xs
xsm
sm
md
lg

ตร.วัดพระยาไกรคุมตัวฝากขัง 4 โจ๋ เอี่ยวค้าเคนมผง ทำพีอาร์สาวดับ 1 เจ็บสาหัส 1

เผยแพร่:


ายวิรัฐ หรือป่อง กาเผือก อายุ 26 ปี แฟ้มภาพ
ตร.วัดพระยาไกรคุมตัว 4 โจ๋ ผู้ต้องหาเอี่ยวค้าเคนมผง ทำพีอาร์ร้านเหล้าดับ 1 เจ็บสาหัส 1 รายฝากขัง ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง

วันนี้ (14 ม.ค.) พนักงานสอบสวนสน.วัดพระยาไกร คุมตัว นายวิรัฐ หรือป๋อง กาเผือก อายุ 26 ปี,นายวัชระ หรือโบ้ เชียงฉิน อายุ 22 ปี
,นายนพเก้า หรือตูมตาม อบถม อายุ 26 ปี
และนายชาตรี หรือโจ ศรีสมบัติ อายุ 18 ปี มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 14- 25 ม.ค. เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร ผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดให้โทษของกลาง

คำร้องพฤติการณ์ระบุว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุผู้เสียชีวิตที่บ้านแห่งหนึ่งในซอยจันทน์ 31 แขวงทุ่งวัดตอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร จึงไปตรวจสอบพบศพ น.ส.สุทธิณี เมตตาจิตต์ หรือมายด์ อายุ 24 ปี อาชีพเป็นพีอาร์ร้านเหล้าย่านพระราม 3 และมีผู้ที่ได้รับอันตรายอีกคนหนึ่งคือ น.ส.จันทมาศ เมืองวัฒนะ หรือพลอย อายุ 24 ปี เพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิต จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเลิดสิน ทั้งนี้ในสถานที่เกิดเหตุบริเวณห้องนอนในบ้านที่เกิดเหตุมีของกลาง คือ วัตถุผงสีขาวบรรจุอยู่ในธนบัตรที่พับไว้1 ใบ ,ถุงพลาสติกใส ภายในมีคราบผงสีขาวติดอยู่จำนวน 2 ถุง หลอดพลาสติก 2 อัน ,วัตถุสามเหลี่ยมแบนสีเหลือง 1 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกใสจึงทำการตรวจยึดเป็นของกลางและส่งไปตรวจสอบปรากฏว่าเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 งจึงมีเหตุน่าเชื่อว่าที่ น.ส.สุทธิณี เสียชีวิตน่าจะมาจากเหตุที่มีการเสพยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลต่อจนกระทั่งทราบว่ายาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวนั้น นายวิรัฐ หรือป๋อง ผู้ต้องหาที่ 1 และนายวัชระหรือโบ้ ผู้ต้องหาที่ 2 ไปซื้อมาจากนายนพเก้า หรือตูมตาม ผู้ต้องหาที่ 3 และนายชาตรีหรือโจ ผู้ต้องหาที่ 4 ที่หน้าร้านสะดวกซื้อปากซอยโรงสี (พระราม 3 ซอย 64 ) โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจากบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวจับภาพผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ประกอบกับมีพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุและไม่ได้ร่วมเสพด้วยให้การยืนยัน จึงได้ขอศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด ตามหมายจับที่จ.10,11,12,13/2564 ลงวันที่ 12 ม.ค.2564

โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท2 (คีตามีน)โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 และฐานความผิดร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (3,4 เมทิลไดออกไซต์แอมเฟตามีน และเฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522

ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.20 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.สายไหม นำตัวนายรัตนโชค หรือจิ้ม กีรติโชติ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหามียาเคตามีนไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย มายื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรก 12 วัน 

พฤติการณ์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีนายเอ็ม ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริงลักลอบขายยาเคตามีนอยู่ที่ชุมชนวัดเกาะเขตสายไหม และสายลับสามารถติดต่อสั่งซื้อได้จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นได้วางแผนจับกุมโดยให้สายลับโทรศัพท์ติดต่อสั่งซื้อ แต่นายเอ็ม แจ้งกลับมาว่าตอนนี้ยาเคตามีนที่ตนเองไม่มีให้โทรศัพท์ไปหา“ น. ส. ไอซ์”จากนั้นนายเอ็ม ได้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ มาให้กับสายลับโดยแจ้งว่าให้โทรศัพท์หา“ นายจิ้ม”ซึ่ง“ นายจิ้ม” เป็นคนเก็บยาเคตามีนไว้ ตำรวจชุดจับกุมจึงให้สายลับโทรศัพท์ไปหา“ นายจิ้ม” เพื่อให้“ นายจิ้ม” นำยาเคตามีนมาส่งให้และได้แจ้งสถานที่ส่งมอบยาเคตามีน ที่หมู่บ้านไลโอ ถ.วัดเกาะ เขตสายไหม จากนั้นได้ไปรอที่จุดนัดส่งมอบยาเค

กระทั่งวันเวลาเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านไลโอเมื่อสายลับเห็นจึงแจ้งว่าคือ“ นายจิ้ม” ที่เป็นคนนำยาเคตามีนมาส่งขายให้ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้นผู้ต้องหาได้วิ่งหนี แต่ถูกคุมตัวไว้ได้ ตรวจค้นพบยาเคตามีน บรรจุในถุงพลาสติกจำนวน 29 ถุง น้ำหนักสุทธิ 20.3 กรัม (ของกลางรายการที่ 1) และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ VIVO สีน้ำเงินพร้อมซิมการ์ดหมายเลข 092-091-2530 จำนวน 1 เครื่อง (ของกลางรายการที่ 2) อยู่ในกำมือข้างซ้ายของผู้ต้องหาเมื่อสอบถามผู้ต้องหารับว่ายาเคตามีนที่ตรวจพบนั้นผู้ต้องหากำลังจะนำมาส่งขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อไว้โดย“ น. ส. ไอซ์” ให้ผู้ต้องหานำมาเก็บไว้และเมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อก็จะนำไปส่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามว่ามียาเสพติดเก็บซุกซ่อนอีกหรือไม่ผู้ต้องหาให้การรับว่าพักอาศัยอยู่ที่ห้องหมายเลข 3/4 ชั้นที่ 3 อพาร์ทเม้นท์โพธิ์ทอง เขตสายไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงไปทำการตรวจค้นพบถุงพลาสติกใสแบบปากถุงเลื่อนเปิด-กดปิดจำนวน 1 แพ็ค และเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลจำนวน 1 เครื่อง ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ไม่ปรากฎว่ามีญาติมายื่นประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น