xs
xsm
sm
md
lg

ผลวิจัยใหม่ชี้ยอดตายโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะทะลุ 8 หมื่น เว้นระยะห่างสังคมเอาไม่อยู่!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เอเอฟพี - ผลวิจัยใหม่ที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (26 มี.ค.) พบไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อาจทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ พุ่งทะลุ 80,000 ศพ และโรงพยาบาลทั่วประเทศจะรองรับผู้ป่วยไม่ไหวอย่างเร็วที่สุดในเดือนเมษายน แม้ว่าประชาชนให้ความร่วมมือในมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมแล้วก็ตาม

ในวันพฤหัสบดี (26 มี.ค.) ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการพบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 7,454 คน รวมเป็น 75,665 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 73 คน ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,100 คน

พวกผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน Institute for Health Metrics and Evaluation Institute for Health Metrics and Evaluation (IHME) ของโรงเรียนการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้วิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดของโควิด-19 ทั้งในระดับท้องถิ่น, ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ ในนั้นรวมถึงอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต เช่นเดียวกับข้อมูลของผู้ป่วย ทั้งในด้านอายุ, เพศและโรคประจำตัว

ทั้งนี้ พวกเขาพินิจพิเคราะห์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาระหว่างเคสผู้เสียชีวิตรายแรกกับมาตรการแทรกแซงต่างๆ อย่างเช่นปิดโรงเรียนและธุรกิจ จากนั้นก็มองไปถึงปริมาณเตียงคนไข้ในห้องไอซียูและเครื่องช่วยหายใจที่มีอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งผลวิเคราะห์เตือนว่าในแนวโน้มปัจจุบัน ปริมาณคนไข้โควิด-19 จะล้นศักยภาพทางการแพทย์อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน

ผลการวิเคราะห์คาดหมายว่าจะมีประชาชนในสหรัฐฯ ราวๆ 81,000 คน เสียชีวิตจากโควิด-19 ในช่วง 4 เดือนข้างหน้า

จากโมเดลของ IHME ระหว่างพีกสุดของการระบาด ซึ่งน่าจะเป็นช่วงไหนช่วงหนึ่งของเดือนเมษายน อาจมีคนไข้ตายมากถึง 2,300 คนในแต่ละวัน และในกรณีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นแม้กระทั่งประชาชนยอมปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด “วิถีของโรคระบาดใหญอาจเปลี่ยนแปลง และอาจเลวร้ายลงไปกว่านี้ หากประชาชนผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและไม่เคร่งครัดมาตรการป้องกันไว้ก่อนเหมือนเดิม”
กำลังโหลดความคิดเห็น