xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ” ขี้โม้! “ไพศาล” แฉเบื้องลึกเบรกขึ้นเวที “UN-กลับไทย” “อดีตบิ๊ก ศรภ.” ย้อน ไม่รู้ม็อบรับจ้างจริงหรือ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ภาพ เอาความจริงฟาด “ทักษิณ” “ไพศาล” แฉเบื้องลึก ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
เอาความจริงฟาด “ทักษิณ” “ไพศาล” แฉเบื้องลึกเบรกขึ้นเวที “UN-กลับไทย” ชี้ พล.อ.ธรรมรักษ์ ใกล้ชิด “ป๋าเปรม” ทีมต้าน รปห.มือไม่ถึง “นันทเดช” ระบุจ้างม็อบเด็กไม่ถึง 5 ล้าน “โทนี่” ไม่รู้จริงหรือ? เชื่อ ศาลโลกไม่รับฟ้อง

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (16 ก.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น ไพศาล เปิดเบื้องลึก “ทักษิณ” ถูกเบรกขึ้นเวทีสหประชาชาติ กลับไทยไม่ได้ แถมต้านรัฐประหารปี 49 ใช้คนมือไม่ถึง

โดยระบุว่า จากกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือ โทนี่ วู้ดซัม ร่วมพูดคุยผ่านรายการ CareTalk x CareClubHouse ในหัวข้อ “อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของการเมืองไทย-แล้วอนาคตของเยาวชนไทยจะเป็นอย่างไร” ซึ่งมีเนื้อหาบางช่วงที่น่าสนใจว่า

“เมื่อผมได้ 377 เสียง เริ่มมีปัญหา มีคนไปปล่อยข่าวผมเรื่องวังสารพัด ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ก่อนหน้าที่ผมจะเดินทางไปต่างประเทศ มีความพยายามลอบฆ่าผมหลายครั้ง เช่น คาร์บอมบ์ ที่สะพานซังฮี้ ก่อนเดินทางไปสหรัฐฯ ผมได้เขียนประกาศสภาวะฉุกเฉินไว้แล้ว อยู่ที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ ดร.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ และยังได้เซ็นลงนามไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อเห็นว่าท่าไม่ดี ก็จะให้ประกาศ เพราะวันนั้นมีการประชุมคณะรัฐมนตรี ดูแล้วอาการไม่ค่อยดี

คนของผม 2 คน ไปตามหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา วันนั้นรัฐมนตรีกลาโหมของผมถูกพาไปซ่อนที่ไหนก็ไม่รู้ 2 คนนี้ก็ไม่กล้าตัดสินใจ ก็เลยช้าไป ไปประกาศได้ครึ่งเดียว มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ถูกจี้ เขาก็ปิดทีวีช่อง 9 เลยไม่ได้อ่าน ทำให้เราประกาศสภาวะฉุกเฉินไม่ทัน

พอผมโดนปฏิวัติ ก็เลยขาดการสั่งการในทางนี้ ผมจะขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยไม่ได้ เพราะถ้าผมกลับมา สนุกแน่ แต่เครื่องบินการบินไทยถูกล็อกไว้ก่อน จนกระทั่งตอนหลังผมแจ้งบินไปอังกฤษ”

ภาพ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
เรื่องนี้ นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษา พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่นายทักษิณ กลับประเทศไทยไม่ได้ว่า

คุณโทนี่เคลื่อนไหวหนักในช่วงนี้ แต่เรื่องหนึ่งซึ่งคุณคุณโทนี่ไม่ทราบ คือ ที่คุณโทนี่พูดย้ำหนักหนาว่า คืน 19 กันยานั้น ไม่ได้กลัวและคิดสู้ แต่ไม่รู้ว่ารัฐมนตรีกลาโหมไปไหน จึงไม่สั่งการฝ่ายทหาร ทำให้คุณโทนี่บินกลับประเทศไทยไม่ได้!!!! 15 ปีแล้วจะบอกให้คุณโทนี่ทราบว่า

1. รัฐมนตรีกลาโหม คือ พลเอก ธรรมรักษ์ พลเอก ธรรมรักษ์ คือ เด็กป๋าในบังคับบัญชาลุงจิ๋ว! เป็นนายทหารสายข่าวกรองชั้นสูง ที่มีฝีมือการข่าวยอดเยี่ยม มีหรือจะไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และมือการข่าวระดับนี้เขาหายตัวได้!!!

2. เหตุที่คุณโทนี่บินกลับประเทศไทยไม่ได้ เกี่ยวกับการที่ไม่ได้ขึ้นพูดในเวทีสหประชาชาติ คงจำได้นะว่า ขณะนั้นคุณโทนี่กำลังเตรียมจะขึ้นพูดที่เวทีประชุมใหญ่ของสหประชาชาติ ถ้าขึ้นพูดได้ก็เท่ากับสหประชาชาติรับรอง ที่ขึ้นพูดไม่ได้ ก็เพราะว่าทูตไทยประจำ Un รับคำสั่ง น.ต.ประสงค์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ สั่งห้ามไม่ให้คุณโทนี่ขึ้นไปพูดไงละครับ เท่ากับ un ไม่รับรองคุณโทนี่ในนาทีนั้นแล้ว และในคืนนั้น คุณโทนี่ก็จะขอกลับประเทศไทย แต่ไม่ได้รับอนุญาต!!! ไม่ใช่จะกลับมาต่อสู้อะไรหรอก เพราะการยึดอำนาจเบ็ดเสร็จไปตั้งแต่ประมาณ 19:00 น. แล้ว

ช่วงหลังจากนั้น เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องจากการยึดอำนาจเสร็จสิ้นเท่านั้น

3. คุณโทนี่ เตรียมการต้านรัฐประหารจริง แต่ฝีมือไม่ถึง และใช้คนด้านนี้ไม่เป็น!!! นั่นคือ ตั้ง พลเอก เรืองโรจน์ อดีต ทส.พี่จ๊อดคนสนิทป๋า เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ พลตำรวจเอก ชิดชัย เป็น ผู้อำนวยการสถานการณ์ และหมอพรหมินทร์เป็นผู้กำกับงาน ทันทีที่พลตำรวจเอก ชิดชัย และหมอพรหมินทร์ ไปถึงกองบัญชาการต้านรัฐประหารก็ถูกควบคุมตัวอย่างละม่อม ในขณะที่พลเอก เรืองโรจน์ ยังอยู่ที่บ้านกำลังทำกับข้าวอยู่ คนนั่งขวามือลุงป้อมคือใครหนอ!

ภาพ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ขอบคุณภาพจากสยามรัฐออนไลน์
ขณะเดียวกัน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

“วันที่โทนี่หลงลืมความจำของตัวเอง

ในที่สุด คณะกรรมาธิการตำรวจก็ออกมาระบุว่า
ม็อบดินแดง เป็น พวกก่อจลาจล นับว่าเพิ่งเป็นหน่วยงานแรกที่พูดออกมาตรงๆ
ขอปรบมือให้ครับ

เมื่อวานคุณโทนี่ออกมาให้ความเห็นเรื่องความวุ่นวายกลางถนน ทางคลับ (เห่า) เฮาส์ เรื่องแรกว่า ตำรวจทำรุนแรง เสียชื่อตำรวจหมด โดยลืมไปว่า ตำรวจสมัยคุณโทนี่สลายม็อบโดยเข้ารุมตีอย่างรุนแรงต่อผู้ชุมนุมต่อต้านเรื่องแก๊สที่ จ.สงขลา

ทั้งๆ ที่ม็อบนั่งอยู่กับที่เฉยๆ หรือ เรื่องการสลายการชุมนุมท่ี “ตากใบ” หรือ การสลายม็อบในยุคคุณยิ่งลักษณ์ ท่ีลานพระรูปทรงม้า ถึงขนาดลงมือไล่ตีพระ ก็ทำมาแล้ว สงสัยคงลืมหมดแล้วซิ ลองทบทวนสักเรื่องก็ได้
เรื่องตำรวจยิงแก็สน้ำตาหมดอายุ ใส่ม็อบพันธมิตรฯ แก๊สน้ำตาเค้ายิงขึ้นฟ้ากัน

แต่คราวนั้นยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมกันตรงๆ เลย กลุ่มพันธมิตรฯ มีทั้งตาย และขาขาด
นี่แค่ตัวอย่างเดียว

เรื่องที่สอง คุณโทนี่กล่าวว่า ให้รัฐบาลลงมาพูดกับเด็ก จะได้เข้าใจกัน

ไม่เช่นนั้น เด็กอาจรวมตัวกันฟ้องต่อศาลโลกก็ได้

ครองสติหน่อยครับคุณโทนี่ เลิกคิดว่า คนอื่นโง่กว่าตนบ้างก็จะดี

ม็อบนี้เป็นม็อบอันธพาล ไม่มีข้อเรียกร้อง ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ

ถึงเวลาก็ออกมาป่วนเมือง ไม่สนว่าชาวบ้านจะเดือดร้อนอย่างไร เผาได้เผา
ทำลายได้ทำลาย ไม่สนด้วยว่า ไปอาละวาดอยู่หน้าโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง แล้วคนฉลาดแบบ ”โทนี่” จะไม่รู้เลยหรือว่า ม็อบเด็กส่วนใหญ่มีคนจ้างมา ถึงได้ไม่มีข้อเรียกร้อง ไม่มีการชุมนุม มาในรูปแบบกุ๊ยกวนเมืองชนิดจัดเต็ม

แล้วมีการรับแจกข้าวห่อที่มีเงินมัดติดอยู่ด้วย ก็ไม่มากหรอกครับ ไม่ถึง 5 ล้าน หางกระดิกหรอก

ภาพ ม็อบทะลุแก๊ส สมรภูมิดินแดง จากแฟ้ม
ส่วนการฟ้องศาลโลกนั้น ศาลโลกไม่รับคดีแบบนี้ จะมีก็แต่ศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่พิจารณาเฉพาะคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แบบสงครามปราบยาเสพติดในสมัยคุณโทนี่นั่นแหละ ท่ีเกือบไปขึ้นศาลจากคดีฆ่าตัดตอน ดีตรงที่ไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบันเท่านั้น

คุณโทนี่มักพูดเอาดีใส่ตัวเอง โดยเปรียบเปรย ด้อยค่าคนอื่นเสมอ

แต่ผมก็เชื่ออยู่อย่างหนึ่งในเรื่องท่ีคุณโทนี่ออกมาวิจารณ์คนนั้นคนนี้

คุณโทนี่รู้จริง เพราะล้วนแต่เป็นเรื่องท่ีตัวเองเคยทำมากับมือทั้งนั้นครับ

แน่นอน, ความจริงก็คือ ความจริง คนที่บิดเบือนความจริง แม้รู้อยู่แก่ใจดี เขาเรียกว่า โกหกตัวเอง คนบางคนโกหกแม้กระทั่งตัวเอง เพื่อที่จะทำให้เรื่องที่หยิบยกขึ้นมาพูด มาคุยโตโอ้อวด ทำให้ตัวเองดูดี ฉลาดกว่าใคร และไม่ใช่คนขี้แพ้ แต่สุดท้ายก็หนีความจริงไปไม่พ้น

สำหรับที่มาของการรัฐประหารปี 49 สิ่งที่ “ทักษิณ” จดจำส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องหาความชอบธรรมให้กับตัวเอง ว่า มีขบวนการเลื่อยขาเก้าอี้ หรือ มุ่งร้าย เอาชีวิต เพราะอิจฉาทางการเมือง หรือ กลั่นแกล้งทางการเมือง โดยเฉพาะที่กล่าวอ้างพาดพิงเบื้องสูง

แต่สำหรับคนไทย สิ่งที่จดจำ ก่อนการรัฐประหาร คือ “ทักษิณ” ทำให้เกิดเผด็จการรัฐสภา เหลิงอำนาจ และทุจริตในเชิงนโยบายหลายเรื่อง แม้แต่แก้กฎหมายเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ซึ่งคดีทั้งหลาย อยู่ระหว่างดำเนินคดีของศาล

ดังนั้น การประท้วงขับไล่ “ทักษิณ” ของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ใช่เรื่องข่าวลือเกี่ยวกับเบื้องสูงเท่านั้น แต่ปัญหาใหญ่คือ การทุจริต เชิงนโยบาย เพื่อตัวเอง และพวกพ้อง ซึ่ง “ทักษิณ” ไม่เคยยอมรับความจริง แม้ว่าบางคดีศาลฯดำเนินคดีถึงที่สุดและตัดสินจำคุกไปแล้วด้วย นั่นหมายความว่า ได้ต่อสู้ในชั้นศาลเรียบร้อย ไม่ใช่แค่เรื่องกล่าวหา

ดังนั้น การพูดถึงเรื่องอะไรก็ตาม ที่พยายามปกปิดความจริง บางด้าน เลือกพูดแต่สิ่งที่ตัวเองได้ประโยชน์ สุดท้ายเมื่อมีคนนำเอาความจริงมาแฉ และมีเหตุมีผลยิ่งกว่า ย่อมไม่เป็นผลดี แม้เกือบทำให้คนเชื่อไปแล้วก็ตาม

แต่บางคน ก็ใช้วิธีคุยโม้โอ้อวดไปก่อน เพราะเชื่อว่า มีคนเชื่ออยู่แล้ว อย่างน้อยก็ฐานเสียงที่ยังมีอยู่ จึงไม่สนใจว่า ใครจะมาโต้แย้ง จับโกหก แม้จะเป็นเรื่องจริง ก็ตาม

คนประเภทนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง ส่วนจะเกี่ยวกับ “ทักษิณ” หรือไม่ หลายคนมีคำตอบอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น