xs
xsm
sm
md
lg

ขึ้นสมอง! “ธนาธร” ฟ้อง “ดร.อานนท์-บุญเกื้อ” หมิ่นประมาท เรียกเงิน 24,062,475 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (แฟ้มภาพ)
“ธนาธร” ลุยฟ้อง “อานนท์” อาจารย์นิด้า อ้างโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท โยงคดีรุกป่าสงวน เรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาทและฟ้อง “บุญเกื้อ” ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยภักดี เรียกเงิน 3 ล้านบาท กล่าวหาว่า แม่ปลูกฝังให้ล้มล้างสถาบัน ด้าน “บุญเกื้อ” แจงโพสต์แซวการเมืองขำๆ เห็นอย่างไร ก็โพสต์อย่างนั้น ไม่ได้ชี้นำสังคม

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อายุ 42 ปี อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นโจทก์ฟ้อง นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อายุ 43 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 เรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท คดีนี้โจทก์ฟ้องระบุว่า จำเลยเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรการวิเคราะห์ธุรกิจและวิทยาการข้อมูลคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) มีตำแหน่งทางวิชาการเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ซึ่งเป็นผู้เปิดใช้บัญชีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “Arnond Sakworawich” (หรืออานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์) มีผู้ติดตามไม่น้อยกว่า 74,000 คน

นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มี.ค.เวลาใดไม่ปรากฏชัด นายอานนท์ จำเลยได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ว่า “รู้ว่าเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ลงนามรับรู้ แต่ก็ยังซื้อขายมาเป็นของตนเอง นี่จงใจทำผิดกฎหมายโดยเจตนาเลย คดีนี้ควรต้องเข้าคุกนะครับ ทำผิดโดยเจตนาตั้งใจโกงที่แผ่นดิน มาเป็นสมบัติส่วนตัว ถือเป็นการโกงชาติ” ซึ่งเป็นข้อความเท็จ บุคคลทั่วไปที่ได้เห็นได้อ่านข้อความทั้งหมดประกอบกันย่อมเข้าใจได้ว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี กระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง คดโกงเอาที่ดินที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติมาเป็นของตนเองโดยทุจริต มีนิสัยเลวทราม ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วโจทก์ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย การโพสต์ข้อความดังกล่าวของจำเลยลงในบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือเรียกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะบนโลกออนไลน์ และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการใส่ความโจทก์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จต่อบุคคลที่สามและประชาชน ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติยศทางทำมาหาได้ ฐานะทางสังคมและครอบครัว เนื่องจากโจทก์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจ อันเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ จึงขอใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งเป็นเงินจำนวน 24,062,475 บาท และให้ลบหรือหยุดเผยแพร์โพสต์หรือประกาศข้อความอันเป็นเท็จที่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์กับให้ลงประกาศโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์และหรือเฟซบุ๊กของจำเลย เป็นเวลาติดต่อกัน 7 วัน เหตุคดีนี้เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรไทย

ทั้งนี้ ศาลรับไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.077/2564 เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ว่าจะประทับรับฟ้องไว้พิจารณาและพิพากษาหรือไม่

เป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวเลขจำนวนเงินที่นายธนาธร ฟ้องเรียกจากนายอานนท์ เป็นค่าเสียหายนั้น สอดคล้องกับวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเป็นวันที่กลุ่มบุคคลในนามคณะราษฎรยึดอำนาจจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

นอกจากนี้แล้ว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังได้ยื่นฟ้อง นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว อายุ 53 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยภักดี เป็นจำเลย อีกสำนวนคดี ในความผิดฐานหมิ่นประมาทและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 เรียกค่าเสียหายจำนวน 3 ล้านบาท

นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว อายุ 53 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยภักดี
กรณีเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บุญเกื้อ ปุสสเทโว” โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ลักษณะเป็นบทสนทนาระหว่างมารดากับโจทก์ ทำนองว่า โจทก์ได้รับการปลูกฝังให้ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ซึ่งความจริงโจทก์ไม่เคยมีความคิดและพฤติการณ์ดังกล่าวเลย นอกจากนี้ จำเลยยังได้ตัดต่อภาพของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาโจทก์ แขวนป้ายที่บริเวณคอว่า “เจ้าของป่าสงวนแห่งชาติ” ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการใส่ความโจทก์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ โดยการโฆษณาและแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือเรียกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นพื้นที่สาธารณะบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เมื่อจำเลยมีเจตนาใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณา จงใจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติยศ อาชีพการงาน ทางทำมาหาได้ ฐานะทางสังคม ทำให้โจทก์เสื่อมเสียความน่าเชื่อถือและเสื่อมความนิยมศรัทธาในแวดวงการเมือง จึงขอใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียทายทางแพ่ง จำนวน 3 ล้านบาทเหตุคดีนี้เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรไทย ขอให้ศาลสั่งและบังคับจำเลยให้ลบหรือหยุดเผยแพร์โพสต์หรือประกาศข้อความอันเป็นเท็จในเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของจำเลยกับให้ลงประกาศโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 4 ฉบับ เว็บไซต์หรือเฟซบุ๊กของจำเลย เป็นเวลาติดต่อกัน 7 วัน ทั้งนี้ ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.868/2564 เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ว่าจะประทับรับฟ้องคดีหรือไม่

ด้าน นายบุญเกื้อ เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกกังวลเพราะเป็นการโพสต์แซวการเมือง ลักษณะขำๆ ตามความรู้สึกของตนเอง เพื่อไม่ให้ไปเครียดกับการเมือง แต่ถ้าคุณธนาธรติดใจ หรือได้รับความเสียหาย ก็เป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมาดำเนินการเกี่ยวกับพรรคการเมืองอีกครั้ง “ผมก็ไม่กังวลเพราะเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตอนนั้นยังไม่ได้ตั้งพรรคการเมือง จึงไม่ต้องระมัดระวังมาก ก็เป็นลักษณะความคิดส่วนตัวที่ว่าเราเห็นเรื่องอะไร เห็นข่าวอะไรก็นำมาเปรียบเปรย เอามาแซวลักษณะขำๆ แต่ถ้ามองเรื่องความรับผิดชอบทางการเมืองอย่างตอนนี้ ตนก็จะไม่ค่อยทำแล้ว เพราะว่าเราระมัดระวังมากขึ้น”

นายบุญเกื้อ กล่าวอีกว่า จะต้องปรึกษาทนายความเพื่อดูว่าฟ้องเรื่องอะไร ตนจะไม่ปฏิเสธเรื่องการโพสต์ หรือการกระทำของเรา เพียงแต่ดูเหตุผลว่าเป็นอย่างไร เมื่อมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่คุณธนาธรและครอบครัวทำ กับสิ่งที่คนทั่วไปเห็นอะไร เขาก็ต้องรู้สึกอย่างนั้น ตนมองว่า เราอย่าไปปฏิเสธดีกว่า ว่าในเมื่อคุณทำอย่างนี้ คนก็ต้องมองอย่างนั้น คุณทำอย่างนั้น คนจะต้องคิดอย่างนี้ เช่น เรื่องจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือมีเรื่องโรคระบาดอะไร ก็พูดเกี่ยวกับสถาบันฯใช่หรือไม่ ถึงแม้จะใช้คำพูด หรือโวหารอะไรตาม แต่คนทั่วไปก็สามารถคิดได้อยู่แล้ว ตนไม่ได้ใหญ่โต มีชื่อเสียง ถึงขนาดที่จะไปชี้นำสังคมอะไร
กำลังโหลดความคิดเห็น