xs
xsm
sm
md
lg

พระอาจารย์สุธรรม แนะพระองค์ ผู้คิดล้มล้างบารมีจะวิบัติไปเอง “นักเรียนเลว” ชั่ว! เอาธงไพรด์คลุมอนุสาวรีย์ ร.6

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ภาพเมื่อครั้งในหลวงทรงนิมนต์พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ไปสนทนาธรรม ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ขอบคุณภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ในหลวงตรัส ตั้งใจช่วยประชาชนแต่ก็ยังโดนด่า ขณะพระอาจารย์สุธรรม แนะพระองค์ ผู้ที่คิดจะมาล้มล้างบารมีจะวิบัติไปเอง “ชั่วมั้ย?” เปิดชื่อ-ดูหน้า “กลุ่มนักเรียนเลว” บุกศธ. เอา “ธงไพรด์” คลุม “อนุสาวรีย์ ร.6” อ้างทวงสิทธิอคติทางเพศ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (19 มิ.ย.) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์คำบอกเล่า “พระอาจารย์สุธรรม” เมื่อครั้งในหลวงทรงนิมนต์พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ไปสนทนาธรรม ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน หัวเรื่อง

“ยังมีพสกนิกรที่รักและพร้อมที่จะปกป้องมหาบพิตรมากมายนับไม่ถ้วน!! ในหลวง ตรัส ตั้งใจช่วยประชาชนแต่ก็ยังโดนด่า ขณะพระอาจารย์สุธรรม แนะพระองค์ ผู้ที่คิดจะมาล้มล้างบารมีจะวิบัติไปเอง”
#ในหลวง #พระอาจารย์สุธรรม #ตั้งใจช่วยปชช.

โดยเนื้อหาจาก TRUTHFORYOU.CO ระบุว่า

“จากกรณีที่การเคลื่อนไหวโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด จนทำให้แกนนำคณะราษฎรที่คิดจะปฏิรูปสถาบันฯ โดยการจาบจ้วงเบื้องสูง ถูกดำเนินคดีไปแล้วหลายคน

ล่าสุด พระสุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองไผ่ จ.สกลนคร รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ได้พูดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งในหลวงทรงนิมนต์พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ไปสนทนาธรรม ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระอาจารย์สุธรรมท่านอธิบายการเจริญสติ เพื่อนำไปสู่สมาธิอย่างง่ายๆ...

“ผมก็ตั้งใจที่จะช่วยให้ประชาชนได้อยู่ดี กินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี ผมก็ตั้งใจทำแบบนี้ตลอดไป แต่เค้าก็ยังด่าว่า…ผมก็น้อยใจ…”

คือหนึ่งในเรื่องราวที่พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม เล่าให้ฟังเมื่อวานนี้ ในช่วงที่หลวงปู่สนทนาธรรมกับพระองค์

ฟังแล้วน้ำตาคลอ…สงสารพระองค์ หลวงปู่เมตตาเล่าวิสัชนาตอบพระองค์ไปว่า…

“มหาบพิตรจะเสียใจไปทำไมเล่า ใช่ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เคยเกิดขึ้น ในสมัยพระพุทธกาล พระพุทธองค์ก็ยังโดนเฉกเช่นเดียวกัน จนพระอานนท์กราบทูลพระองค์ให้ย้ายเมือง แต่พระพุทธองค์ทรงตอบพระอานนท์ไปว่า ถ้าเราต้องย้ายหนีคำด่าว่าคนเมืองนี้ไปอยู่อีกเมืองแล้วโดนด่าว่าอีก แล้วเมื่อไหร่เราจะได้หยุด…

มหาบพิตร คือ สมมติเทพ คือ ผู้มีบุญมากมายเหลือคณานับ และยังทรงเพียรสร้างบุญบารมีเพิ่มอย่างต่อเนื่องจวบจนชาตินี้ คนกลุ่มน้อยเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์นั้นไม่สามารถทำอะไรมหาบพิตรได้เลย เดี๋ยวพวกเค้าก็จะหยุดกันไปเองมหาบพิตรยังมีพสกนิกรที่รักและพร้อมที่จะปกป้องมหาบพิตรมากมายนับไม่ถ้วน กำลังใจจากเค้าเหล่านั้นมีคุณค่าต่อมหาบพิตรมากกว่า และมหาบพิตรก็เป็นกำลังใจสำคัญของเค้าเหล่านั้นเช่นกัน…”

ทั้งนี้ พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม ท่านบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมีฝ่ายค้าน มีซ้ายมีขวาบ้าง พระพุทธรูปนั่งยังมีคนมาตำหนิ แต่คนตำหนิมีนิดเดียว คนที่ไปในทางฝั่งร้ายมันนิดเดียว แต่คนที่จงรักภักดี คนที่เชิดชู หนักแน่นมั่นคงในสถาบันนั้นนับไม่ได้ เพราะฉะนั้นกลุ่มนิดเดียวไม่น่าหวั่นไหวหรอก เค้าอาจจะโง่ อาจจะยังไม่รู้สภาพความเป็นจริง หรือหลงตัวเองก็ได้ แต่ถ้าต่อไปเค้าอาจจะคลายความหลง อาจจะไปเห็นดีเห็นชอบเห็นงามในความถูกต้องก็ได้ ด้วยบารมีของในหลวง คิดดูว่าบารมีของในหลวงธรรมดามั้ย พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า สมมติเทพ ถ้าไม่มีบารมี มาถึงขนาดชั้นเทพเทวดา จะมาเป็น 1 ใน 60 ล้านเหรอ 1 ใน 60 ล้านเนี่ย สร้างบารมีมาไม่ธรรมดาหรอก

ก็เลยบอกในหลวงท่านว่า มหาบพิตร, มหาบพิตรสร้างบารมีมามากมายก่ายกอง จึงมาถึงจุดนี้ได้ ซึ่งในทางพุทธศาสนาเรา พระพุทธเจ้าท่านก็เรียกว่า สมมติเทพ เพราะฉะนั้นบารมีมหาบพิตรที่สร้างมาแล้ว ปัจจุบันที่มหาบพิตรใส่ใจ สนใจในการประพฤติปฏิบัติธรรม มันเป็นบุญ เป็นบารมีที่สวมกับบารมีเก่าขึ้นมาอีก ผู้ที่คิดจะมาล้มล้างบารมีอันนี้ เขาสร้างบารมีมาขนาดไหน เหนือบารมีอันนี้ไหม ถ้าไม่เหนือมันจะย้อนกลับไปทำความวิบัติให้เกิดขึ้น ก็เหมือนกับลองดูสิใครมาเขวี้ยงฟุตบอลใส่ผนังดูสิเป็นอย่างไร เขวี้ยงไปแรงมันก็ย้อนกลับมาแรง อันนี้ก็เหมือนกัน มันปฏิเสธไม่ได้หรอกเรื่องกรรม

เพราะฉะนั้นในพุทธศาสนาของเรา ท่านสอนให้เชื่อกรรม ทำกรรมชั่ว ทำบาปทำกรรมชั่ว แล้วใครจะไปเสกเป่าอย่างไร ดลบันดาลให้มันดีมันไม่มีทางดีได้ เหมือนเราสาดน้ำมันลงไปในน้ำ ใครจะไปเสกเป่าให้มันจมได้ มันไม่ได้ยังไงมันก็ต้องลอย โยนหินใส่น้ำใครจะไปเสกเป่าให้มันลอยได้ไหม มันไม่มีทางยังไงมันก็จม เพราะฉะนั้นใครสร้างกรรมอันใดไว้มันก็ต้องรับกรรมอันนั้นไป มันปฏิเสธไม่ได้หรอก อันนี้ก็พูดให้พระองค์ท่านฟังเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น มหาบพิตร บารมีที่มหาบพิตรสร้างมาแต่เก่าก่อนสะสมมาเป็นบุพเพกตปุญญตา การสั่งสมบุญมาแต่ปางก่อนเนี่ย แล้วก็บารมีในปัจจุบันที่มหาบพิตรมาประพฤติปฏิบัติธรรม จะรวมเข้าเป็นบารมีที่ทำให้มหาบพิตรทำหน้าที่นำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญ นำพาประชาชนไปสู่ความสุขความเจริญความมั่งคั่งได้อย่างแน่นอน ไม่เป็นที่สงสัยเลย เนี่ยอาตมาไปสรุปให้ท่านนะเนี่ย”

ภาพกลุ่มนักเรียนเลวถูกจับกุม ขอบคุณภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะเดียวกัน อีกด้านจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH เช่นกัน โพสต์ประเด็น “การกระทำ การันตีสมชื่อ!?! เปิดชื่อ-ดูหน้า กลุ่มนักเรียนเลว บุกศธ.นำธงไพรด์คลุมอนุสาวรีย์ร.6 อ้างทวงสิทธิอคติทางเพศ”

#นักเรียน #ธงไพรด์ #สิทธิ

โดยเนื้อหาจาก TRUTHFORYOU.CO ระบุว่า “จากที่เฟซบุ๊กนักเรียนเลว ได้โพสต์ข้อความวันที่ 16 มิถุนายน เวลา 19:07 น. ระบุว่า เมื่อความหลากหลายทางเพศไม่เบ่งบานในรั้วโรงเรียน เราต้องลุกขึ้นเรียกร้องเพื่อทวงคืนสิทธิที่เราพึงมี แล้วพบกันบนหน้าจอ 18 มิถุนายน 2564 เวลา 4 โมงครึ่ง ม็อบออนไลน์ครั้งแรกของนักเรียนเลว

ต่อมาวันที่ 18 มิถุนายน 2564 กลุ่มนักเรียนเลวได้เดินทางมารวมตัวกันที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยอ้างว่า เป็นกิจกรรมที่สื่อสารถึงความไม่เป็นธรรม การเลือกปฏิบัติต่อนักเรียนบนฐานความอคติทางเพศ ผ่านการแสดงละครที่สะท้อนถึงภาวะอำนาจนิยมภายในโรงเรียนที่มีการบังคับเรื่องการตัดผม การแต่งตัว ซึ่งเป็นไปเพื่อเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งแก้ไขปัญหา

ภาพกลุ่มนักเรียนเลว เอาธงไพรด์ขึ้นคลุมอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ทั้งนี้ระหว่างการจัดกิจกรรม พบว่า มีผู้เข้าร่วมคนหนึ่งได้ปีนขึ้นไปบนฐานอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้ากระทรวง แล้วนำธงไพรด์ขึ้นไปคลุมรอบอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปควบคุมผู้ปฏิบัติการดังกล่าว โดยนายตำรวจ 2 คน คล้องแขนสองข้าง นำตัวเดินออกมาจากตึกภายในกระทรวง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินออกมาถึงบริเวณสนามหญ้าด้านหน้ากระทรวง มีมวลชนซึ่งเป็นเยาวชนจำนวนได้วิ่งกรูเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายว่า การจะจับกุมคน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหาก่อน มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายไม่สามารถแจ้งได้ว่า มีการกระทำความผิดตามกฎหมายฉบับใด มาตราไหน จึงได้ปล่อยตัว

ขณะที่เฟซบุ๊ก สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพกิจกรรมดังกล่าวด้วยว่า

กลุ่มนักเรียนเลว นำธง Pride ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศ มาคลุมแสดงเชิงสัญลักษณ์ บนอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่กระทรวงศึกษาธิการ ภายหลังจากการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ไม่ถึง 5 นาที เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้กระทำ แต่ได้ปล่อยตัวไป และสั่งตรึงกำลังเข้มรอบฐานอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 รวมทั้งได้ผลักดันมวลชน และ สื่อมวลชนให้ออกจากกระทรวงฯ เนื่องจากเลยเวลาราชการ

ภาพกลุ่มนักเรียนเลว ขอบคุณภาพจากทวิตเตอร์เจ๊จุก คลองสาม@jjookklong3
ด้านทวิตเตอร์ เจ๊จุก คลองสาม@jjookklong3 ก็ได้ออกมาแสดงความเห็น พร้อมทั้งเปิดเผยถึงตัวคนที่ขึ้นไปนำธงผ้าไพรด์ห่มอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ด้วยว่า

หน้ามุ่ยตอนนี้อีเจ๊เกรี้ยวกราดมากๆ ค่ะ

เด็กวินลูกน้องเจ๊นี่อาสาไปกระทืบตัวที่ขึ้นไปผูกธงเลย เพราะสิ่งที่ทำวันนี้นั้นมันทำร้ายจิตใจคนไทยเป็นอย่างมาก สนุกมากนักใช่ไหมกับการเย้ยเยาะศรัทธาของคน

ไนท์จักรกฤษณ์ เหตุการณ์นี้จะเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต #คิดจะชั่วอย่ากลัวนรก

ภาพเทศกาลไพรด์ หรือ LGBTQ Parades หรือไพรด์ พาเหรด ขอบคุณเรื่อง-ภาพจาก https://travel.trueid.net/detail/59eba2A0pRQV
สำหรับธงไพรด์ มีที่มาจากเทศกาล Pride Month ของ LGBTQ

โดยเป็นการแสดงออกถึงความต้องการสิทธิความเท่าเทียมกันในสังคม ในเดือนมิถุนายนของทุกปี ที่เราเรียกกันว่า Pride Month นั่นก็คือ เทศกาลไพรด์ หรือ LGBTQ Parades หรือไพรด์ พาเหรด เทศกาลที่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เฉลิมฉลองกันอย่างคึกคัก จัดเต็ม โบกธงสีรุ้งให้สะบัด เพื่อเป็นแรงผลักดันให้เกิดความเสมอภาคของชาว LQBTQ ทั่วโลกนั่นเอง
https://travel.trueid.net/detail/59eba2A0pRQV

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจคือ ภาพสองด้านที่ถูกสะท้อนออกมา ด้านหนึ่ง สะท้อนถึงความดี ความตั้งใจดีก็ยังถูกด่าของในหลวง ร.10 ที่ทรงตรัสระหว่างสนทนาธรรมกับ พระอาจารย์สุธรรม

อีกด้านหนึ่ง เป็นเรื่องราวของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ภายใต้ “กลุ่มนักเรียนเลว” ที่เรียกร้องความเท่าเทียบทางเพศอย่างไม่อคติ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นผิดแปลก และสามารถทำได้

แต่ที่ชั่วร้าย และหลายคนไม่ทนกับเรื่องเย้ยเยาะศรัทธาประชาชนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็คือ การเอา “ธงไพรด์” ซึ่งเป็นธงสัญลักษณ์ของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ไปคลุมอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 อย่างไม่สมควร ทั้งยังมีคำถามว่าเกี่ยวข้องอย่างไร???

อาจทำให้เข้าใจได้ว่า กลุ่มนักเรียนเลวบางคน เป็นสาวก “สามกีบ” ด้วยหรือไม่ และถ้าใช่ ถามว่า การเคลื่อนไหว เรียกร้องได้ผนวกรวมโดยไม่แยกแยะเลยหรือ รวมทั้งกาลเทศะ ที่ควรยึดถือประจำใจคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น หรือ ต้องการให้มอง “สามกีบ” คือคนประเภทไหน เป็นอนาคตที่มีคุณภาพของประเทศแค่นี้หรือ?

มาถึงตรงนี้ ทำให้อดคิดถึงคำของ พระอาจารย์สุธรรม ไม่ได้ที่แนะพระองค์ (ในหลวง ร.10) ว่า ผู้ที่คิดจะมาล้มล้างบารมีจะวิบัติไปเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น