รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปสัมผัสวิกฤตชีวิตของ “คุณแม่น้องการ์ตูน” ที่ต้องสูญเสียสามีจากเหตุตีนผีซิ่งกระบะแข่งกันมา ก่อนเสียหลักพุ่งชนร้านสเต๊กของเธอ ไม่เท่านั้นยังส่งผลให้ลูกสาววัย 5 ขวบต้องพิการติดเตียงจนถึงปัจจุบัน ...6 ปีแล้วที่เธอต้องแบกรับภาระต่างๆ เพียงลำพัง เพราะผู้ก่อเหตุไม่ยอมจ่ายค่าเสียหาย 6 ล้านตามที่ศาลสั่ง แถมออกจากคุกมาเสวยสุขได้แล้ว
หากพูดถึงคุณแม่น้องการ์ตูน หรือศรัญญา ชำนิ เจ้าของร้านสเต๊กแม่น้องการ์ตูน ย่านราษฎร์บูรณะ ครั้งใด หลายคนอดนึกถึงเหตุการณ์ที่เธอและครอบครัวต้องประสบไม่ได้ เหตุการณ์เมื่อเกือบ 6 ปีก่อน คืนวันที่ 19 ก.ย.2557 ที่ตีนผีซิ่งรถกระบะแข่งกันมา แล้วเสียหลักพุ่งชนร้านสเต๊กลุงใหญ่ย่านบางบอนของเธอ
“เสียงดังเหมือนแก๊สระเบิด มีลูกค้าอยู่โต๊ะหนึ่ง เรากำลังเก็บโต๊ะ เลยเรียกลูกค้าเข้าข้างใน รถชนทั้งหมด 5 หลัง เราอยู่หลังที่ 3 ร้านอื่นปิดหมดแล้ว เหลือเราร้านเดียว ...พอวิ่งไปเจอน้อง สิ่งแรกเลยวิ่งไปกลางถนนไปเรียกรถ ให้คุณตาคุณยายอยู่ที่ร้านด้วยวันนั้นแต่อยู่ในครัว พาน้องไปส่ง รพ.ก่อน และประมาณไม่เกิน 3 นาที ก็มีมูลนิธิมาช่วยพ่อ” ศรัญญา ชำนิ คุณแม่น้องการ์ตูน ย้อนเหตุการณ์ที่เหมือนฝันร้ายให้ฟัง
เหตุการณ์วันนั้นไม่เพียงคร่าชีวิตสามีที่เป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ลูกสาววัย 5 ขวบที่กำลังน่ารักอย่างน้องการ์ตูน ซึ่งชอบช่วยคุณพ่อคุณแม่ขายสเต๊กก็แทบไม่รอด แม้ในที่สุด จะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็อยู่ในสภาพพิการติดเตียง พูดไม่ได้ ตามองไม่เห็น!!
คุณแม่น้องการ์ตูนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกที่ต้องอยู่โรงพยาบาลนานถึง 6 เดือน เพราะผู้ก่อเหตุไม่รับผิดชอบใดๆ แม้ในแง่คดีจะถึงที่สุดแล้ว โดยศาลพิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 ปี ไม่รอลงอาญา และให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่คุณแม่น้องการ์ตูน 6 ล้านบาท แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่จ่าย!!
ผู้ก่อเหตุเสวยสุข แต่ผู้สูญเสียต้องระทมทุกข์
ถึงวันนี้ เกือบ 6 ปีแล้ว ผู้ก่อเหตุพ้นโทษออกมาเสวยสุขนานแล้ว ก็ไม่เคยสำนึกในสิ่งตนเองได้กระทำ ไม่เคยคิดที่จะรับผิดชอบใดๆ กับความเสียหายที่ตนเองได้ก่อ ขณะที่ฝ่ายผู้สูญเสียอย่างคุณแม่น้องการ์ตูน ทำได้เพียงให้ทนายสืบทรัพย์ ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ เพราะผ่านมา 6 ปี ยังไร้วี่แววจะเจอทรัพย์
ทนายแนะ สืบไปก็ไม่เจอ เก็บเงินไว้รักษาลูกดีกว่า
“ทนายไปสืบทรัพย์ให้แล้ว ทนายนี้ได้จากกระทรวงยุติธรรม ไม่เสียค่าใช้จ่าย ลองสืบมา 6 เดือนแล้ว เขาไม่มีทรัพย์ให้สืบ พี่ทนายก็แนะนำว่า ไม่ต้องไปจ้างทนายสืบหรอก เพราะสืบแล้วไมมีอะไร เก็บเงินไว้รักษาลูกดีกว่า แต่เราก็ลองปรึกษากับทนายอีกหลายๆ ท่าน ท่านก็แนะนำคล้ายๆ กัน ถ้าไม่มีทรัพย์สืบ ก็ต้องรอ อย่างน้อยเรามีโอกาสฟ้องใน 10 ปี ระหว่าง 10 ปี เราฟ้องล้มละลายเขาได้ ตอนนี้เรายังไม่ได้ฟ้องล้มละลายนะ เหลือประมาณ 3-4 ปี”
หวังจนเลิกหวัง ว่าจะได้ค่าเสียหายจากคนที่ไร้สำนึก!!
“จริงๆ เราไม่มีความหวังมาตั้งนานแล้ว เราหวังนิดๆ ว่า สักวันหนึ่ง เราอาจจะได้จากเขาบ้างก็ได้ ไม่มากก็น้อย หรือได้แค่ความสำนึกของเขาก็พอ เราก็ยังรู้สึกโอเคมากกว่า (ถาม-ถ้าเขาไม่แสดงอะไรเลย หรือสืบไม่ได้เลย?) ถ้าไม่ได้อะไรเลย ก็คือไม่ได้อะไร เราก็ไม่คิด ถ้าจะได้ คงได้มาตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องได้เยอะตามที่ศาลสั่งหรอก ได้แค่ความเห็นใจ ได้แค่แพมเพิสหรือนมต่อเดือน ก็ถือว่านั่นคือสิ่งที่เขาพยายามหาให้เราแล้ว แต่อย่างนี้เขาไม่ได้พยายามหาหรือพยายามอะไรให้เราเลย เลยมองว่า ไม่ต้องหวังที่จะได้ของคนแบบนี้หรอก”
เกือบ 6 ปีแล้ว ที่คุณแม่น้องการ์ตูนต้องเป็นเสาหลักหารายได้เลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง ไหนจะต้องดูแลลูกสาวที่พิการติดเตียง และยังต้องหาหมออย่างต่อเนื่อง ไหนจะต้องดูแลร้านสเต๊ก โชคดีมีคุณตาคุณยายช่วยดูแลหลาน ขณะที่คุณแม่น้องการ์ตูนต้องทำทุกทาง เพื่อให้ร้านอาหารมีรายได้เพียงพอมาหล่อเลี้ยงครอบครัวที่เหลืออยู่ 4 ชีวิต รวมถึงค่าใช้จ่ายและค่ารักษาลูกสาวที่ตกเดือนละ 5 หมื่นบาท
ร้านสเต๊กอยู่ยาก ต้องเพิ่มทางเลือก
“ตอนแรกขายสเต๊กและน้ำพริก และมาเปิดร้านขายข้าวแกงเพิ่ม เพราะร้านสเต๊กมันอยู่ไม่ได้ รายได้เริ่มน้อยลง เราเลยปรับมาขายข้าวแกง(ร้านข้าวหอมแกงร้อน) อยู่ถัดไปจากร้านสเต๊กอีก 2 ห้อง ร้านข้าวแกงช่วงกลางวันค่อนข้างได้พนักงานและลูกค้าประจำค่อนข้างเยอะ …ตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึงบ่ายสามเลย ก็เต็มทุกวัน ถ้าโต๊ะไม่พอนั่งร้านข้าวแกง ก็มานั่งร้านสเต๊กได้ เพราะไม่ได้ไกลกันมาก ลูกค้าก็รู้ ก็สั่งอาหาร เราก็ตักแกงก็ยกไปให้ที่ร้านโน้น”
ร้านข้าวแกงกำลังไปได้ดี เจอพิษโควิด-19 ระบาด ต้องปิดตัวชั่วคราว!!
“แต่พอมาถึงสถานการณ์ที่มีเรื่องโควิด ร้านข้าวแกงก็หยุดขายไปเลย ประมาณเกือบ 2 เดือนแล้ว เพราะค่อนข้างลำบากในการค้าขาย ร้านสเต๊กก็เหมือนกัน ขาย แต่ขายกลับบ้านอย่างเดียว เราเลยมาทำน้ำพริกออนไลน์ขายแทน แต่เดิมเราทำน้ำพริกขายอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้เราคิดว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่เป็นรายได้ให้ครอบครัวเราได้”
ตกใจมาก ผลจากโควิดระบาด บางวันขายได้จานเดียว!!
“ตกใจมาก เกิดมาไม่เคยได้วันละ 59 บาท อีกวันหนึ่ง 178 บาท ก่อนหน้านี้เคยขายได้เยอะสุด อยู่ประมาณ 1700 บาทบางวัน (ถาม-ถ้ายืดระยะยาวกว่านี้จะทำอย่างไร?) ตอนนี้เขาเริ่มผ่อนปรนมาบ้างนิดหน่อย ให้ลูกค้าทานในร้านได้ แต่ถามตามความเป็นจริง ถ้ามา 5 คน ให้นั่งโต๊ะละคน เป็นครอบครัว ก็อยากแนะนำให้เขาซื้อกลับบ้านมากกว่า เอาอะไรแน่นอนไม่ได้ตอนนี้ ดูวันต่อวันดีกว่า คิดอย่างนี้”
พิษโควิดระบาด ทำ “น้องการ์ตูน” ต้องเลื่อนผ่าตัดสะโพกที่เคลื่อนและหลุด
“จริงๆ น้องการ์ตูน ต้องผ่าตัดสะโพกวันที่ 19 พ.ค.แต่คุยกับคุณหมอขอเลื่อนกันไปก่อน จริงๆ น้องจะผ่าตัดตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่มีอาการแทรกซ้อนมาตลอด ก็เลยไม่ได้คิวผ่าตัดเสียที ได้คิวมา 3 ครั้ง นี่ครั้งที่ 4 เกิดเรื่องโควิดพอดี เลยเลื่อนไปเป็นสิ้นปีก่อน ให้สถานการณ์มันดีขึ้นก่อน (ถาม-ทำไมถึงต้องผ่า เพราะน้องโตขึ้น?) น้องโตขึ้น แล้วก่อนหน้านั้น น้องเหมือนสะโพกน้องเคลื่อน ตอนเคลื่อน หมอแนะนำว่า จริงๆ ไม่ต้องผ่าก็ได้ เพราะน้องยังคงเดินไม่ได้หรอก แต่พอน้องเริ่มโตขึ้นเร็วเกินวัย กลายเป็นว่าจากเคลื่อนมันหลุด พอหลุดปุ๊บ ตอนแรกเราไม่รู้ พอไปหาคุณหมอจับขาเขา เจอหมออีกท่านหนึ่งบอกว่า ไม่ได้แล้วนะ มันหลุด ต้องผ่า เพราะน้องเขาเจ็บมาก แต่เขาบอกเราไม่ได้ เราเข้าใจว่า เราจับขาแล้ว เขาชักออกคือ นึกว่าเขารู้สึก แต่จริงๆ ไม่ใช่ หมอบอกว่านั่นคืออาการเจ็บของเขา”
พิษโควิดระบาด ไม่เพียงส่งผลให้รายได้จากร้านอาหารลดลง แต่คุณแม่น้องการ์ตูนต้องอดใจไม่พบลูกนานเกือบ 2 เดือน เพราะคุณแม่ทำร้านอาหาร ต้องส่งอาหาร ต้องพบคนเยอะ จึงเกรงว่าตนเองอาจเป็นพาหะนำเชื้อไปสู่ลูกได้ เพราะน้องการ์ตูนไม่แข็งแรง ติดเชื้อต่างๆ ง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งปอดน้องก็แฟบไปข้างหนึ่งแล้ว
ชีวิตวันนี้ แม้ต้องเหนื่อยแค่ไหน ก็พร้อมสู้เพื่อลูก เพื่อครอบครัว
“แรงจูงใจสิ่งเดียวคือ ครอบครัว น้องการ์ตูน คุณตาคุณยาย เป็นสิ่งเดียวที่เรารู้สึกว่า เราจะทำได้ทุกอย่างเพื่อเขา เพื่อคนที่เรารัก จริงๆ น้องต้องเป็นเด็กที่เติบโตเหมือนคนปกติ แต่วันนี้เขาไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเด็กปกติทั่วไป เราเลยรู้สึกว่า เราเป็นแม่ เราทำอะไรให้เขาได้ ถ้าเราไม่เหนื่อยมากจนเกินความสามารถเรา เราก็อยากทำให้เขามากที่สุด เขาเป็นแรงจูงใจที่ดีที่สุดในครอบครัว ทั้งคุณตายาย ทั้งเราเลย”
หากท่านใดต้องการบริจาคของใช้ที่จำเป็นสำหรับน้องการ์ตูน ได้แก่ นมผงพีเดียชัวร์ รสวนิลา, แผ่นรองซับ, สายซักชั่นเบอร์ 12, แพมเพิสผู้ใหญ่แบบเทปกาว ไซส์ M, เดทตอล, น้ำเกลือล้างสายซักชั่น,ถุงมืออนามัยไซส์ S/M, สำลีก้อน, แอลกอฮอล์ล้างแผล สามารถส่งไปได้ที่ร้านสเต๊กแม่น้องการ์ตูน 164 ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ 10140 หรือหากท่านใดสนใจอุดหนุนน้ำพริกของคุณแม่น้องการ์ตูน สามารถสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊กร้านสเต๊กคุณแม่การ์ตูน หรือโทร. 02-871-4784
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
