xs
xsm
sm
md
lg

เฉลยแล้ว! แคมเปญ “อยู่ไม่เป็น” ของอนาคตใหม่ ก็คือสัญญาณระดมพล “ติ่งสีส้ม-น้องฟ้า” ** “ซูเปอร์โพล” ฟันธง “ชิมช้อปใช้” ชิงมวลชนให้ “ลุงตู่” สำเร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ข่าวปนคน คนปนข่าว



** เฉลยแล้ว!! แคมเปญ “อยู่ไม่เป็น” ของอนาคตใหม่ ก็คือสัญญาณระดมพล “ติ่งสีส้ม-น้องฟ้า” ให้มาพบกันที่ JJ Mall สวนจตุจักร วันที่ 16 พ.ย.นี้ ...ส่วนจะเพื่อกดดันศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ “พ่อฟ้า” ยังไม่ได้แจ้ง

ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ พรรคอนาคตใหม่ได้โพสต์ข้อความชวนสงสัย ระบุว่า “16 พฤศจิกายน รอฟังรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็ววันนี้ #อยู่ไม่เป็น” พร้อมกันนี้ได้โพสต์ภาพประกอบ พื้นหลังสีดำ ตัวหนังสือสีขาวที่เขียนว่า “อยู่ไม่เป็น” ก่อนที่แฮชแท็ก # อยู่ไม่เป็น จะขึ้นอันดับ 1 ในเทรนด์ทวิตเตอร์ในวันเดียวกันนั้นเอง

ขณะที่คนส่วนใหญ่มีความสงสัยในแคมเปญ “อยู่ไม่เป็น” ที่พรรคอนาคตใหม่ปล่อยออกมานั้น จะสื่อความหมายอะไร... “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคก็ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ Pannika Wanich ระบุว่า... “#อนาคตใหม่ ไม่ถนัดเอาตัวรอด ไม่เชี่ยวชาญหมากล้อมเก็บแต้มการเมือง เรารู้แต่ว่าเราสร้างพรรคเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้คนไทยเท่าเทียมกัน พาประเทศไทยเท่าทันโลก ยุติรัฐประหารซ้ำซาก ถ้าไม่ทำทั้งหมดนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีอนาคตใหม่ # อยู่ไม่เป็น 16 พ.ย.นี้เจอกันค่ะ”...

แม้ “ช่อ” จะสื่อความหมายของคำว่า “อยู่ไม่เป็น” ได้กระจ่างนัก แต่ก็มีการคาดหมายกันว่าน่าจะเป็นการสื่อไปถึง “ติ่งส้มหวาน” และบรรดา “น้องฟ้า” ให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่า วันที่ 16 พ.ย.จะมีการส่งสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งจากทางพรรค ...

แล้วก็ไม่ผิดไปจากความคาดหมาย เมื่อบัดนี้เพจเฟซบุ๊ก “พรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party” ได้เฉลยออกมาแล้ว... โดยโพสต์นัด “รวมพลคนอยู่ไม่เป็น” พร้อมภาพการชุมนุมของมวลชน โดยมีผู้นำการชุมนุม “ชู 3 นิ้ว”....ตามด้วยข้อความว่า...


“หากนำเลือดของชาวอนาคตใหม่ไปตรวจ DNA เราอาจพบยีนความ “อยู่ไม่เป็น” ฝังอยู่ใน DNA ของพวกเราก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมงานรวมพลคนอยู่ไม่เป็นไปพร้อมกัน 16 พ.ย.นี้ JJ Mall ชั้น 6 ห้องกำแพงเพชร 12.00 น.เป็นต้นไป เดินตรง 6 นาที จาก MRT กำแพงเพชร ... https://g.page/JJMall-Chatuchak?share”

ชัดเจนว่าในที่สุด “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ระดมพลติ่งส้มหวาน-น้องฟ้าให้มารวมตัวกันที่ JJ Mall สวนจตุจักร ในวันที่ 16 พ.ย.นี้...และหลังจากนี้พวกเขาก็จะมีชื่อเรียกตัวเองใหม่ว่า...“คนอยู่ไม่เป็น”

เป้าหมายการระดมพลครั้งนี้ เพื่อกดดันศาลรัฐธรรมนูญ ??!! เพราะดูตาม “ไทมไลน์” แล้วศาลฯ จะพิจารณาคดี ถือหุ้นสื่อ “วีลัค มีเดีย” ของธนาธร ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ...ถ้าศาลฯ ชี้ว่าผิด “ธนาธร” ก็สิ้นสถานสภาพ ส.ส.

แม้ “ธนาธร” จะตอบคำถามไม่ตรงนักว่าการนัดหมายครั้งนี้เกี่ยวโยงกับการพิจารณาคดีของศาลฯ ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้หรือไม่...โดยตอบเลี่ยงไปว่า...อนาคตใหม่ไม่มีอำนาจปืน ไม่มีอำนาจรถถัง ไม่มีอำนาจยุติธรรม ไม่มีอำนาจตำรวจ ไม่มีอำนาจเงินทุน...ที่จะไปก้าวก่ายศาลรัฐธรรมนูญได้

ความระหว่างบรรทัดเหมือนจะบอกว่า...ถ้าจะมีก็คงจะมีแต่ “คนอยู่ไม่เป็น” เท่านั้นที่จะยืนเคียงข้างเขา!!

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - พรรณิการ์ วานิช
"ธนาธร" ยังบอกว่า การจะยังคงมีสถานภาพ ส.ส. หรือไม่นั้น ไม่สามารถหยุดยั้งการก้าวเดิน ของ "พรรคอนาคตใหม่" ที่มีอุดมการณ์ในการเปลี่ยนแปลงประเทศได้...และมั่นใจว่าการตัดสินของศาลฯในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ไม่เกี่ยวกับการ "ยุบพรรค"... และคดีอื่นๆ ที่มีอยู่ก็จะนำไปสู่การยุบพรรคได้ยากมาก คนที่พยายามพูดถึงเรื่องยุบพรรค เป็นพวกที่ไม่หวังดี สร้าง "เฟกนิวส์" เพื่อหวังผลทางการเมือง ทำให้คนไม่กล้ามาร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ ทำให้ ส.ส.ของพรรคเกิดความหวั่นไหว ลังเล จะได้มีการซื้อตัวกันง่ายขึ้นเท่านั้นเอง...

อย่างไรก็ตาม กระแสในโซเชียลฯ ไม่ได้คิดเหมือน"ธนาธร" ... ส่วนใหญ่เชื่อว่า ในที่สุดพรรคอนาคตใหม่ก็ต้องถูกยุบ ไม่ว่าจะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่มีการร้องเรียนอยู่ในขณะนี้ ...ถึงขั้นมีการผูกโยงเข้ากับ "พรรคพลังอนาคต" ของ "พาที สารสิน-จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ-ภัทรายุส สังข์ศิริ" ที่ไปยื่นจดทะเบียนจัดตั้งพรรคต่อ กกต. เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ว่าจะเป็นพรรคสำรองของอนาคตใหม่...

แต่ "ช่อ" พรรณิการ์ ก็ออกมาปฏิเสธแข็งขัน ยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่มีการตั้งพรรคสำรอง... เรายังคงเดินหน้าทำงานทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ ส่วนคดีความต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นคดีการเมือง ไม่มีทางจะยุบพรรคอนาคตใหม่ได้ เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของเรา ถ้าจะยุบอนาคตใหม่ ก็เพราะเราขวางทางผู้มีอำนาจ จนต้องอาศัยอภินิหารทางกฎหมายกำจัดเราโดยไม่สนใจหลักนิติรัฐอีกแล้ว...

แน่นอนว่า วันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ที่ศาลฯจะพิจารณาคดีถือหุ้นสื่อ โดยผู้ร้องขอให้ศาลฯพิจารณาความเป็นส.ส.ของ"ธนาธร" เท่านั้น ไม่มีคำร้องยุบพรรคมาเกี่ยวข้อง แต่เรื่องร้องเรียนที่เหลือ... ไม่ว่าจะเป็นเรื่องให้พรรคกู้ยืมเงิน ...หรือแม้กระทั่งเรื่องที่ "ช่อ" บริจาคให้พรรค 1 ล้านบาท ที่มีผู้ร้องให้ กกต.ตรวจสอบอยู่ในขณะนี้ ล้วนมี "ปลายทาง" อยู่ที่โทษ"ยุบพรรค" ทั้งสิ้น ซึ่ง "คนอยู่ไม่เป็น" ต่างก็รู้อยู่แก่ใจ .

**น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน “ซูเปอร์โพล”ฟันธง “ชิมช้อปใช้”ชิงมวลชนให้ “ลุงตู่”สำเร็จ ฝ่ายไม่เอารัฐบาลร้อยละ 52 ยอมรับได้ประโยชน์จากมาตรการนี้

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
แม้โครงการ“ชิมช้อปใช้”จะถูกกระแนะกระแหนจากเกรียนคีย์บอร์ด ต่างๆ นานา ทั้งเรื่องการเข้าไปลงทะเบียนที่ยุ่งยาก หลายขั้นตอน ต้องอดตาหลับขับตานอน รอแย่งคิวลงทะเบียน หลังจากลงทะเบียนเสร็จถึงตอนยืนยันตัวตนก็เกิดปัญหาอีก เพราะตัวจริงดัน"หล่อ-สวย" กว่ารูปในบัตรประชาชนเสียนี่ ...ต้องเสียเวลาเดินทางไปยืนยันที่สาขาธนาคาร
ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้านก็ตามฟอร์ม ด่าแหลก ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ไม่เว้น “ช่อ”พรรณิการ์ วานิช นักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ก็ยังเล่นการเมืองแบบเก่า พูดจาประชดประชัน ให้คะแนน “ชิมช้อปใช้”1 คะแนน จากเต็ม 100

แต่เอาเถอะ จะด่าจะว่าอย่างไร “ชิมช้อปใช้” ที่ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี ผู้ผลักดันโครงการนี้ จะมีประโยชน์หรือไม่ ต้องไปฟังความเห็นของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจริงๆ ไม่ใช่ฝ่ายค้านที่ตั้งธงจะด่ารัฐบาลอยู่แล้ว... ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา (10 พ.ย.) สำนักวิจัยซูเปอร์โพล โดย "ดร.นพดล กรรณิกา" ผู้อำนวยการฯ ก็ได้เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ “ประชาชนในสังคมดั้งเดิม”ที่สำรวจโดยการสอบถาม กับ“เสียงประชาชนในโลกโซเชียลฯ”ที่วิเคราะห์ผ่านระบบ Net Super Poll ดำเนินโครงการระหว่าง 1 -9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ผลปรากฏว่า... เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม ร้อยละ 60.4 ได้เข้าใช้ประโยชน์จากมาตรการ "ชิมช้อปใช้" ในขณะที่ ร้อยละ 39.6 ไม่ได้เข้าใช้ประโยชน์เมื่อแบ่งแยกวิเคราะห์เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล กลุ่มพลังเงียบ และ กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล พบว่า กลุ่มคนทั้ง 3 กลุ่ม ใช้ประโยชน์จากมาตรการ "ชิมช้อปใช้" เป็นส่วนใหญ่ ... นั่นคือ ร้อยละ 69.6 ของคนสนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 62.7 ของพลังเงียบ และ ร้อยละ 52.0 ของคนไม่สนับสนุนรัฐบาล ได้ใช้ประโยชน์จากมาตรการชิมช้อปใช้ ...

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ที่น่าสนใจคือ เมื่อวิเคราะห์เสียงของประชาชนในโลกโซเชียลฯ ผ่านระบบ Net Super Poll ด้วยการประมาณการจำนวนเข้าถึงเรื่อง“ชิมช้อปใช้” พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 21,898,746 คน หรือตัวเลขกลมๆ ก็คือเกือบ 22 ล้านคน... ในจำนวนดังกล่าว เป็นเสียงตอบรับในทางบวก ร้อยละ 67.8 และ เสียงตอบรับในทางลบร้อยละ 32.2 ซึ่งเสียงตอบรับในทางลบ จะเป็นไปในเชิงวิพากษ์วิจารณ์มาตรการ และมีการเผยแพร่กว้างขวางด้วยคำว่า “ล้มเหลว”เป็นคำที่ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียลฯ ส่วนคำที่เป็นเสียงตอบรับในทางบวก คือคำว่า “ท่องเที่ยว”

จากผลโพลนี้ ที่เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม และเสียงประชาชนในโลกโซเชียลฯ เป็นไปในทิศทางบวก "ดร.นพดล กรรณิกา" จึงฟันธงว่า มาตรการชิมช้อปใช้ ได้ผลในแง่แย่งชิงมวลชนได้สำเร็จในเชิงการเมือง แต่ในเชิงเศรษฐศาสตร์ ต้องวิเคราะห์อีกรูปแบบหนึ่ง ... พร้อมให้ข้อเสนอแนะว่า กระทรวงต่างๆ ต้องทำงานเป็นหนึ่งเดียว ช่วยกันดันให้คำว่า “ท่องเที่ยว”รวมพลังกับ “ชิมช้อปใช้”เพื่อทำลายพลังของคำว่า “ล้มเหลว”ที่ฝ่ายต่อต้านกำลังปั่น เพราะเห็นจุดอ่อนของคนทั่วไปที่มักขับเคลื่อนข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี

นอจากนั้น ให้ถือหลัก "น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน" จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามมาเป็นฝ่ายสนับสนุน #ท่องเที่ยว #ชิมช้อปใช้ # น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน...

กำลังโหลดความคิดเห็น