รอยเตอร์ - ศาลเกาหลีใต้อนุมัติหมายจับ ลี มันฮี (Lee Man-hee) ผู้ก่อตั้งโบสถ์คริสต์ชินชอนจี (Shincheonji) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในแดนโสมวันนี้ (1 ส.ค.) ในความผิดฐานปกปิดข้อมูลสำคัญอันถือเป็นการขัดขวางกระบวนการควบคุมโรคและอื่นๆ
กิจกรรมของโบสถ์ชินชอนจีมีส่วนเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 5,200 คน หรือประมาณ 36% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดในเกาหลีใต้ หลังจากที่มีสาวกหญิงรายหนึ่งเป็น ‘ซูเปอร์สเปรดเดอร์’
อัยการระบุว่า ลี วัย 89 ปี สมคบคิดกับผู้นำลัทธิคนอื่นๆ ปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกโบสถ์และสถานที่พบปะของพวกเขาไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งแกะรอยเส้นทางการระบาดทราบเมื่อช่วงเดือน ก.พ.
ลี เคยออกมาพูดว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็น “การกระทำของมารร้าย” เพื่อขัดขวางการเติบโตของลัทธิชินชอนจีที่มีสาวกมากกว่า 200,000 คน
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า ลี ยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยยักยอกเงินทุนโบสถ์ราว 5,600 ล้านวอน (ประมาณ 146 ล้านบาท) ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ 5,000 ล้านวอนซึ่งว่ากันว่าถูกนำไปสร้างบ้านพักตากอากาศส่วนตัว
โบสถ์ชินชอนจีออกมาแถลงชี้แจงว่า แม้ ลี จะรู้สึกกังวลที่รัฐบาลร้องขอข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกโบสถ์ แต่ไม่เคยพยายามปกปิดอะไรเลย
ตำรวจได้เข้าควบคุมตัว ลี หลังจากที่ศาลเขตซูวอน (Suwon) ทางตอนใต้ของกรุงโซลได้อนุมัติหมายจับ
หลายคนออกมาวิจารณ์ว่า กิจกรรมของโบสถ์ชินชอนจีซึ่งมีลักษณะปิดบังซ่อนเร้น และมีสาวกเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว