xs
xsm
sm
md
lg

เพราะ คุณคนเดียวทำ 4 ชีวิตเดือดร้อน ได้แค่บอกลูกว่า “พ่อยังไม่ตื่น พ่อนอนขี้เซา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เพราะคุณคนเดียวทำ 4 ชีวิตพ่อ แม่ ลูกเดือดร้อน เสาหลักเจ็บหนักยังไม่รู้ชะตากรรม ครอบครัวขาดรายได้ ลูกร้องหาพ่อทุกวัน ยังไม่รู้จะบอกลูกอย่างไรว่าพ่อถูกยิง ได้แต่บอกว่า “พ่อยังไม่ตื่น พ่อนอนขี้เซา”

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศสิบตำรวจโท สังกัดตำรวจภูธรภาค 8 เมาจนขาดสติ ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า ก่อนยิงใส่คนขายก๋วยเตี๋ยวได้รับบาดเจ็บขณะกำลังเดินไปเก็บจานในซอยบางลา หาดป่าตอง จนล้มคว่ำหมดทางสู้ แต่ตำรวจยศสิบโทยังไม่สะใจ เดินออกไปหาชายขายก๋วยเตี๋ยวที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นถนนด้วยความเจ็บปวด พร้อมแสดงท่าเกรี้ยวกราด ใช้อาวุธปืนในมือยิงเข้าใส่อีกนัดแต่โชคดีไม่โดน

หลังจากนั้น เดินกลับไปที่ฟุตปาธ ในขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บล้มลงกับพื้น และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อตำรวจรายดังกล่าวเดินมาหาร่างของชายขายก๋วยเตี๋ยวที่นอนหมดสติอยู่ และใช้มือจิกหัวขึ้นให้นั่งก่อนจะใช้มืออีกข้างตบเข้าที่ศีรษะอย่างแรง และใช้เท้าถีบเข้าไปด้านหลังจนร่างล้มคว่ำไปกับพื้น จนถึงขณะนี้พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวยังคงต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โอกาสรอดแค่ 50%

เหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนกับฟ้าผ่าใส่ครอบครัว ของ นายอรุณ ทองพลับ อายุ 26 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง และพ่อค้าเกี๋ยวเตี๋ยว ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเมาไร้สติยิงทันที ทำให้ 4 ชีวิตพ่อ แม่ และลูกวัย 4 ขวบ วัย 4 เดือน เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากเสาหลักของครอบครัวต้องนอนอยู่ในห้องไอซียูด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส กระสุนที่ลั่นออกมาเจาะเข้าไปที่ชายโครงซ้าย ทำให้ปอดฉีก กระสุนทะลุกระดูกสันหลังแตก และยังทะลุไปยังปอดด้านขวาทำฉีกขาดเลือดออกไม่หยุด เสี่ยงต่อภาวะหัวใจหยุดเต้นตลอดเวลา

น.ส.กุลธิตา ชะนะนาน ภรรยาของนายอรุณ ทองพลับ เหยื่อกระสุนของ ตร.กร่าง บอกว่า ปกติครอบครัวอยู่กัน 4 คน ตัวเอง สามี ลูกสาววัย 4 ขวบ และลูกชายวัย 4 เดือน สามีเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว เนื่องจากตนต้องเลี้ยงลูกทั้ง 2 คน โดยอาชีพหลักขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งก่อนโควิด-19 ระบาดก็พอจะมีรายได้ดี แต่หลังจากโควิด-19 ระบาดรายได้ที่เข้ามาในครอบครัวก็ลดน้อยลง สามีต้องทำงานหนักขึ้น โดยตระเวนขับรถรับจ้างไปถึงเวลา 7.00 น. และทุกวันจะต้องทำหน้าที่ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน ก่อนจะกลับมานอนพักผ่อน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น สามีออกไปขายก๋วยเตี๋ยวแทนแม่ของตนที่มีอาการเจ็บตา และทำมาเป็นวันที่ 3 แล้ว ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นในขณะที่สามีตนกำลังไปเก็บจานรอบสุดท้ายเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน เพื่อมารับลูกสาวไปส่งที่โรงเรียนตามปกติ เหมือฝ้าผ่าลงมาใส่ครอบครัวตน หัวหน้าครอบครัวที่เป็นเสาหลักของบ้านถูกยิงอาหารสาหัสเป็นตายเท่ากัน ตนต้องทิ้งลูก 2 คนไว้กับแม่เพื่อมาดูอาการของสามีที่ยังอยู่ในห้องไอซียู

“ขณะที่ลูกสาววัย 4 ขวบ ร้องหาพ่อทุกวัน เพราะที่ผ่านมา พ่อลูกจะสนิทกันมากและอยู่ด้วยกันตลอด เช้าเย็นจะต้องไปรับไปส่งที่โรงเรียน เวลาลูกร้องหาพ่อ ตนยังไม่รู้จะบอกลูกอย่างไรว่าพ่อถูกยิง ได้แต่บอกลูกว่าพ่อยังไม่ตื่น พ่อนอนขี้เซา ซึ่งก็ได้แต่บอกลูกไปวันๆ ว่าพ่อนอนขี้เซา แม่ต้องไปธุระ ให้อยู่กับยายไปก่อน”

น.ส.กุลธิตา ยังกล่าวต่อไปว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สามีถูกยิง ตนรู้สึกกลัว เนื่องจากคนยิงเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม คนที่เห็นเหตุการณ์ก็ไม่กล้าที่จะออกมาเป็นพยาน ซึ่งตนเข้าใจเพราะคนที่ก่อเหตุเป็นถึงตำรวจ จึงอยากให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับตนและครอบครัวด้วย ขอให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่ก่อเหตุจนถึงที่สุด

ส่วนครอบครัวตนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ตนยังไม่รู้ ถ้าโชคดีสามีหายเป็นปกติเราก็ดำรงชีวิตกันไปตามปกติ แต่ถ้าสามีตนยังคงต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นตนก็ไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไร หลังจากที่สามีตนถูกยิงรายได้ที่สามีหาเข้าบ้านก็หายไปทั้งหมด ค่าใช้จ่ายยังต้องมีเกิดขึ้นทุกวัน แต่ตนก็พร้อมที่จะต่อสู้ต่อไป เพราะเรามีครอบครัวที่ต้องดูแล ส่วนคนที่ทำกับสามีของตนก็ให้รับกรรมต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น