xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ชี้ชะตาพรรคอนาคตใหม่ คดีล้มล้างการปกครองฯ

เผยแพร่:



รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 14 มกราคม 2563 ตอน ชี้ชะตาพรรคอนาคตใหม่ คดีล้มล้างการปกครองฯ   



 เส้นทางพรรคอนาคตใหม่ จะได้ไปต่อทางการเมืองหรือจะโดนยุบพรรค ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดชี้ชะตา อ่านคำวินิจฉัยในวันอังคารหน้า 21 มกราคม คดียุบพรรคที่ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

เพื่อขอให้ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากมีพฤติการณ์ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฯ
 
โดยเป็นคำร้องที่มีผู้ถูกร้องรวม 4 รายเรียงลำดับดังนี้
1 พรรคอนาคตใหม่ 2 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 3 นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ4 กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่
 
คำร้องได้มีการระบุพฤติกรรมความผิดของผู้ถูกร้องหลายกรรมหลายวาระ แต่โดยสรุปหลักๆ ก็เช่น ข้อบังคับของพรรคอนาคตใหม่ ที่ใช้คำว่า "หลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ" โดยไม่มีคำว่า "ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"

ขณะที่ส่วนใหญ่พรรคการเมืองเกือบทุกพรรคจะต้องเขียนแบบนี้ ทางผู้ร้องจึงร้องว่า การเขียนข้อบังคับพรรคลักษณะดังกล่าวของอนาคตใหม่ น่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ

หรือการระบุในคำร้องว่า สัญลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่ ที่เป็นรูป สามเหลี่ยมกลับหัว มีความคล้ายคลึงกับ สัญลักษณ์ของกลุ่ม "อิลลูมินาติ" ที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศเยอรมัน โดย อดัม ไวส์ฮอพ

เป็นกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการล้มล้างการปกครองด้วยระบบกษัตริย์ของหลายประเทศในทวีปยุโรป ภายใต้แนวคิดการปกครองแบบใหม่ New world Order และให้ข้อมูลว่าปัจจุบันกลุ่มดังกล่าว ก็ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศ
 
หรือการร้องในเรื่องพฤติการณ์ แนวคิด คำให้สัมภาษณ์ของกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะสามคนหลักคือ ธนาธร ปิยบุตรและช่อ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค
 
เช่น กรณีบทบาทของนายปิยบุตรสมัยเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ที่เคลื่อนไหวทางวิชาการในนาม กลุ่มนิติราษฏร์ ซึ่งผู้ร้องได้มีการโยงพฤติการณ์ในอดีตเช่น การเคลื่อนไหว เพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตลอดจนยกคำพูดในวงเสวนาของนายปิยบุตรบางเวที ที่พูดถึงเรื่อง การเมืองกับสถาบัน ฯ ที่เคยเรียกเสียงฮือฮามาแล้ว

และปัจจุบันก็ยังมีคลิปคำพูดดังกล่าวที่หาได้ตามโซเชียลมีเดีย  ตลอดจนการยกข้อเขียนในหนังสือเรื่อง “รัฐธรรมนูญ ประวัติศาสตร์ ข้อความคิด อำนาจสถาปนา และการเปลี่ยนผ่าน” ที่ผู้ร้องระบุว่า ข้อความในหนังสือดังกล่าวบางส่วนที่เขียนโดยนายปิยบุตร เป็นข้อความที่ค่อนข้างหมิ่นเหม่ เป็นต้น
 
ส่วนตัวนายธนาธร ก็มีการร้องในเรื่องพฤติการณ์ตั้งแต่สมัยร่วมก่อตั้งและเป็นนายทุนให้กับ นิตยสารและเว็บไซด์ ฟ้าเดียวกัน ซึ่งแวดวงรู้กันดีว่า เป็นหนังสือที่มีแนวทางการเมืองอย่างไร ตลอดจนหยิบยกคำให้สัมภาษณ์หลายกรรมหลายวาระของ ธนาธร มาอ้างอิงในคำร้องเช่น

คำกล่าวของธนาธร หลังมีการตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้ว กรณีระบุว่า ต้องร่วมกันทำภารกิจปี 2475 เพื่อให้ประชาธิปไตยยั่งยืน เพราะที่ผ่านมา 86 ปี ยังไม่ทำสำเร็จ

โดยผู้ร้องคือนายณฐพร ย้ำในคำร้องว่า  พฤติการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่อดีตก่อนที่ธนาธรจะมาเล่นการเมือง ตั้งพรรคอนาคตใหม่ จนกระทั่งเมื่อธนาธร ลงเล่นการเมืองและตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้ว ก็ยังมีแนวคิดในรูปแบบเดียวกันมาตลอด

และพยายามชี้ว่า แม้บางเรื่องจะเกิดขึ้นก่อนธนาธรจะเล่นการเมือง แต่พฤติการณ์แนวคิดทางการเมืองบางอย่าง มีความเชื่อมโยง จนมาถึงปัจจุบัน  ผู้ร้องจึงเห็นว่า ตัว ธนาธร จึงมีพฤติการณ์ตามคำร้อง ที่ระบุในเรื่อง การล้มล้างการปกครอง
 
ข้อกล่าวหาทั้งหมด ฝ่ายพรรคอนาคตใหม่ และผู้ถูกร้องอย่าง ธนาธร และปิยบุตร ก็ได้แก้ข้อกล่าวหาโดยหักล้าง ทุกประเด็น ทุกข้อกล่าวหา ผ่านการทำหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง

โดยสรุปก็คือ การบอกว่า ข้อกล่าวหาของนายณฐพร ไร้น้ำหนัก ไม่มีเหตุผลรองรับ และผู้ถูกร้องไม่ได้มีพฤติการณ์ตามที่ถูกร้องแต่อย่างใด
 
ทั้งหมด ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งเก้าคนแล้วว่า จะวินิจฉัยคดีนี้อย่างไรในวันอังคารหน้า 21 มกราคมนี้
 
อย่างไรก็ดี จากท่าทีของกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ และส.ส.ของอนาคตใหม่หลายคน ดูแล้วไม่หนักใจกับคำร้องคดีนี้เท่าใดนัก เพราะไม่เชื่อว่า ตุลาการศาลรธน.จะเอาเรื่องทำนองนี้มาตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ได้  

และหลายเรื่องที่ระบุในคำร้องก็เป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นก่อน ทั้งธนาธร ปิยบุตร ช่อ พรรณิการ์ จะเข้าสู่การเมือง มาเป็นกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ด้วยซ้ำ
 
ทำให้คนในพรรคอนาคตใหม่ ไม่ค่อยหนักใจกับการตัดสินคดีนี้มากนัก แม้จะรู้ดีว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะขนาดคำร้องที่มองว่า ไม่มีน้ำหนัก ศาลรธน.ยังรับไว้พิจารณาได้ แม้จะมติเฉียดฉิว 5 ต่อ 4 ก็ตาม
 
ท่ามกลางการปั่นกระแสข่าวที่ออกมาต่อเนื่องว่า อนาคตใหม่ อาจไม่ต้องไปรอลุ้นคดีเงินกู้ 191 ล้านบาท เพราะจะโดนยุบพรรคตั้งแต่คดีนี้ วันที่ 21มกราคมนี้แล้ว แต่ด้านคนในพรรคส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า น่าจะรอด ไม่โดนยุบพรรค ซึ่งแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ต่างเทน้ำหนัก ไปที่การสู้คดีเรื่องเงินกู้ 191 ล้านบาทมากกว่า
 
 
เห็นชัดๆ ตอนนี้ ก็คือการใช้วิธีการเปิดประเด็นไล่ทุบ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. เพื่อดิสเครดิต ว่า การทำงานของกกต.โดยเฉพาะกับคดีของพรรคอนาคตใหม่ กกต.ทำหน้าที่โดยไม่มีความเป็นธรรม มีการพิจารณาทำความเห็น แบบข้ามขั้นตอน สุ่มเสี่ยงจะเป็นการทำผิดกฎหมาย
 
โดยเรื่องนี้เขี่ยลูกโดยปิยบุตร ที่ออกมาเปิดเผยเอกสารภายในของสำนักงานกกต. ที่มีการพิจารณาเรื่องคำร้องคดียุบพรรคอนาคตใหม่ เรื่องเงินกู้ 191 ล้านบาท ตามลำดับขั้นตอนก่อนจะไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ

โยนผิดว่ากกต. การกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีธงที่จะยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมขู่ว่า จะฟ้องกกต.ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ฐานทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
 
ก่อนที่จะพลิกสถานการณ์ได้ จะต้องดูว่า พรรคอนาคตใหม่มีสถานะ เป็นพรรค ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กกต. เป็นจำเลยหรือไม่ ต้องลุ้น อังคารหน้า 21 มกราคมนี้ว่า พรรคจะโดนยุบก่อน หรือไม่ ?
กำลังโหลดความคิดเห็น