“ปิยพจน์” งง “ปิยบุตร” กรณียื้อออกมติขับ 4 งูเห่าออกจากพรรค แถมอ้างองค์ประชุม ขณะ 30 วันหาพรรคใหม่สังกัดครบแล้ว ถาม “แกล้ง” หรือ “ไม่รู้” หรือ “เจตนา” หนุน “4 ส.ส.ฟ้องเอาผิดให้ถึงที่สุด หากทำให้สิ้นสภาพ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(16 ม.ค.63) เฟซบุ๊ก ปิยพจน์ ตุลาชม ของนายปิยพจน์ ตุลาชม อดีตผู้สมัครส.ส. สระแก้ว พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความตรงใจหลายคน หัวข้อ “กรณีกวินนาถ จารึก สารวัตรต๊อก และศรีนวล....”
โดยระบุว่า “...ทั้งสี่คน...ถูกพรรคการเมืองเดิมลงมติขับให้พ้นจากพรรค พวกเขามีเวลา 30 วัน ในการหาพรรคสังกัดใหม่ (ต้องก่อน 16 ม.ค. 63)
...กกต. บอกมาว่า...มีหน้าที่รับทราบข้อมูลของพรรคเท่านั้น และเมื่อพรรคมีมติขับ ส.ส. ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ก็จะถือว่า “มีผลในวันที่ลงมติ” ไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
...ด้วยความเห็นส่วนตัวแล้ว ส.ส. ทั้งสี่คน ไม่น่าที่จะต้องกังวลเรื่องเป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน เพราะยังไงต้องรีบหาที่อยู่ ต้องรับผิดชอบอนาคตของตัวเอง และจำเป็นต้องทำด้วย ไม่งั้น...ความเป็น ส.ส. สิ้นสุดลง แน่ ๆ เมื่อครบ 30 วัน
อีกอย่าง กกต. เองก็บอกว่า การขับสมาชิกพรรค เป็นเรื่องของพรรคการเมือง....กกต. ไม่เกี่ยว..
แต่เกิดอะไรขึ้น...ปิยบุตร...บอกว่า "การขับออกจากพรรคจะต้องไปตรวจสอบความถูกต้องเรื่ององค์ประชุมในวันที่ 16 ธ.ค. 62 ก่อน" อ้าว!!!! แล้วมีมติขับเขาออกมาได้อย่างไร ถึงวันนี้ยังจะมาดูเรื่ององค์ประชุม.....บ้าไปแล้ว....ดูภาพสิครับ...
ทั้งสี่คน...ขาดความเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ แล้ว… ไปอยู่ที่ไหนก็ได้แล้ว ไม่ซ้ำซ้อนอย่างแน่นอน
ก็เลยสงสัยว่า...ปิยบุตร...“แกล้ง” หรือ “ไม่รู้” หรือ “เจตนา”....แต่ผมว่าไม่น่าเป็นไปได้ ความรู้กฎหมายระดับนี้ แต่ว่าก็พลาดมาเยอะแล้วล่ะ!!!
...วันนี้ก็เป็นวันครบกำหนด 30 วันแล้วสินะ...
....ถ้า ทั้งสี่คน รอเอกสารยืนยันจาก อนค. ว่าขับเขาออกจากพรรคด้วยเหตุผลใด และยังสงสัยว่า ทำไม อ.ปิยบุตร และพรรคอนาคตใหม่ มีความพยายามทำให้เอกสารออกล่าช้า ? อนค. จะผิดกฎหมายมั้ย ?
และถ้า “ผิดกฎหมาย” อ.ปิยบุตร และพรรคอนาคตใหม่ จะโดนข้อหาอะไรอีก...
ได้ข่าวว่าจะมีการฟ้องร้องจาก ทั้งสี่คน ด้วยนะครับ...
แต่ผมยังยืนยันนะว่า...เมื่อ ทั้งสี่คน ถูกขับออกจากพรรค ก็มีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ โดยไม่มีความผิดใด ๆ และหากมีการประวิงเวลาในการออกเอกสารขับออกจากสมาชิกพรรค จนกระทั่ง ทั้งสี่คน “สิ้นสภาพการเป็น ส.ส.” ขอให้ ทั้งสี่คน ใช้สิทธิ์ทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ลองดูสิว่า ใครจะเสียหายมากกว่ากัน
แน่นอนว่า ทั้งสี่คน จะยังคงเป็น ส.ส. แต่ อ.ปิยบุตร อาจจะต้องกลับไปทบทวนบทบาทในฐานะอาจารย์ทางกฎหมายใหม่...
...จะว่าไปแล้ว....อนค. เองก็ไม่น่าทำให้เกิดประเด็น เพราะเมื่อ ส.ส. ใช้เอกสิทธิ์ของเขาแสดงความเห็นในสภา แต่ไม่ถูกใจพรรค เลยไล่เขาออก...
ด้วยเหตุว่า...ขัดอุดมการณ์ จึงอยู่ร่วมกันไม่ได้ ไม่รักษากติกาพรรค
....เมื่ออยู่ร่วมกันไม่ได้ก็ต่างคนต่างไป ก็เป็นหนทางที่ถูกต้องไม่ใช่เหรอ...
....พวกเขาก็ต้องไปตามมติพรรคที่ขับออก และเป็นข่าวคราวครึกโครม...ชาวบ้านรู้กันไปทั่วแล้ว....
....พวกเขาจึงต้องหาที่อยู่ใหม่ เพื่ออนาคตของพวกเขา...
ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน...อีกเลย....
นี่ถ้าผมมีอำนาจใน อนค. ผมจะดอง ส.ส. ทั้ง 4 คน ไว้ที่พรรคนั่นแหละ...ค่อยพูดจากันด้วยเหตุและผล ด้วยความอดทนอย่างสูงสุด
...อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต้องผลักเขาให้ไปอยู่ฝั่งตรงข้าม...ใช่มั้ย!!!
สำหรับมติขับ 4 ส.ส.ออกจากพรรค เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.62 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เผยว่า ที่ประชุมพรรคสมัยวิสามัญ มีมติ 250 ต่อ 5 คะแนน ให้ขับ ส.ส.ของพรรค 4 คนออกจากพรรค
ประกอบด้วย 1.น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ 2.นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี 3.น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี และ 4.พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี
ขั้นตอนต่อจากนี้จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและส.ส.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้สาเหตุหนึ่งมาจากการไปให้สัมภาษณ์ในทำนองโจมตีพรรคเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมไปถึงกรณีการให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยกับการจัดแฟลชม็อบเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 ซึ่งในประเด็นของการจัดแฟชลม็อบดังกล่าว ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อก่อให้เกิดความรุนแรง
นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 101 (9) กำหนดให้ส.ส.ที่ถูกที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ขับออกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ส.ส.ที่ถูกขับออกดังกล่าวจะยังไม่พ้นจากการเป็นส.ส. หากสามารถหาพรรคสังกัดใหม่ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พรรคมีมติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ม.ค.63 น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เผยว่า กำลังเร่งตรวจสอบองค์ประชุมในวันประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 62 ที่มีมติขับ 4 ส.ส. ออกจากพรรค โดยเชื่อว่า ต้นสัปดาห์หน้าจะส่งเอกสารมาที่สภาผู้แทนราษฎร และให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ พร้อมระบุว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่า องค์ประชุมในวันดังกล่าวครบหรือไม่
และส่วนตัวไม่มีความรู้เรื่ององค์ประชุมและข้อกฎหมาย จึงไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้มาก ยืนยันว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคดำเนินการเต็มที่ แต่พรรคมีคดีความกว่า 30 คดี จึงต้องจัดลำดับความสำคัญ โดยเฉพาะคดีใหญ่ที่นำไปสู่การยุบพรรคได้ถึง 2 คดี ดังนั้นหากมีปัญหาเรื่องสมาชิกภาพของ 4 ส.ส. ก็ขึ้นอยู่กับการตีความของ กกต. ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้ง และไม่จำเป็นต้องยื้อ 4 ส.ส.
เมื่อถามว่า หาก 4 ส.ส. ฟ้องร้องดำเนินคดีพรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบคุณสมบัติของตนเอง ไม่ใช่อำนาจของพรรคที่จะให้ใครพ้นสมาชิกภาพ การเป็น ส.ส. ส่วนการตรวจสอบสมาชิกภาพและสิทธิ์ในการย้ายพรรคก็เป็นหน้าที่ของตัวส.ส. เอง
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 15 ม.ค.63 กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พร้อมด้วย จารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี 2 ใน 4 ส.ส.ที่พรรคอนาคตใหม่ มีมติขับพ้นส.ส.และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไทแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 และ 26 ธ.ค. ได้เดินทางมาที่สำนักงาน กกต. เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ด้านกิจการพรรคการเมือง ถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ ระบุมติขับ 4 ส.ส. พ้นพรรคอาจไม่สมบูรณ์เพราะองค์ประชุมไม่ครบ การกระทำของอนค.จะถือเป็นการกลั่นแกล้งส.ส.ทั้ง 4 คนหรือไม่
แหล่งข่าวจากกกต.แจ้งว่า ในวันนี้(15 ม.ค.63)ทุกพรรคต้องส่งรายงานการเพิ่ม-ลดจำนวนสมาชิกพรรค ไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 มายังกกต. ซึ่งปรากฎว่าจนถึงเวลา 16.30 น. สำนักงานกกต.ยังไม่ได้รับรายงายจากพรรคอนาคตใหม่ แต่อาจจะมีการจัดส่งทางไปรษณีย์ตามช่องทางที่กกต.เปิดให้ดำเนินการได้
อย่างไรก็ตาม ในระบบฐานข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ พบว่ายังมีชื่อ 4 ส.ส.ซึ่งถูกขับออกจากพรรค เป็นสมาชิกพรรคอยู่ ขณะที่พรรคพลังท้องถิ่นไท มีหนังสือแจ้งกกต.แล้วว่า กวินนาถและจารึก สมัครเป็นสมัครพรรคแล้ว
ดังนั้น กวินนาถและจารึก จึงมีชื่อเป็นสมาชิกพรรค 2 พรรค ซึ่งอาจถูกนายทะเบียนพรรคการเมือง ลบชื่อออกจากทั้ง 2 พรรค ตามกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 26 วรรคสอง ส่งผลให้สิ้นสภาพส.ส.เช่นกัน
ส่วนน.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ กับ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี ที่เปิดตัวจะเข้าพรรคภูมิใจไทยและพลังประชารัฐ แต่ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกนั้น หากพรรคอนาคตใหม่ส่งรายงานการเพิ่ม-ลดจำนวนสมาชิกล่าช้า
หรือใช้เวลาตรวจสอบองค์ประชุมเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2562 ล่าช้าจนเลยวันที่ 16 ม.ค.63 แล้ว ต่อมาได้ยืนยันกับกกต.ว่าองค์ประชุมครบถ้วน มีมติขับ 4 ส.ส.ถูกต้อง จะเกิดปัญหากับทั้ง 4 คน หาพรรคใหม่ไม่ทัน 30 วัน ซึ่งจะเกิดปัญหาข้อกฎหมายว่าทั้ง 4 หลุดจากส.ส.แล้วใช่หรือไม่ อาจจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ...
แน่นอน, โพสต์ของ ปิยพจน์ ตุลาชม อดีตผู้สมัครส.ส.อนาคตใหม่ จึงนับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้งยังสะท้อนการทำงานการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองจากแบบเก่า แต่ขอโทษที ในความหมายของ อดีตลูกพรรคล้มหวาน มัน “น้ำเน่า” ยิ่งกว่าเขาเสียอีก!!!
