xs
xsm
sm
md
lg

จับแม่บุญธรรม จับลูกกรอกน้ำยาล้างส้วม หลอกรับเงินบริจาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



MGR Online - กองปราบบุกรวบสาวใจโหด ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำกรอกปากลูกบุญธรรม อ้างป่วยเป็นโรคประหลาดหลอกรับบริจาคจากได้เงินกว่า 10 ล้าน ด้านเจ้าตัวยังเสียงแข็งยืนกรานปฏิเสธ

วันนี้ (22 พ.ค.) ที่ กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม รอง ผกก.4 บก.ป. และ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.นิษฐา วงวาล หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ชาว กทม. ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 675/2563 ลง 18 พฤษภาคม 2563 ข้อหา “รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ฉ้อโกงประชาชน” ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งภายในซอยเทิดราชัน 13 ถ.เทิดราชัน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. โดยจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับการร้องเรียนว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้มีการพฤติการณ์ฉ้อโกงประชาชนโดยการโพสต์ข้อความเปิดรับบริจาคเงินและหลอกขายสินค้า เช่น หน้ากากอนามัยผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่า จะนำเงินไปรักษาลูกซึ่งป่วยเป็นโรคประหลาดมีไม่กี่คนที่เป็น จนมีคนหลงเชื่อจ่ายเงินสั่งสินค้าและบริจาคเงินช่วยเหลือกว่า 3,000 ราย มีการโอนเงินกว่า 8,000 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาข้อเท็จจริง จนกระทั่งพบความผิดปกติในคดีหลายอย่าง โดยเฉพาะอาการป่วยประหลาดของน้องอิ่มบุญ เด็กชายอายุ 2 ขวบ ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง หลังมีอาการอาเจียนเป็นเลือด ตัวบวมเดินไม่ได้ จนต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต

ต่อมาทางแพทย์จะมีการตรวจพบสารเคมีประเภทออกฤทธิ์เป็นกรด คล้ายกับสารเคมีที่เป็นส่วนผสมของน้ำยาล้างห้องน้ำ หรือ น้ำยาซักฟอก ในร่างกายจำนวนมาก ประกอบกับจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหารายนี้ ยังพบอีกว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาเคยได้รับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อน้องอมยิ้ม อายุ 3 ขวบ มาอุปถัมภ์เลี้ยงดู ก่อนที่ต่อมาจะเสียชีวิตลงด้วยอาการป่วยประหลาดลักษณะเดียวกัน จึงทำให้มีการตั้งข้อสงสัยว่า อาการป่วยของเด็กทั้งสองคนจะเกิดจากการกระทำของผู้ต้องหารายนี้ เพื่อสร้างเรื่องให้ดูน่าสงสารในการหลอกเงินจากคนอื่น จึงได้พยายามรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนนำไปสู่การออกหมายจับและสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อหาฉ้อโกงประชาชนจริง เพราะไม่ได้มีการส่งสินค้าให้กับผู้เสียหาย แต่ยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนทำให้เด็กทั้ง 2 คนป่วยหนักและเสียชีวิต แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่งศาลอาญาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. กล่าวว่า ภายหลังทราบเรื่องดังกล่าวเบื้องต้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. ตั้งคณะทีมสืบสวนสอบสวนขึ้นมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวอย่างละเอียด แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทางคดีได้ เนื่องจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ในตอนนี้ยังมีไม่มากพอ ส่วนการที่ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ตนเชื่อว่า ทางชุดสืบสวนกองปราบจะสามารถสืบหาข้อเท็จจริงมาเอาผิดกับผู้ต้องหารายนี้ได้อย่างแน่นอน

ส่วน นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้รับการประสานจากทีมแพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์ กรณีตรวจพบสารกัดกร่อน ผ่านทางช่องปากเด็กชายอิ่มบุญ อายุ 2 ปี ในระหว่างการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ณ ห้องพิเศษ (ICU) รพ.ธรรมศาสตร์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับทีมสหวิชาชีพ โดย น้องอิ่ม เข้ามารักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ด้วยอาการแพ้และอาเจียนรุนแรง แม่เด็กสันนิษฐานว่าลูกแพ้ปลาหมึก แพทย์พบว่าหลอดอาหารและกระเพาะอาหารอักเสบรุนแรง มีแผลในปาก ลำไส้ และกระเพาะอาหาร สาเหตุจากการกลืนสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน แพทย์สงสัยพฤติกรรมแม่ โดยเชื่อมโยงกับน้องอมยิ้ม พี่สาวของน้องอิ่มบุญ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว ที่เข้ามารักษาเมื่อปีก่อน ซึ่งมีอาการเช่นเดียวกันกับน้องอิ่มบุญ รวมถึงเรื่องขายของและรับบริจาคของแม่เด็กในเฟซบุ๊ก ดังกล่าวเข้าแจ้งความ

ทั้งนี้ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ หมอ พยาบาล รพ.ธรรมศาสตร์ นักสังคมสงเคราะห์ อัยการเด็กและเยาวชน อัยการสูงสุด อัยการจังหวัดธัญบุรี และตำรวจกองปราบ สภ.คลองหลวง ประชุมเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 63 ขอให้ศาลสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เนื่องจากมีความเห็นว่าเด็กอาจได้รับอันตรายหากอยู่ในความดุแลของมารดา โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 37 ประสานส่งตัวเด็กเข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพ ในระบบครอบครัวอุปถัมป์ขององค์กรเอกชน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 33 และช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนแม่เด็กกองปราบปรามออกหมายจับคดีฉ้อโกง และทำร้ายร่างกายเด็กจนได้รับอันตรายสาหัส ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 63 ปัจจุบันถูกฝากขังที่เรือนจำคลองเปรม และคัดค้านการประกันตัว ทั้งนี้ ทีมสหวิชาชีพมีข้อสงสัยว่า เด็กทั้ง 2 คน อาจจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ข้อสันนิษฐาน ดังนี้ 1. กรณีน้องอมยิ้ม กองปราบสืบทราบว่าในใบเกิดชื่อพ่อแม่เป็นบุคคลอื่น 2. กรณีน้องอิ่มบุญ มีการแจ้งเกิดเป็นชื่อแม่ แต่ไม่มีการฝากท้อง ชื่อพ่อไม่ปรากฎ ซึ่งหมอขอให้ตรวจ DNA แต่แม่ไม่ยินยอม จึงต้องขออำนาจศาลให้ตรวจ DNA ในกระบวนการ 3. แม่มีการเปลี่ยนชื่อถึง 4 ครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น