขับรถเก๋งโตโยต้าคันดังกล่าว ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี
มีรายงานว่า วันนี้ (8 พ.ย.) พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมพวกได้ไปตรวจยึดรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขฉ 1591 สงขลา ซึ่งเป็นรถเก๋งที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุที่นำไปจอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะ ข้างบ่อกุ้งข้างวัดเถรแก้ว ท้องที่หมู่ 6 ต.ระวะ อ.ระโนด จ.สงขลา มาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพัทลุงได้ตรวจลายนิ้วมือแฝงภายในรถ ที่บริเวณหน้าตำรวจภูธรพัทลุง ซึ่งพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวได้ถูกมือดีใช้ของแข็งทุบกระจกหน้าจนแตกเพื่อกวาดทรัพย์สินภายในรถจนเกลี้ยง และจากการตรวจสอบป้ายทะเบียนพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม
ในเวลาต่อมา พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง และ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมพวกได้นำ นายประเสริฐ คงแก้ว อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ขับรถไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมชี้จุดที่คนร้ายทั้ง 2 คนนั่งอยู่ในรถเก๋งในวันก่อเหตุ โดยนายประเสริฐ รับสารภาพว่า ในรถเก๋งคันดังกล่าวมี นายสว่าง (ไม่ทราบสกุล และที่อยู่) ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ และอยู่ในระหว่างการหลบหนี นั่งอยู่ด้านหน้ากับตน หลังก่อเหตุร้ายแล้วพวกตนนำรถไปซุกซ่อน และนำไปทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะพากันหลบหนี
