พระนครศรีอยุธยา - อยุธยาเดินหน้าฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยเรื้อรัง จำนวน 3,920 คน เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ตามแผนกระจายวัคซีนของ ศบค.
วันนี้ (22 เม.ย.) นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นพ.ธัชชัย บำรุงสงฆ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์/รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และ นพ.กิตติชัย ปักธงไชย รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ร่วมตรวจเยี่ยมทีมแพทย์ พยาบาลที่รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า และผู้ป่วยเรื้อรัง 8 โรค จำนวน 3,920 คน คนละ 2 โดส รวม 7,840 โดส ตามนโยบายและแผนการกระจายวัคซีนของ ศบค. เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่กลุ่มผู้ให้บริการทางการแพทย์ แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
ด้าน นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า แผนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า และผู้ป่วยเรื้อรัง 8 โรค จำนวน 3,920 คน รวมทั้งสิ้น 7,840 โดส คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันศุกร์ ส่วนรอบที่ฉีดไปล็อตแรกยังไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดที่มีอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีนไปแล้ว
โดยเป้าหมายการให้วัคซีน คือ กลุ่มเป้าหมายเป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยในการควบคุมโรค รวมประชากรกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยรุนแรงและเสียชีวิตหากติดเชื้อ ได้แก่ ประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี และผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยในเดือน พ.ค.นี้จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนเพื่อแจ้งความสมัครใจในรับการฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” และจะเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในส่วนของตลาดกลางเพื่อเกษตรกร (ตลาดกุ้ง) ล่าสุด ข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ ทั้งคนที่ทำงานภายในตลาด และจากการไปซื้อสินค้าภายในตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น เมื่อทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทราบเรื่อง จึงเข้าควบคุมจำกัดวงการแพร่ระบาดได้ด้วยความรวดเร็ว ทำให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง โดยผู้ประกอบการและลูกจ้าง จำนวน 380 คน ในตลาดผ่านการตรวจคัดกรองครบแล้ว และในวันที่ 23 เมษายน จะดำเนินการเชิงรุก (Active case finding) รอบ 2 อีกครั้ง และได้วางมาตรการให้ร้านค้าต่างๆ ได้แก่ 1.ผู้ประกอบการและพนักงาน เมื่อผ่านการตรวจแล้วจะออกใบรับรอง passport covid เพื่อแสดงความมั่นให้กับลูกค้า 2.ให้ร้านค้าปรับปรุงระบบการจัดโต๊ะที่นั่งภายในร้านต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 ต่อ 1 เมตร 3.เจ้าของตลาด ผู้รับผิดชอบดูแลตลาด ต้องปรับปรุงระบบน้ำเสีย และการจำกัดขยะ 4.ให้ทางร้านปรับปรุงระบบการระบายอากาศ และห้องแอร์ให้สามารถถ่ายเทได้สะดวก ให้เป็นไปตามข้อกำหนด และมาตรการของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
