xs
xsm
sm
md
lg

สี จิ้นผิง บอกไวรัสเป็น ‘เหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุด’ ของจีน และกระทบเศรษฐกิจอย่างแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 18 ธ.ค. 2019)
เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ว่า โรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนา “โควิด-19” ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 2,400 คนแล้ว เป็น “เหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุด” นับตั้งแต่สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นมาในปี 1949 พร้อมกับบอกว่าในขณะที่ทางการจีนพยายามควบคุมโรคอยู่นี้ ก็จะยกระดับการปรับนโยบายเพื่อช่วยพยุงความกระทบกระเทือนที่มีต่อเศรษฐกิจ

ตามรายงานของซีซีทีวี สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน ในระหว่างการประชุมวันอาทิตย์กับเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมมือประสานงานกันต่อสู้กับไวรัสนี้ สีกล่าวด้วยว่า จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ “จุดอ่อนข้อบกพร่องต่างๆ ที่เผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน”

เขาบอกว่า โรคระบาดครั้งนี้ “มีการติดต่ออย่างรวดเร็วที่สุด, การแพร่เชื้อเป็นไปอย่างกว้างขวางที่สุด, และการป้องกันและการควบคุมมีความยากลำบากที่สุด” และกล่าวว่า “นี่คือวิกฤตการณ์ครั้งหนึ่งสำหรับพวกเรา และเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง”

สถานการณ์กำลังแสดงให้เห็นแนวโน้มในทางบวกหลังจากมีการใช้ความพยายามอย่างยากลำบาก ทว่าไม่มีช่องว่างสำหรับ “ความเหนื่อยล้าและความคิดจิตใจที่ย่อหย่อน” ในหมู่เจ้าหน้าที่

“ในปัจจุบัน สถานการณ์ของการระบาดยังคงสาหัสและสลับซับซ้อน และงานการป้องกันและการควบคุมกำลังอยู่ในขั้นตอนที่ยากลำบากที่สุดและสำคัญอย่างที่สุด” เขากล่าว

สียอมรับว่า โรคติดต่อครั้งนี้จะ “ส่งผลกระทบอย่างค่อนข้างใหญ่ต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้” แต่ก็ย้ำว่าผลกระทบจะอยู่ใน “ระยะสั้น” และสามารถควบคุมได้

เหล่าอาสาสมัครของชุมชน (2 คนทางขวา) ที่สวมหน้ากากอนามัยและถุงมือและคอยเฝ้าอยู่บริเวณทางเข้าย่านที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ตรวจวัดอุณหภูมิของชายผู้หนึ่งที่จะเข้าไปในชุมชน เมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.พ.)
เท่าที่ผ่านมาทางพวกผู้วางนโยบายของจีนได้ประกาศใช้มาตรการจำนวนหนึ่งแล้ว เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่อยู่ในอาการสั่นคลอนเนื่องจากไวรัส โดยเป็นที่คาดหมายกันว่าจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่ออัตราเติบโตของจีดีพีในช่วงไตรมาสแรก

สีกล่าวในคราวนี้ว่า พวกมณฑลซึ่งมีความเสี่ยงต่ำควรโฟกัสไปที่งานฟื้นฟูและการผลิตในลักษณะรอบด้าน ขณะที่พวกมณฑลซึ่งมีความเสี่ยงระดับกลางควรตั้งจุดมุ่งหมายไปที่การฟื้นฟูงานต่างๆ ขึ้นมาใหม่อย่างเป็นระเบียบ ส่วนเขตที่มีความเสี่ยงสูงควรเน้นหนักที่การควบคุมโรคติดต่อ

เขาบอกว่ารัฐบาลจะยกระดับการสนับสนุนทางนโยบาย เพื่อช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาต่างๆ ทางเศรษฐกิจและสังคมสำหรับปี 2020

จีนจะยังคงรักษานโยบายเงินตราที่สุขุมรอบคอบ และนำขั้นตอนของนโยบายใหม่ๆ ออกมาใช้อย่างถูกจังหวะเวลา เขากล่าว และเสริมว่ารัฐบาลจะยังคงศึกษาและนำเอามาตรการตัดลดภาษีอย่างเป็นขั้นตอนออกมาใช้ เพื่อช่วยเหลือพวกกิจการขนาดเล็กให้สามารถเอาชนะความยากลำบากไปได้

รัฐบาลยังจะดำเนินขั้นตอนต่างๆ เพื่อสนับสนุนการจ้างงานอย่างมีการยืดหยุ่น และช่วยเหลือให้ผู้สำเร็จการศึกษาจากมามหาวิทยาลัยหางานทำได้ สีกล่าวเสริม
กำลังโหลดความคิดเห็น