xs
xsm
sm
md
lg

พิษดีลลับ! “คำ ผกา” จวก “จอมขวัญ” ไม่เลือกข้างเห็นแก่ตัว ยอมรับเป็น “ควายแดง” เชิญแหกตามสบาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“คำผกา” อารมณ์ค้าง ทวีตเดือดจวก “จอมขวัญ” ไม่เลือกข้างเห็นแก่ตัว อัด “อนาคตใหม่” กล่าวหา “เพื่อไทย” มีดีลลับกับรัฐบาล ด่าส่ง “นิสัยแบบนี้ถึงมีงูเห่า!”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วานนี้ (27 ก.พ. 63) ทวิตเตอร์ kam phaka @kamphaka (คำ ผกา) ของ ลักขณา ปันวิชัย หรือ “คำ ผกา” ผู้ดำเนินรายการทางสถานี VoiceTV ทวีตข้อความไม่พอใจที่แกนนำคณะอนาคตใหม่ กล่าวหาพรรคเพื่อไทย ทำให้สถานการณ์ของฝ่ายค้านดูย่ำแย่ ทั้งที่ควรสามัคคีกันไว้

โดยบางทวีตระบุข้อความว่า “นิสัยแบบนี้ไง เลยมีงูเห่าในพรรครัวๆ” ขณะเดียวกัน “คำ ผกา” ได้แสดงจุดยืนว่า หากพรรคเพื่อไทยมีการเจรจาลับกับฝ่ายรัฐบาลจริง ตนก็พร้อมจะวิจารณ์เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 23.49 น. ทวิตเตอร์ Jomquan @ jomquan ก็โพสต์ข้อความ ระบุว่า

“ดิฉัน.. ผู้ซึ่งไม่มีความ fc ต่อพรรคการเมืองใด และไม่เคยไว้ใจนักการเมืองที่ตัวเองเลือกเลยจ่ะห์ 5555555”

เหมือนกับเย้ยอีกฝ่าย แม้ว่าจะไม่ชัดเจนนัก แต่การที่ “คำ ผกา” มีพรรคพ่อทูนหัว คือ เพื่อไทยอยู่แล้ว และกำลังปกป้องจากพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งไม่น่าเชื่อว่าพรรคตัวเองจะเป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา จึงเดือดดาลอย่างยิ่งต่อ โพสต์ของ “จอมขวัญ”

ทำให้เมื่อเวลา 23.59 น. วันที่ 27 ก.พ. 63 “คำ ผกา” โพสต์ข้อความตอบโต้ทันควัน โดยระบุว่า

“ด่าได้ แหกได้ เป็นควายแดงติ่งเพื่อไทย เปิดเผยมาตลอด เลือกผิดดีกว่าไม่เคยเลือก คนไม่เลือกข้างคือคนเห็นแก่ตัว อย่ามาทำลอยๆ ว่าชั้นเก๋ ชั้นฉลาด ชั้นไม่ไว้ใจใคร สำหรับแขก ถ้าเลือกผิดก็แค่ยอมรับว่าเราผิด และเรียนรู้เลือกใหม่ มูปอร—ดังนั้น คนที่กล้าเลือก ว่าเป็นติ่งส้ม ก็น่าชื่นชม”

ขณะเดียวกัน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ได้ทวีตข้อความว่า

“เรื่องดีลลับมันไม่มี จะเริ่มตอบยังไงยังไม่ทราบเลย กระทู้สดแรกของผมในสภาครั้งนี้ เป็นเรื่องบิ๊กป้อมใช้เจ็ตหรู ในการประชุมต่างๆ พท.ก็จัดหนักมาโดยตลอด จะไปจับมือกันเป็นไปไม่ได้ คนไทยโดนกระทำเหมือนกัน เท่ากัน ความไม่พอใจผมไม่น้อยกว่าใครครับ #เผด็จการหัวเราะ”

ด้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ แสดงความไม่พอใจกรณีที่คณะอนาคตใหม่กล่าวหาพรรคเพื่อไทยใช้เทคนิคอภิปรายยืดเวลา เพราะมีการเจรจาลับกับฝ่ายรัฐบาล ทำให้ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่หมดสิทธิอภิปรายในสภาว่า

เย็นวานนี้ พรรคฝ่ายค้านซึ่งรวม อนค. มีมติวอล์กเอาต์ (walk out) จากห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมให้ฝ่ายค้านอภิปรายต่อ ทั้งที่ยังมีเวลา จากนั้นได้มีการประชุมร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านยกเว้นสมาชิกจาก อนค.ไม่ได้ประชุมด้วย ที่ประชุมมีมติร่วมกันว่า จะประท้วงโดยการไม่มาลงมติ ปล่อยให้รัฐบาลลงมติกันไปเอง

การวอล์กเอาต์หรือการไม่ไปลงมติ คือการประท้วงหรือการแสดงความไม่พอใจ อันถือเป็นการแสดงออกทางการเมืองแบบหนึ่ง ก่อนหน้านี้พรรคร่วมฝ่ายค้านซึ่งรวม อนค. ก็เคยปฏิบัติกรณี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลขอให้มีการนับคะแนนใหม่ ในการลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบ ตามมาตรา 44 เมื่อประธานอนุญาตให้ลงมติใหม่ด้วยการขานชื่อ พรรคฝ่ายค้านซึ่งรวม อนค.ด้วยก็ประท้วงโดยการไม่ลงมติ การไม่ลงมติจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ได้หมายความว่าไม่ทำงาน

พรรคเพื่อไทยถูกกล่าวหาว่า จงใจอภิปรายยืดเยื้อเพื่อให้หมดเวลาอภิปราย พล.อ.ประวิตร ผมไม่โกรธที่เพื่อนกล่าวหาเราแบบนั้น เพียงอยากเตือนสติว่า พรรคเพื่อไทยยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการมาก่อนจะมีพรรค อนค. และเป็นพรรคที่ถูกรังแกจากเผด็จการมากที่สุด

ภาพจากแฟ้ม
ผมยอมรับว่า คนของพรรคมีส่วนผิดที่คุมเวลาไม่ได้ แต่คนของเพื่อไทยก็เสียสิทธิอภิปรายหลายคนเช่นกัน การจัดลำดับอภิปราย พล.อ.ประวิตรเป็นคนสุดท้าย ก็เป็นมติของพรรคร่วม ดังนั้น ข้อกล่าวหาว่า มีการวิ่งเต้นเพื่อไม่อภิปรายใคร จึงเป็นการกล่าวหาลอยๆ ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียหาย วิธีการแบบนี้ ผมไม่คุ้น เพราะไม่เคยระแวงหรือกล่าวหาเพื่อนโดยไม่มีหลักฐาน แม้จะมีข่าวว่าเพื่อนแอบไปคุยกับทหารมาก็ตาม

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (28 ก.พ. 63) เฟซบุ๊ก การเมืองไทย ในกะลา โพสต์ข้อความติดแฮชแท็ก #กูสั่งให้มึงเข้าสภา

โดยระบุว่า “ภายหลังการปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. เวลา 19.15 น. โดยยังมีรัฐมนตรีอีก 2 คนที่ยังไม่ถูกอภิปราย คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ซึ่งฝ่ายค้านที่จะมาอภิปรายยังเหลืออีก 5 คน ในจำนวนนี้ 4 คน คือ ส.ส. ที่เคยสังกัดพรรคอนาคตใหม่

ต่อมาเวลา 19.30 น. วันที่ 27 ก.พ.ตัวแทนฝ่ายค้านทุกพรรค ยกเว้นอดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้มาร่วมกันแถลงข่าว ระบุว่า ฝ่ายค้านจะไม่ร่วมโหวต และไม่อยู่เป็นองค์ประชุมโดยให้รัฐบาลโหวตกันเอง

ส่วนอดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาแถลงแสดงความไม่พอใจ ที่พรรคเพื่อไทย อภิปรายเกินเวลา และคาดว่าจะมีการปกป้อง พล.อ.ประวิตร ไม่ให้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนทำให้ ส.ส. ที่เคยสังกัดพรรคอนาคตใหม่ ต้องมาอภิปรายนอกสภา

ขณะที่ประชาชนต่างแสดงความไม่พอใจที่ฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมลงมติไว้วางใจในวันที่ 28 ก.พ. จนเกิดแฮชแท็กในทวิตเตอร์ #กูสั่งให้มึงเข้าสภา ติดเทรนด์อันดับ 1

กระทั่งเวลา 00.07 น. วันที่ 28 ก.พ. อดีตพรรคอนาคตใหม่ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า “แม้พรรคเราจะถูกยุบ แต่ ส.ส.อดีตพรรค #อนาคตใหม่ ทุกคนตั้งใจจะเดินหน้าทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อไป โดยในวันนี้ 28 กุมภาพันธ์ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ จะเข้าประชุมสภา เพื่อลงมติแทนประชาชนในการลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 6 รัฐมนตรี #กูสั่งให้มึงเข้าสภา”
ทั้งนี้อ้างแหล่งที่มาจาก https://www.khaosod.co.th/politics/news_3658415

กระนั้น ประเด็นที่น่าสนใจมากกว่าก็คือ กรณีการทวิตเตอร์ตอบโต้กันอย่างเผ็ดร้อนของ “คำ ผกา” กับ “จอมขวัญ”

ส่วนใครเป็นใคร เราลองมาไล่เรียงดูกัน

เริ่มจาก ลักขณา ปันวิชัย หรือ “คำ ผกา” ชื่อเล่น “แขก” เป็นคนอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นนักเขียนคอลัมน์ดังเรื่อง “กระทู้ดอกทอง” และพิธีกรในสถานีวอยซ์ทีวี

ในอดีตเคยเป็น นักข่าว และครู คอลัมนิสต์ นักแปล และเคยถ่ายภาพเปลือยให้แก่นิตยสาร GM Plus และถ่ายภาพเปลือยตัวเองเพื่อแสดงความเห็นในคดีระหว่างพนักงานอัยการ กับอำพล ตั้งนพกุล

ในขณะที่เป็นนักเขียนเธอได้มีนามปากกาหลายชื่อ ได้แก่ “คำ ผกา”, “ฮิมิโตะ ณ เกียวโต” และ “คำปัน ณ ปันนา”

ส่วน จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ชื่อเล่น “ขวัญ” หลังจบจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ก็เข้ามาเป็นผู้รายงานข่าวทางเนชั่นทีวี และช่วงเวลาต่อมามีผลงานเขียนคอลัมน์ทางนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ และหนังสือพกพา (pocket book) นักข่าวหลังอาน กับสำนักพิมพ์เนชั่น ซึ่งวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2552 ด้านชีวิตส่วนตัวสมรสกับ เมธัส อนุวัตรอุดม นักวิชาการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ซึ่งทั้งคู่พบกันครั้งแรกขณะที่ฝ่ายชายไปออกรายการของฝ่ายหญิง

ในปลายปี พ.ศ. 2558 ได้ย้ายไปยังไทยรัฐทีวี (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)

แน่นอน, ถือว่าทั้งคู่ยืนหยัดต่อสู้อยู่บนถนนสายเดียวกัน คือ สื่อมวลชน นักคิด นักเขียน แต่ที่สะท้อนให้เห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ก็คือ ลีลาในการนำเสนอผลงาน ซึ่งเห็นได้ชัดจากปูมชีวิตนั่นเอง

“คำ ผกา” หวือหวา ตรงไปตรงมา บางลีลาก็ออกจะกล้าเกินหญิง และเป็นคนสู้คน ขณะที่ “จอมขวัญ” ลีลาหน้าจอของเธอก็นับว่าไม่เป็นสองลองใคร ในการซักถาม ประเด็นข่าว และต้อนแขกรับเชิญให้คลายข้อมูล

วันนี้ทั้งคู่ปะทะกัน ทางหน้าทวิตเตอร์ อย่างร้อนแรง บนกระแสร้อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้

แต่ที่ไม่ต้องรอพิสูจน์ก็คือ จุดยืนทางการเมืองของทั้งคู่นั้นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น