xs
xsm
sm
md
lg

ช็อตเด็ด"ทวี ไกรคุปต์"โชว์เก๋า "แย่งไมค์" จากปากอธิบดีป่าไม้ป้องลูกสาว "ปารีณา" ** กกต.คาดโทษหนัก "ชาติชาย วรพิพัฒน์" ปราศรัยหาเสียงใส่ร้ายผู้อื่น

เผยแพร่:



ข่าวปนคน คนปนข่าว



** ช็อตเด็ด"ทวี ไกรคุปต์"โชว์เก๋า "แย่งไมค์"ป้องลูกสาว "ปารีณา" บุกงานแถลงข่าวกรมป่าไม้ คว้าจากปากอธิบดีป่าไม้มาพูดเอง หวยออก ส.ส.ดังรุกที่ป่า 46 ไร่ เอาผิด 4 คดี โทษจำคุกสูงสุด 20 ปี

กลายเป็น“ช็อตเด็ด”ที่ชาวเน็ตแห่แชร์คลิป “ทวี ไกรคุปต์”อดีต ส.ส.ราชบุรี หลายสมัย บิดาของ "ปารีณา ไกรคุปต์" ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ภายหลังจาก"ทวี" บุกเข้าร่วมงานแถลงข่าว การตรวจสอบที่ดินฟาร์มไก่เขาสน ที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ"ปารีณา" ลูกสาว โดยโชว์ลูกเก๋า มีทั้งหอบเอกสารแผนที่มาชี้แจง การถามแย้ง และแย่งไมค์มาจาก "อรรถพล เจริญชันษา" อธิบดีกรมป่าไม้มาพูดเอง จนโลกโซเซียลฯวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นหวั่นไหว

 ทวี ไกรคุปต์
ไฮไลต์เรื่องความรักของ"พ่อทวี" ที่ออกมาป้องลูกสาวปารีณา เริ่มต้นที่กรมป่าไม้ เมื่อ "อรรถพล เจริญชันษา" อธิบดีกรมป่าไม้ แถลงข่าวผลการตรวจสอบพื้นที่ฟาร์มไก่ พบว่าบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนเพื่อแผ้วถาง หรือครอบครอง 46 ไร่ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินแจ้งความเอาผิดต่อ "เอ๋" ปารีณา ต่อไป โดยจะแจ้งความทั้งหมด 4 คดี ซึ่งตามความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี และโทษปรับสูงสุด 2 ล้านบาท

ระหว่างนั้น "ทวี ไกรคุปต์" ได้เข้ามานั่งฟังการแถลงข่าวด้วย พร้อมบอกว่าขณะนี้ติดต่อลูกสาวไม่ได้ แต่ได้บอกลูกสาวไปแล้วว่า อย่ามาฟ้องอธิบดีกรมป่าไม้เลย เพราะเขาทำหน้าที่ตามกฎหมาย อย่าไปฟังทนายความให้มาก “ขอให้ฟังพ่อ”รวมทั้งได้ชี้แจงว่า แผนที่ท้ายประกาศกฎกระทรวง ซึ่งประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม้น้ำภาชี มาตราส่วน 1 ต่อ 400,000 ครอบคลุม 3 อำเภอ ของจ.ราชบุรี อยากถามว่าพื้นที่ 600 กว่าไร่ และที่บุกรุก 46 ไร่ ที่ฟ้องกันอยู่นี้ อยู่ตรงไหน ? ก่อนจะทิ้งท้ายส่งเอกสารให้อธิบดีกรมป่าไม้

วีรกรรม "แย่งไมค์เพื่อลูก" ของ“ทวี ไกรคุปต์”ครั้งนี้ทำให้ชาวเน็ตพากันขุดคุ้ยประวัติของเขามาตีแผ่ ทวี เป็นใคร ? นอกจากที่บอกสื่อว่าจบวิศวะ นั้นถ้าตามสืบดูก็พบว่า "ทวี" จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าสู้เส้นทางการเมืองช่วงปี 2522 โดยลงสมัครรับเลือกตั้งไม่สังกัดพรรคใดที่ ราชบุรี บ้านเกิด และได้รับเลือกตั้งสมใจ และ เป็นส.ส.ต่อมาอีก 7 สมัย แต่โยกย้ายไปสังกัดมาแล้วหลายพรรค ตั้งแต่พรรคประชาไทย สยามประชาธิปไตย พรรคกิจสังคม พรรคความหวังใหม่ ประชาธิปัตย์ และไทยรักไทย

อรรถพล เจริญชันษา

ปารีณา ไกรคุปต์
จุดสูงสุดของ"ทวี ไกรคุปต์" คือ เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยุค รัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ , เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยุครัฐบาลชวน หลีกภัย

จนมาปี 2544 ได้ลงสมัครในนามพรรคไทยรักไทย แต่พ่ายแพ้ให้กับ "ประไพพรรณ เส็งประเสริฐ" จากพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ ทวี วางมือทางการเมือง โดยส่งไม้ต่อให้ลูกสาวนักเรียนนอก "ปารีณา ไกรคุปต์" ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แทนเรื่อยมา

แม้ไม่ได้เล่นการเมือง แต่"ทวี" ก็ปรากฏตัวออกสื่ออยู่เป็นระยะ ช่วงรัฐประหาร 19 กันยาย 2549 ยุค“คมช.”ทวี ไกรคุปต์ ก็เคยนั่งอดข้าวประท้วงที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน

จากนั้นก็เงียบหายไปพักใหญ่ จนเกิดมีคดี“ลุงหัวร้อน”ยิงหมาหน้าเซ่เว่นฯ ชื่อของ "ทวี ไกรคุปต์" ก็กลับมาดังสนั่นอีกครั้งบนหน้าสื่อ

นี่คือ พ่อทวีของลูกปารีณา

** กกต.คาดโทษหนัก ชัก "ใบดำ-ใบแดง" ให้ "ชาติชาย วรพิพัฒน์" ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จันทบุรี ที่ปราศรัยหาเสียงใส่ร้ายผู้อื่น

ชาติชาย วรพิพัฒน์
ในที่สุด กกต. ก็มีมติ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อให้พิจารณาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และให้ดำเนินคดีอาญาแก่ "นายชาติชาย วรพิพัฒน์" ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. เขต 2 จ.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) ที่ได้มีการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งด้วยการหลอกลวง ใส่ร้ายด้วยความเท็จ เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หันมาลงคะแนนให้ตนเอง

จากพยาน หลักฐานที่ผู้ร้องยื่นต่อ กกต.นั้น รับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.62 เวลาประมาณ 10.18 น. "นายชาติชาย" ได้ปราศรัยหาเสียง ที่บริเวณตลาดวังพง ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี โดยมีข้อความบางตอนที่เป็นปัญหาว่า ...

" ท่าน (หมายถึงนายชวน หลีกภัย) บอกว่าท่านขอโทษพี่น้องพรรคประชาธิปัตย์ทุกท่าน ท่านเสียใจมาก ที่ส.ส.ประชาธิปัตย์ คนเดิมทั้ง 3 คน ได้ถูกซื้อตัว และย้ายพรรคไปแล้วนะครับ (ส.ส.ทั้ง 3 คน หมายถึง นายธวัชชัย อนามพงษ์ นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา และ นายแสนคม อนามพงษ์ ที่ การเลือกตั้งครั้งนี้ ได้ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ) ... พวกผม 3 คน เขต 1 รองปวีณา เขต 2 ผมกำนันชาติ (หมายถึงนายชาติชาย) เขต 3 "น้องเบนซ์" ชรัตน์ เนรัญชร เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ให้กับพี่น้องชาวจันทบุรี ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ...

...ส่วนท่านรองสาธิต (นายสาธิต ปิตุเตชะ) ได้พูดว่าให้พวกเราทั้ง 3 คน ยืนยันกับพี่น้องชาวแก่งหางแมว พ่อแม่พี่น้องชาวจันทบุรี ว่า พวกเราทั้ง 3 คน พร้อมที่จะปฏิญาณกับพี่น้องประชาชนชาวแก่งหางแมว พี่น้องประชาธิปัตย์ชาวจันทบุรี ว่า พวกเราทั้ง 3 คน จะทำงานด้วยอุดมการณ์ เงินเพียงมากน้องแค่ไหน อย่าที่ท่านรองสาธิตบอกของท่านยังมีตกแล้วอย่างน้องต้อง 70 ล้านขึ้น พวกผมก็ยังถืออุดมการณ์อย่างที่ท่านรองสาธิตว่า เงินไม่สามารถซื้อพวกเราได้...

ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา
การปราศรัยดังกล่าว ถือเป็นการใส่ร้ายว่า ผู้สมัครเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ ถูกพรรคพลังประชารัฐซื้อตัวไปในราคา "70 ล้านบาท" และนายชาติชาย ยังนำคำปราศรัยดังกล่าว ไปเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยย้ำว่า... ส.ส.ประชาธิปัตย์คนเดิมทั้ง 3 คน ได้ถูกซื้อตัวไปแล้ว ย้ายพรรคไปแล้ว...

แน่นอนว่า ผู้ร้องเรื่องนี้ก็คือ "นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา" อดีต ส.ส.เขต 2 จ.จันทบุรี ที่เดิมสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ และคำปราศรัยของ นายชาติชาย ที่โจมตีนั้นก็หมายถึงตัวเขานั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ปรากฏว่า พรรคอนาคตใหม่กวาด ส.ส.ไปได้ทั้ง 3 เขต โดย "พ.ต.ท.ฐณภัทร กิตติวงศา" เป็น ส.ส.เขต 1 "นายจารึก ศรีอ่อน" เป็นส.ส.เขต 2 และ "น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน" ได้เป็นส.ส. เขต 3 ... ขณะที่ "นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา" ได้ที่ 2 ของเขต 2 และ "นายชาติชาย" ได้ ที่ 3 ในเขต 2

นับเป็นการให้ "ใบดำ-ใบแดง" เป็นรายแรก ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมานี้ (24 มี.ค.62) ซึ่ง"ใบดำ" นั้นหมายถึง การตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วน "ใบแดง" หมายถึง การตัดสิทธิ์เลือกตั้ง

ดังนั้น หากศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิฉัยว่า "นายชาติชาย" มีความผิดตามคำร้อง นั่นหมายความว่า นอกจากเขาจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองแล้วยังถูกตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้งไปตลอดชีวิต และคะแนนที่ได้จากการเลือกตั้งครั้งนี้ ประมาณ 19,000 คะแนน ก็จะมีผลต่อการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

นับเป็นอุทธาหรณ์สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่ใช้วิธีการปราศรัยใส่ร้ายคู่ต่อสู้ อาจจะต้องเจอโทษหนักถึงขั้น”ประหารชีวิตทางการเมือง” เลยทีเดียว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น