xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.สั่งโอนคดีฆาตกรรมอำพรางศพพ่อค้าหอยเข้า สตช. พบผู้ก่อเหตุมีคดีเชื่อมโยงหลายพื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:





สุราษฎร์ธานี - ผบ.ตร.สั่งโอนสำนวนคดี ฆาตกรรมอำพรางศพทิ้งทะเล “เสี่ยโกศล” นักธุรกิจค้าหอยคนดังเข้าส่วนกลาง หลังพบกลุ่มผู้ก่อเหตุก่อคดีและความผิดเชื่อมโยงหลายพื้นที่ ออกหมายจับจำนวน 7 ผู้ต้องหา

จากกรณีนายโกศล เรืองดุก หรือตุ้ม อายุ 45 ปี นักธุรกิจค้าขายหอยและรับซื้ออาหารทะเลรายใหญ่ของ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี หายตัวไปหลังจากที่มีเพื่อนมารับจากที่บ้านพักไปดื่มสุรากับเพื่อนที่ศาลาข้างบ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งในเบื้องต้น เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม และมีการออกหมายจับกุมผู้ต้องหา 7 คนคือ 1.นายสุรัตน์ เศวตศิลป์ อายุ 43 ปี หัวหน้าแก๊ง 2.นายคำธร เศวตศิลป์ อายุ 32 ปี 3.นายสุรชัย คงสุข อายุ 39 ปี 4.นายเกรียงไกร แสงสง่า อายุ 34 ปี 5.นายเจริญ คะเชนทอง อายุ 56 ปี 6.นายจิรายุทธ เศวตศิลป์ อายุ 24 ปี 7.นายทิวากร เลื่องสุนทร อายุ 33 ปี 

ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควรและจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และจนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วก็ยังไม่พบศพ

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.สส.1) พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 8 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สาธิ พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมความคืบหน้าของคดีนานเกือบ 2 ชั่วโมง

ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ กล่าวว่า คดีนี้ ผบ.ตร.สั่งการให้พื้นที่โอนสำนวนคดีเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปแล้ว จึงมาแจ้งให้ตำรวจในพื้นที่ให้รับทราบเนื่องจากผู้ต้องหามีความเชื่อมโยงผูกพันในหลายพื้นที่ เช่น ในจังหวัดแพร่ เชียงราย และนครศรีธรรมราช โดยจังหวัดแพร่เกี่ยวพันกับคดีอาวุธปืนและวัตถุระเบิด จึงมาแจ้งต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ให้รับทราบ แต่ยังทำงานควบคู่กันไป

โดยสำนวนการสอบสวนในขณะนี้มีความก้าวหน้าไปมากและมีแนวโน้มว่าจะออกหมายจับเพิ่มแต่ยังระบุไม่ได้ในตอนนี้ และบางสิ่งบางอย่างไม่สามารถที่จะเปิดเผยต่อสื่อได้ ขอให้พนักงานสอบสวนทำงานอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งใช้พนักงานหลายส่วนเข้ามาร่วมเพราะเชื่อมโยงหลายพื้นที่ มีความผิดต่างกรรมต่างวาระ ส่วนการค้นหาศพยังดำเนินการค้นหาต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น