ยะลา สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กระทบชาวบ้านใน อ.เบตง จ.ยะลา ต้องหอบอุปกรณ์ทำมาหากินทุกอย่างที่จำนำได้ ขนเข้าโรงรับจำนำแลกเงินประทังชีวิต
วันนี้ (16 เม.ย.) บรรยากาศที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา น.ส.นูรียะห์ สาแม ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเบตง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตั้งแต่เปิดทำการ มีชาวบ้านเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยชาวบ้านนำทรัพย์สินหลายประเภทมาจำนำ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ทำมาหากิน เช่น เครื่องพ่นยาฆ่าหญ้า ไมโครเวฟ กีตาร์ไฟฟ้า แม้กระทั่งธนบัตรชนิดเก่ามาจำนำ โดยตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนมาถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
สำหรับลูกค้าจะมีทุกกลุ่มซึ่งต่างได้รับผลกระทบทั้งตกงาน เลิกจ้าง อย่างกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ที่ทำมาค้าขายกับชาวมาเลเซียต้องหยุดไปเลยเพราะด่านปิด ซึ่งในช่วงหลังพ่อค้าแม่ค้าต่างนำเครื่องมือทำมาหากินมาจำนำกันมากขึ้น แม้กระทั่งนำธนบัตรชนิดเก่าของรักของหวง
ส่วนมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ทางสถานธนานุบาลเมืองเบตง ได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยสถานธนานุบาลเมืองเบตง ให้ผ่อนผันหรือยืดระยะเวลาชำระหนี้แก่ผู้จำนำในห้วงเดือน ก.พ.ถึง มิ.ย.2563 ให้ขยายเวลาไถ่ถอนไปอีก 1 เดือน นับจากครบกำหนด พร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ผู้ที่นำทรัพย์สินมาจำนำระหว่าง 1 เม.ย.ถึง 30 มิ.ย.2563 เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.125 ต่อเดือน หากเกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน โดยทางสถานธนานุบาลเมืองเบตง เตรียมเงิน 35 ล้านบาท เป็นเงินทุนหมุนเวียนช่วยเหลือประชาชนผู้นำทรัพย์สินมาจำนำในช่วงนี้
สำหรับบรรยากาศร้านทองในเขตเทศบาลเมืองเบตงเป็นไปอย่างเงียบเหงา นางจินดา ฟ่อวงศ์สกุล เจ้าของห้างทองจินดา ในเขตเทศบาลเมืองเบตง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงนี้มีแต่คนมาขาย ตอนนี้ขายออกบาทละ 26,200 บาท รับซื้อเฉลี่ยบาทละ 24,500 บาท เพราะต้องกันไว้สภาพคล่องด้วย เนื่องจาก อ.เบตง เป็นอำเภอที่อยู่ใต้สุด โดยจะนำทองออกไปขายก็ออกไม่ได้ เพราะกลับมาต้องถูกกักตัว 14 วัน จึงเป็นปัญหาในการระบายทองออกไปขาย ซึ่ง 1-2 วันนี้มีแต่คนนำทองมาขาย โดยบางคนไปไถ่ทองจากโรงจำนำแล้วนำมาขายต่อ เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวในช่วงโควิด-19 ระบาดไปทั่วก็ช่วยๆ กัน แต่หากสถานการณ์ยังเป็นอยู่แบบนี้ออกไปขายทองไม่ได้ต่อไปคงไม่กล้ารับซื้อทองเข้าเพราะระบายทองออกไม่ได้