xs
xsm
sm
md
lg

คอลัมน์นอกหน้าต่าง : ‘อู่ฮั่น’ ปรับโฟกัส จากศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 หันมาเน้นคัดกรองผู้ติดเชื้อไวรัสที่อิมพอร์ตจากต่างแดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงสถานีรถไฟในเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย เมื่อวันเสาร์ (28 มี.ค.) ต่างสวมหน้ากากอนามัย และแต่งตัวในชุดป้องกันโรคกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ อู่ฮั่นซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดในประเทศจีนของโควิด-19 กำลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ปิดเมือง  และหันไปเน้นหนักที่การป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อจากต่างแดน เข้ามาแพร่โรคจนเกิดการระบาดระลอก 2
“อู่ฮั่น” นครศูนย์กลางการระบาดของโรคติดต่อ “โควิด-19” ในประเทศจีน กำลังเปิดเมืองขึ้นมาใหม่อย่างระแวงระไว ภายหลังระยะเวลา 2 เดือนของการกักกันโรค

นครซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย และเป็นจุดแรกที่ปรากฏโรคติดต่อของไวรัสโคโรนานี้ขึ้นมาก่อนแพร่กระจายออกไปเป็นโรคระบาดขนาดใหญ่ทั่วโลก กำลังให้ความสนอกสนใจเป็นพิเศษในเรื่องการระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการณ์ซ้ำเป็นระลอกที่ 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบาดจากเคสติดเชื้อที่อิมพอร์ตเข้ามาจากต่างประเทศ

มาถึงขณะนี้มาตรการจำกัดการเดินทางได้รับการผ่อนคลายลง โดยสถานีรถไฟของอู่ฮั่นซึ่งเป็นฮับคมนาคมสำคัญมากในแดนมังกร กำลังเปิดให้บริการขบวนรถไฟขาเข้าขึ้นมาใหม่อย่างเป็นทางการในวันเสาร์ (28 มี.ค.) เช่นเดียวกันทางหลวงสายต่างๆ ก็เริ่มมีการสัญจรกันคึกคักขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์อย่างชนิดไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งได้บังคับประชาชนมากกว่า 50 ล้านคนทั่วทั้งมณฑลหูเป่ยให้อยู่กับบ้าน ได้ถูกยกเลิก (ยกเว้นที่อู่ฮั่น) ไปก่อนหน้านี้หลายวัน

การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้ก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลกลับบ้านของชาวบ้านชาวเมืองท้องถิ่นแถบนี้ ผู้ซึ่งต้องกลายเป็นคนจรพลัดถิ่นอยู่ตามที่ต่างๆ ในประเทศจีน โดยที่มีรายงานว่าจำนวนมากทีเดียวต้องเผชิญกับการถูกรังเกียจขับไล่ไสส่ง หรือถูกจำกัดการเดินทางการเคลื่อนไหว มาถึงเวลานี้พวกเขาต่างพากันแห่แหนกลับอู่ฮั่นกลับหูเป่ย ซึ่งพวกเขาอำลาจากไปอย่างน้อยที่สุดก็ 10 สัปดาห์แล้ว

อย่างไรก็ดี ผู้ที่เดินทางกลับบ้านเหล่านี้ ซึ่งจำนวนมากทีเดียวกลับมาถึงด้วยรถไฟ ขณะสวมหน้ากากอนามัยป้องกันใบหน้า 2 ชั้น, สวมถุงมือยาง, และใส่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชุดที่มุ่งป้องกันโรคให้ตนเอง ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะนำเอาการติดเชื้อระลอกใหม่ เข้ามาพร้อมกับพวกเขาด้วย และพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบก็กำลังหาทางป้องกันเอาไว้ก่อนอย่างเต็มกำลัง

ก่อนที่จะออกมาจากสถานีรถไฟอู่ฮั่น ผู้โดยสารทุกๆ คนต้องลงทะเบียนโดยให้รายละเอียดข้อมูลส่วนตัวและประวัติการเดินทางของพวกเขา ก่อนผ่านด่านตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย

พวกเขายังต้องแสดงหลักฐานรับรองว่ามีสุขภาพดี หรือเรตติ้ง “สีเขียว” ที่แสดงว่า “ปลอดภัย” บนระบบแอปป์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งได้รับการยอมรับนำออกมาใช้กันทั่วประเทศจีน รวมทั้งมีการใช้เทคโนโลยี บิ๊กดาต้า เพื่อตรวจสอบย้อนกลับไปว่ามีใครคนไหนไปเยือนพื้นที่ความเสี่ยงสูงในเมืองจีนแห่งใดหรือไม่

ถ้าใครไม่มีหลักฐานรับรองเช่นนี้ ผู้เดินทางเหล่านี้ก็จะต้องเข้ารับการตรวจทดสอบกรดนิวคลิอิกเพื่อหาไวรัส เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในเขตเจียงอั้น ของอู่ฮั่น บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี

ผู้ที่รายงาน หรือผู้ที่ต้องสงสัยว่าเคยเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ จะถูกส่งไปยังพื้นที่ลงทะเบียนแยกต่างหากออกไป โดยพวกพนักงานในชุดป้องกันเชื้อโรคเต็มยศ จะเป็นผู้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ของพวกเขา

<i>ผู้ที่ต้องได้รับการตรวจทดสอบหาเชื้อโควิด-19 (ขวา) ยืนเข้าแถวรอ ขณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งอยู่ในชุดป้องกันโรคเต็มยศ  ใช้สำลีเก็บตัวอย่างจากลำคอของผู้ที่ต้องถูกตรวจ ณ คลินิกชั่วคราวที่บริเวณทางเข้าโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น เมื่อวันอาทิตย์ (29 มี.ค.)  </i>

พนักงานโรงแรมผู้หนึ่งซึ่งสวมชุดป้องกันโรค ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อให้แก่แขกที่เพิ่งเดินทางมาถึง เป็นมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น วันอาทิตย์ (29 มี.ค.)
“อยู่เมืองจีนปลอดภัยกว่า”

“ตอนแรกๆ เรารู้สึกกลัวมากกว่า และอาจจะคิดว่ามันปลอดภัยกว่าถ้าอยู่ต่างประเทศ” หาน หลี่ ซึ่งเกี่ยวข้องอยู่กับกรรมวิธีรับผู้เดินทางกลับมายังอู่ฮั่น บอกกับเอเอฟพี

“แต่มาถึงตอนนี้ มันดูเหมือนไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสียแล้ว มันดูเหมือนว่าอยู่ในเมืองจีนจะมีความปลอดภัยกว่า”

จีนระบุว่าตนประสบความสำเร็จในการสู้รบปราบปรามไวรัสโคโรนา โดยตัวเลขสถานการณ์โรคอย่างเป็นทางการที่รายงานเป็นประจำทุกวันเวลานี้ กำลังแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศจีนเองเลย

ในอู่ฮั่นซึ่งเมื่อตอนที่วิกฤตการณ์ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดนั้น มีเคสผู้ป่วยใหม่วันละหลายพันคน มาถึงตอนนี้กลับหล่นลงมาอยู่ที่ 0 แล้ว

ทว่าจากการที่สหรัฐฯ, ยุโรป และภูมิภาคอื่นๆ ขณะนี้ต่างต่อสู้อย่างสาหัสกับการระบาดในประเทศของพวกเขาเอง จีนก็กำลังรายงานว่าในแต่ละวันพบเคสผู้ที่ป่วยจากต่างประเทศวันละหลายสิบราย และจึงหันเหจุดโฟกัสไปทุ่มเทความพยายามในการป้องกันภัยคุกคามของไวรัสที่มาจากภายนอก

จีนได้ใช้มาตรการขั้นตอนที่น่าตื่นใจ ด้วยการประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (26) ที่ผ่านมา ตัดลดจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศ ให้เหลือไป/กลับแต่ละประเทศเพียงแค่ 1 เที่ยวต่อสัปดาห์, จำกัดศักยภาพในการรับผู้โดยสารของแต่ละเที่ยวบินลงมาเหลือ 75%, และกำลังสั่งห้ามชาวต่างประเทศส่วนใหญ่ไม่ให้เข้าประเทศจีน แม้กระทั่งผู้ที่มีวีซ่าประเภทผู้มีถิ่นพำนักถาวร ซึ่งยังไม่หมดอายุ

ภาพที่เผยให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อู่ฮั่นกำลังเผชิญอยู่ ได้แก่ การที่มีผู้โดยสารจำนวนมหึมาแออัดยัดเยียดกันอยู่บนขบวนรถไฟและรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับบ้าน ซึ่งเป็นการคุกคามที่จะทำลายผลดีทั้งหลายจากมาตรการควบคุมปิดเมืองอันนครแห่งนี้เพิ่งผ่านพ้นมาอย่างยังไม่ทันหมดสิ้นด้วยซ้ำ พร้อมกับบาดแผลที่ยังติดตรึงอยู่ทางจิตใจ

ในเมืองหวงกั่ง ที่อยู่ใกล้เคียงกับอู่ฮั่น ปรากฏว่าโรงแรมจำนวนมากยังคงปิดทำการ ขณะที่ภัตตาคารร้านอาหารต่างๆ ยังห้ามเข้าไปรับประทานอาหารข้างในร้าน โดยขายให้เฉพาะผู้ที่นำกลับบ้านเท่านั้น พร้อมกันนั้นยังคงมีแผ่นป้ายแขวนอยู่ตามท้องถนนเตือนภึงภัยคุกคามที่ยังคงดำรงอยู่

“การรวมตัวกันเล่นไพ่คือการฆ่าตัวตาย” แผ่นป้ายข้างถนนแผ่นหนึ่งเขียนเอาไว้เช่นนี้

<i>คนขับแท็กซี่สวมชุดป้องกันโรค แล้วยังมีแผ่นพลาสติกกั้นระหว่างตัวเขากับผู้โดยสาร เพื่อเป็นมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19  ขณะขับรถแท็กซี่ของเขาอยู่ในเมืองอู่อัน วันอาทิตย์ (29 มี.ค.) </i>

<i>อาสาสมัครของชุมนุมซึ่งสวมหน้ากากอนามัย คอยดูแลรักษาการณ์บริเวณทางเข้ากลุ่มอาคารพักอาศัยแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น เมื่อวันเสาร์ (28 มี.ค.) </i>
ไม่มีห้องว่าง

เมื่อวันเสาร์ (28) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับเขตผู้หนึ่งในเมืองอู่ฮั่น งัดเครื่องตอกตรึงออกเพื่อเปิดประตูกระจกของโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งได้ถูกสั่งปิด รวมทั้งก่อนหน้านี้เคยถูกใช้เป็นที่กักกันโรคสำหรับผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ก็เพื่อเปิดใช้เป็นสถานที่ตรวจทดสอบไวรัส

พวกนักข่าวของเอเอฟพีซึ่งเดินทางมาถึงอู่ฮั่นเมื่อไม่นานมานี้ อยู่ในกลุ่มที่ถูกระบุว่าจะต้องได้รับการตรวจทดสอบ ซึ่งกระทำกันในลักษณะแบบชั่วคราวเฉพาะหน้า โดยผู้ถูกตรวจนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกด้านนอกทางเข้าของโรงแรม และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้หนึ่งใช้สำลีกวาดลำคอเพื่อนำไปตรวจ

ผู้ถูกตรวจรายหนึ่งเป็นหญิงชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอธิบายว่า เป็นคนไข้ที่ล้มป่วยและหายจากโรติดต่อไวรัสโควิด-19 แล้ว

พนักงานหลายคนตามโรงแรมระดับอินเตอร์หลายแห่งในอู่ฮั่นบอกกับเอเอฟพีว่า ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าจองห้องพัก สืบเนื่องจากโรคติดต่อที่ยังแพร่ระบาดในระดับทั่วโลก

มีโรงแรมอย่างน้อย 1 แห่งที่กล่าวว่า แขกชาวต่างประเทศต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาผ่านการกักกันโรค 14 วันครบถ้วนแล้ว แม้กระทั่งพวกที่พำนักอาศัยอยู่ในจีนตั้งแต่ก่อนโรคระบาด

“เวลานี้อะไรๆ ก็มีการควบคุมอย่างเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น” พนักงานต้อนรับของโรงแรมรายหนึ่งบอกเอเอฟพี

มาตรการต่างๆ ที่ใช้อยู่ในอู่ฮั่น ก็คล้ายคลึงกับพวกที่กำหนดออกมาโดยรัฐบาลท้องถิ่นแห่งต่างๆ ในจีน โดยที่มณฑลจำนวนมากกำหนดให้ผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศต้องแยกตัวกักตนเองอยู่แต่ในบ้าน หรือในสถานที่กักกันโรคซึ่งกำหนดไว้ เป็นเวลา 14 วัน

ข้อจำกัดต่างๆ ที่บังคับใช้กับชาวบ้านชาวเมืองซึ่งกำลังเดินทางออกจากอู่ฮั่น จะยังไม่มีการยกเลิกจนกว่าจะถึงวันที่ 8 เมษายน เมื่อสนามบินของเมืองนี้จะเปิดดำเนินการรับเที่ยวบินภายในประเทศอีกครั้งหนึ่ง

การศึกษาที่เผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพบว่า การล็อกดาวน์ปิดเมืองอู่ฮั่นประสบความสำเร็จในการจำกัดควบคุมการระบาดของไวรัสนี้ แต่ก็เตือนให้ระวังอย่ารีบเปิดเมืองเร็วเกินไป

(เก็บความจากเรื่อง China's virus epicentre pivots to stem imported cases ของสำนักข่าวเอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น