xs
xsm
sm
md
lg

“พ่อน้องไทตัล” เหยื่อโจรชิงทอง ทวงถามจริยธรรมสื่อ หลัง “อมรินทร์ทีวี” ทวงหนี้ออกอากาศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



บิดาของน้องไทตัล เหยื่อโจรชิงทองโรบินสัน ลพบุรี ทวงถามจริยธรรมสื่อ หลังทีวีช่องดังเอาเจ้าหนี้ออกอากาศ กล่าวหาโกงเงิน ซื้อของแล้วไม่จ่ายตังค์ ระบุเสนอข่าวเพื่ออะไร มีขอบเขตการทำงานหรือไม่

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. เฟซบุ๊กเพจ The Reporters ซึ่งมี น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวภาคสนามชื่อดังเป็นผู้ก่อตั้ง รายงานว่า นายอนุชา วงศ์อยู่ พ่อของ ด.ช.ภานุวิทธญ์ วงศ์อยู่ หรือน้องไทตัล อายุ 2 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกคนร้ายกราดยิงเพื่อชิงทรัพย์ทองคำน้ำหนักรวม 28 บาท จากร้านทองออโรร่า ภายในศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ลพบุรี ชี้แจงกรณีที่รายการทุบโต๊ะข่าว ทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี นำเสนอข่าวการทวงถามหนี้จากนายอนุชาว่า ได้ดำเนินการโอนเงินคืนให้เจ้าหนี้คนดังกล่าวเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนนี้ แต่ไม่เข้าใจว่าสื่อมวลชนสำนักดังกล่าวตั้งใจเสนอข่าวเจ้าหนี้มาทวงหนี้อีกเพื่ออะไร เหมือนนำข้อมูลเรื่องหนี้สินของตนเองไปประจานต่อสาธารณะ ทั้งๆ ที่ไม่ได้คิดโกง พร้อมจะจ่ายเงินใช้หนี้และได้ใช้หนี้ไปแล้ว

จึงอยากตั้งคำถามว่า สิ่งเหล่านี้มันผิดจริยธรรมสื่อหรือไม่ อีกทั้งครอบครัวยังอยู่ในบรรยากาศความโศกเศร้าเสียใจต่อความสูญเสียลูกชาย จึงรู้สึกเสียใจต่อการนำเสนอประเด็นนี้ เข้าใจว่าสื่อต้องทำหน้าที่ และเป็นสิทธิของเจ้าหนี้จะมาทวงถาม แต่มันควรมีขอบเขตของการทำงานหรือไม่ ตอนนี้กำลังดูเกี่ยวกับเรื่องข้อกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง หรือจะขอความเป็นธรรม ขออย่าซ้ำเติมความสูญเสีย แค่นี้สภาพจิตใจของตนและภรรยาก็แย่มากแล้ว นอกจากเรื่องหนี้สินแล้วยังนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวเรื่องแฟนเก่าของตนซึ่งเลิกรากันไปแล้ว และภรรยาตนที่สูญเสียลูกไปก็เสียใจมากพอแล้ว ตนจึงไม่เข้าใจว่าสื่อจะนำเสนอประเด็นนี้ทำไม ทั้งที่ตนไม่ใช่บุคคลสาธารณะ เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงเท่านั้น




ก่อนหน้านี้ รายการทุบโต๊ะข่าว สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ไปสัมภาษณ์หญิงรายหนึ่งที่เป็นเจ้าของร้านอะไหล่แต่งรถยนต์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้นายอนุชา ระบุว่า รู้จักกับนายอนุชาช่วงปี 2561 จากนั้นก็ติดต่อซื้อสินค้ามาตลอดจนเป็นลูกค้าประจำ เพราะที่ร้านให้ผ่อนชำระได้ เมื่อสั่งสินค้าจะให้ไปส่งที่ จ.ระยอง ช่วงแรกที่เป็นลูกค้าก็ซื้อขายตามปกติ แต่ส่วนใหญ่จะชำระเงินไม่ตรงตามกำหนด กระทั่งเดือนเมษายน 2562 นายอนุชาสั่งซื้อเบาะแต่งรถ เมื่อถึงกำหนดชำระกลับเงียบหาย ไม่สามารถติดต่อได้ โดยค้างค่าสินค้าอยู่ 18,600 บาท และไม่เคยติดต่อมาหาตนอีก เมื่อพยายามทวงถาม นายอนุชาได้ใช้เฟซบุ๊กของภรรยาทักมาอ้างว่ามีปัญหาเรื่องการเงิน ถูกโกงเรื่องธุรกิจส่วนตัว ทำให้ไม่มีเงินมาจ่าย ก่อนที่จะหายไป ช่วงปีที่ผ่านมาให้ทีมกฎหมายส่งหนังสือทวงหนี้ แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ

กระทั่งมาเจออีกครั้งตอนเป็นข่าวโจรชิงทอง ส่วนตัวเข้าใจเสียใจต่อเหตุการณ์ที่สูญเสีย แต่ก่อนหน้านี้ตนเคยโพสต์ตามหานายอนุชาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา พอมีเรื่องเช่นนี้ก็มีเพื่อนในเฟซบุ๊กจำได้ และเข้ามาคอมเมนต์ในรูปดังกล่าว ทำให้ตนต้องปิดโพสต์ไปเพราะกลัวว่าจะมีกระแสดรามา กลัวว่าคนจะหาว่าช่วงเวลาแบบนี้จะไม่เหมาะสมที่ออกมาพูดเรื่องนี้ แต่ตนไม่ทราบว่านายอนุชามีจิตสำนึกไหม แต่หากมีก็ควรจะคืนเงิน หรือติดต่อมาหาตนบ้าง หลังเกิดเรื่องน้องไทตัลเสียชีวิต ตนยังส่งพวงหรีดไปแสดงความเสียใจ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ห่วงเรื่องเงินบริจาค เพราะเป็นสิทธิของพ่อแม่น้องไทตัล ส่วนตัวที่ออกมาให้ข้อมูลเพียงต้องการให้นายอนุชามีจิตสำนึก ตนเข้าใจว่าเป็นช่วงเวลาของความสูญเสีย แต่เรื่องการโกงเงิน เรื่องหนี้สินก็ต้องแยกแยะกัน

ขณะที่ น.ส.วิไลวรรณ ยังรอด มารดาน้องไทตัล ชี้แจงว่า ไม่ทราบว่านายอนุชาไปติดเงินใครไว้หรือไม่ อยากให้มีการสอบถามกับเจ้าตัวเอง แต่หากติดจริงก็จะคืนหลังจากงานศพ อีกทั้งในประเด็นดรามาเกี่ยวกับนายอนุชามีภรรยา 2 คนนั้น ชี้แจงว่าก่อนที่นายอนุชาจะมาคบหากับตนเอง แล้วมีน้องไทตัล เขาก็ได้เลิกรากันกับภรรยาเก่าแล้ว ปัจจุบันก็ไม่ได้ติดต่อหรือมีความสัมพันธ์แต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น