xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.เยือนถิ่นอาเจะฮ์เดินหน้ายุทธศาสตร์ความร่วมมือทางทหารไทย-อินโดนีเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



 
ปัตตานี - ผบ.ทบ. เดินหน้ายุทธศาสตร์ความร่วมมือทางทหารไทย-อินโดนีเซีย นำคณะไปเยือนถิ่นอาเจะฮ์ เพื่อมาปรับเสริมในการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้

วันนี้ (14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศและความคืบหน้าการเยือนอาเจะฮ์โมเดลของ ผบ.ทบ.และคณะ แม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อศึกษาผลความสำเร็จการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของอินโดนีเซีย จนทำให้อาเจะฮ์เริ่มมีการพัฒนาความเจริญอย่างเห็นได้ชัด หลังจากดินแดนแห่งนี้เคยเกิดความไม่สงบจากการเรียกร้องเอกราชจากอินโดนีเซีย ซึ่งปัญหาอาจคล้ายกับปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางเยือนจังหวัดอาเจะฮ์ห์ ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อลงนามความร่วมมือด้านการทหาร ระหว่างประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย ร่วมถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหาในอดีต และการนำไปสู่แนวทางการพัฒนาความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืน
 


 
การเดินทางเยือนอาเจะฮ์ห์ ในครั้งนี้ นับเป็นการเดินทางก้าวสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางทหาร โดยมีคณะที่ร่วมการเดินทางครั้งนี้ ประกอบด้วย พล.อ.ธีรวัฒน์ บุญยะวัฒน์ เสธ.ทบ. พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ซึ่งถือเป็นขุนพลด้านยุทธการของกองทัพบกในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จชต. ของไทย

วัตถุประสงค์หลักของการเดินทางมาครั้งนี้ มีด้วย 3 ประเด็นสำคัญ คือ ประการแรก คือการไปลงนามอนุสัญญา หรือ MOU ระหว่างกองทัพบกไทยและกองทัพบกอินโดนีเซีย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 หรือที่เรียกว่า Implementing Arrangement (IR) ซึ่งข้อตกลงส่วนใหญ่ก็เป็นในเรื่องของการฝึกศึกษา และแลกเปลี่ยนนายทหารนักเรียน การให้ความร่วมมือด้านการฝึก และความร่วมมือด้านการฝึกร่วม ระหว่างกำลัง 2 กองทัพ ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลานาน โดยกองทัพบกของอินโดนีเซีย มีความสัมพันธ์อันดี และลึกซึ้งกับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง
 


 
ประการที่ 2 คือ การประชุมหารือ และได้มีการบันทึกการประชุมร่วมกัน ซึ่งมีความสำคัญมากและเป็นเรื่องใหม่ โดยมีประเด็นหลักๆ อยู่ 3 เรื่อง ดังนี้ 2.1) การให้ความร่วมมือในการรักษาความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ โดยไม่ยอมให้บุคคล ที่เป็นภัยของทั้ง 2 ประเทศใช้พื้นที่ของประเทศตนก่อการร้าย 2.2) การติดตามความเคลื่อนไหวบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายและเป็นภัยต่อความมั่นคงและอธิปไตยของทั้ง 2 ประเทศและรวมถึงในภูมิภาคด้วยเช่นกัน และ 2.3) การที่กลุ่มผู้กระทำความผิดทั้งที่เป็นบุคคลหรือกลุ่มก็ตามที่จะใช้พื้นที่ของประเทศไทยและอินโดนีเซีย กระทำการผิดต่อความมั่นคง ทั้งใน 2 ประเทศและภูมิภาค

เรื่อง 3 เป็นการประชุม Four Eyes ซึ่งเป็นการสนทนาส่วนตัวระหว่างผู้บัญชาการทหารบกอินโดนีเซีย และผู้บัญชาการทหารบกไทย ในเรื่องความมั่งคงของทั้ง 2 ประเทศ และนี่ถือเป็นเพียงก้าวแรกของความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศในการเดินหน้าความร่วมมือระหว่างกันในการเสริมสร้างสันติสุข

โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า หัวใจของสันติภาพที่เกิดขึ้นในอาเจะฮ์นั้น คือ “การมีความเข้าใจ” ไม่ใช่ “การแบ่งแยกดินแดน” หลังจากนี้จะได้มอบหมายให้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 สานต่อในระดับภูมิภาคต่อไป
 






กำลังโหลดความคิดเห็น