xs
xsm
sm
md
lg

ภูเก็ตรอไม่ได้อีกแล้ว! วัคซีนความหวังสุดท้าย เอกชนผนึกกำลังร่างแผนฉีด ขอความชัดเจนรัฐบาล 4 เรื่อง ก่อนเปิดรับต่างชาติ 1 ต.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ศูนย์ข่าวภูเก็ต – เอกชนภูเก็ตผนึกกำลังร่างแผนฉีดวัคซีน เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ตุลาคม #phuketfirstoctober ขอความชัดเจน 4 เรื่องจากรัฐบาล ฉีควัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัว การจัดสรรวัคซีน เอกชนพร้อมจัดซื้อฉีดเองให้ครอบคลุม 70% ของประกรภูเก็ต รอไม่ได้อีกแล้ว เศรษฐกิจดิ่งเหวลงทุกวัน ความยากจนกำลังมาเยือน วัคซีนจึงเป็นความหวังสุดท้ายของท่องเที่ยวภูเก็ต


ภาคเอกชนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง สมาคมโรงแรมหาดกะตะกะรน สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต สมาคมมัคคุเทศก์อันดามัน สมาคมสปาเพื่อสุขภาพจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมที่พักบูติคจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดภูเก็ต บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด ผู้บริหารเครือลากูน่า รีสอร์ท ภูเก็ต และ ผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติในจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมหารือเพื่อกำหนดแนวทางระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเปิดธุรกิจท่องเที่ยวอีกครั้ง ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมอินดิโก้ ภูเก็ต ป่าตอง รีสอร์ท

โดยภาคเอกชนได้ข้อสรุปร่วมกันว่า จังหวัดภูเก็ตจะเปิดธุรกิจท่องเที่ยวต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 นี้ #phuketfirstoctober โดยรับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วเท่านั้น และคนภูเก็ตเองจะต้องได้รับวัคซีนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของประชากรและพนักงานในภาคการท่องเที่ยว ภายในเดือนกันยายน 2564 โดยภาคเอกชนพร้อมที่จะจัดซื้อวัคซีนเอง แต่ทั้งนี้จะต้องความชัดเจนจากรัฐบาล ใน 4 เรื่อง

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เป็นความจำเป็นที่ภูเก็ตต้องได้รับการออกแบบให้ทันต่อบริบทการเปลี่ยนแปลง นอกจากเพื่อความอยู่รอดของพี่น้องชาวภูเก็ตที่เพิ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลักแล้ว ยังมีความจำเป็นต้องคำนึงถึงกรอบเวลาของฤดูกาลท่องเที่ยว และภาคเอกชนเห็นพ้องต้องกันว่า วันที่ 1 ตุลาคม 2564 จะเป็นวันที่ภูเก็ตจำเป็นต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนโดยไม่ต้องเข้ารับการกักตัว และหากพลาดโอกาสนี้ไป นอกจากความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะสูญเสียมหาศาลแล้ว ปัญหาทางสังคมจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของรัฐบาล เราจะทำทุกอย่างให้พี่น้องชาวท่องเที่ยวภูเก็ตกลับมาอีกครั้งให้ได้ใน 1 ตุลาคม ปีนี้”

“วันนี้พี่น้องชาวท่องเที่ยวภูเก็ตกำลังสิ้นหวัง มองเข้าไปในแววตา เราไม่เห็นประกายไฟแห่งการต่อสู้อีกแล้ว พวกเรากำลังหมดแรง และสิ่งที่เรากำลังพยายามทำครั้งนี้ เป็นความพยายามครั้งสุดท้าย ที่เรารวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่เหลือ และหวังว่ารัฐบาลจะเข้าใจและสนับสนุน” นายภูมิกิตติ์ กล่าวและว่า

จากแนวคิดเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 หรือ #phuketfirstoctober โดยไม่ต้องกักตัวนั้น ทางทีมภูเก็ตได้ประเมินความเป็นไปได้จากปัจจัย 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ความชัดเจนของรัฐบาลในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว จะต้องได้กักตัวหรือไม่ และหากไม่ต้องกักตัวจะต้องได้รับวัคซีนบริษัทใด เพราะรัฐบาลไทยในวันนี้รับรองเพียง 2 บริษัท คือ Sinovac และ AstraZenaga หากนักท่องเที่ยวได้รับวัคซีนจากบริษัทอื่น เช่น Modena, Novavax หรือ Pfizer จะได้รับการพิจารณาอย่างไร มีเงื่อนไขอย่างไร 2. ความชัดเจนของรัฐบาลเรื่องการจัดสรรวัคซีนให้กับชาวภูเก็ต และผู้ที่ทำงานในจังหวัดภูเก็ตว่า ใครมีสิทธิได้รับการฉีดวัคซีน ด้วยเงื่อนไขใด 3. ความชัดเจนของรัฐบาลในการอนุมัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้เงินสะสมของแต่ละแห่งจัดซื้อวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เป็นกรณีพิเศษ และเป็นไปตามช่วงเวลาในยุทธศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ต 4. ความชัดเจนของรัฐบาลในการขึ้นทะเบียนวัคซีนจากผู้ผลิตรายอื่นที่มีเอกสารการวิจัยรองรับ และใช้กันในนานาประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการใช้วัคซีนที่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ และ 5. ความชัดเจนของรัฐบาลในการอนุญาตให้เอกชนสามารถจัดซื้อวัคซีนให้พนักงานของแต่ละธุรกิจได้ตามกำลังและความสามารถของเอกชน โดยสั่งซื้อวัคซีนตรงจากโรงพยาบาลเอกชน และโดยงบประมาณของภาคเอกชนเอง

นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวต่อว่า เป้าหมายของ #phuketfirstoctober คือ การระดมสรรพกำลังในการสนับสนุนให้คนภูเก็ต และพนักงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับวัคซีนเป็นจำนวนอย่างน้อย 70% ของประชากร โดยไม่นับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มภายใน 1 กันยายน 2564 เพื่อสามารถสร้างภูมิต้านทานและเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป และในส่วนของเอกชนภูเก็ตได้เจรจาขอซื้อวัคซีนจากเครือโรงพยาบาลเอกชนไปบ้างแล้ว และกำลังอยู่ในกระบวนการสรุปจำนวนและราคา หากรัฐบาลเห็นชอบแนวทางที่ภาคเอกชนเสนอ เราน่าจะเริ่มฉีดเข็มแรกของ Sinovac ได้ก่อนสงกรานต์ และทยอยฉีดในส่วนภาคเอกชนให้ครบตามแผนที่วางไว้ เอกชนภูเก็ตตกลงกันแล้วว่า พนักงานในที่ทำงานโดยเฉพาะในส่วนภาคท่องเที่ยวจะจ่ายเงินค่าวัคซีนกันเอง เพื่ออนาคตเราเอง เราลงทุนเอง


“ภูเก็ตวันนี้สวยมาก แต่ความสวยมากมีราคาที่ต้องจ่ายเป็นความตกต่ำของเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ พี่น้องภูเก็ตแบกวิกฤตไม่ไหวแล้ว วันนี้เป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์แห่งความหวังแล้วเท่านั้น และทางออกของวิกฤตนี้เหลือตั๋วใบสุดท้ายใบเดียว คือวัคซีน” นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวทิ้งท้าย


ด้าน นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สิ่งที่ภาคเอกชนในภูเก็ตขอจากรัฐบาลวันนี้ ไม่ใช่เรื่องงบประมาณ แต่เป็นการขอเพียงสองเรื่อง คือ ขอกำลังใจให้เดินต่อได้ และ ขอการสนับสนุนเชิงนโยบาย ที่จะทำให้ภูเก็ตกลับมาฟื้นได้อีกครั้งด้วยตัวเราเอง ที่ผ่านมาภูเก็ตร้องขอการสนับสนุนไปพอสมควร มีที่ได้น้อยกว่าที่ไม่ได้ ด้วยเหตุผลที่รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจบอกว่า ภูเก็ตไม่ใช่ประเทศไทย จะให้ได้อย่างไร และหวังว่าจะไม่ได้ยินประโยคนั้นจากการเสนอทางออกในครั้งนี้อีก”

นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เสริมว่า “สิ่งที่ขอจากรัฐบาลในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องงบประมาณ แต่เป็นการขอเพียงสองเรื่อง ขอกำลังใจให้เดินต่อได้ และขอการสนับสนุนเชิงนโยบาย ที่จะทำให้ภูเก็ตกลับมาฟื้นได้อีกครั้ง ด้วยตัวเราเอง สิ่งที่ทางภูเก็ตขอจากนี้ต่อรัฐบาล คือ คำตอบที่สามารถช่วยให้ภูเก็ตกลับมาอีกครั้งด้วยคนภูเก็ตเอง แต่แน่นอนที่ว่า คำตอบสุดท้ายอยู่ที่ท่านนายกรัฐมนตรีว่าจะพิจารณาอย่างไร ภูเก็ตไม่ได้ขอเงินอีกต่อไปแล้ว ขอแค่กำลังใจ ความเข้าใจ และการอนุมัติให้เราเดินตามแผน ที่เหลือทางเราจะจัดการเอง

“เมื่อภูเก็ตฟื้น ประเทศไทยก็ฟื้น ผมมั่นใจแบบนั้น รัฐบาลให้เราเดินตามแผนได้เมื่อไหร่ นักท่องเที่ยวกลับมา รัฐบาลก็จะได้ภาษีเพิ่มขึ้น เอาไปช่วยพื้นที่อื่นได้มากขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้ภูเก็ตแย่.เราจะแย่ไปกันหมด หากรัฐบาลอนุมัติกรอบยุทธศาสตร์ได้จริง เราน่าจะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 40-50% จากจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2562 และนั่นจะเป็นจุดตั้งต้นที่ทำให้ภูเก็ตเดินต่อได้อีกครั้ง” นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าว


ด้าน นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ลูกค้าหลักในจังหวัดภูเก็ต คือ ชาวยุโรป ที่วันนี้เริ่มฉีดวัคซีนแล้ว โดยรูปแบบการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจะมาพำนัก 7-14 วัน และเริ่มออกเดินทางช่วงไตรมาสที่ 4 คือ เริ่มเดือนตุลาคม ดังนั้นหากจังหวัดภูเก็ตมีแผนการรองรับการเดินทางที่ชัดเจนและเป็นไปได้ และสื่อสารออกไปภายในเดือนเมษายนปีนี้ ก็จะทำให้เป็นโอกาสของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูเก็ตอีกครั้งที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นได้ทัน

“หากรัฐบาลยังอ้ำอึ้ง ยังคิดในบริบทเดิม ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ทัน เตรียมใจไว้เลยว่ามีปัญหาทางสังคมตามมาติดๆ แน่ หลังจากนี้เราจะเห็นกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามากวาดซื้อโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมากขึ้น และอาจจะหมดเกาะก็เป็นไปได้ ถึงวันนั้นรัฐบาลจะมารับผิดชอบอะไรได้ สิ่งที่เราขอวันนี้ย้ำว่า ไม่ได้ขอสนับสนุนอะไร นอกจากการอนุมัติเชิงนโยบาย” นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น