xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “หนุ่มเสก” เปลี่ยนชื่อเป็น “นายจงรักภักดี” พร้อมตั้งชื่อลูกว่า “ปกเกล้า” ทนไม่ได้สถาบันถูกย่ำยี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“หนุ่มเสก” เลือดรักชาติเข้มข้น เปลี่ยนชื่อเป็น “นายจงรักภักดี” เมื่อ 10 ปีก่อนแต่ไม่ได้บอกใคร แถมตั้งชื่อลูกว่า “ปกเกล้า” ลั่นเป็นชื่อมงคลที่สุดในชีวิต หลังทำงานถวายในหลวง ร.๙ ทนไม่ได้สถาบันถูกย่ำยี พร้อมเดินเข้าไปชี้แนะดารารุ่นใหม่ไม่เอาสถาบัน ลั่นใครพูดถึงไม่ดี ผมนี่แหละไม่ยอม จวกแหลกเกิดมาเสียชาติเกิด ทัวร์ลงเพียบแต่ไม่กลัว เหน็บแค่คนกลุ่มน้อย ไม่ใช่ของจริง!




ฮือฮาไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ “หนุ่มเสก เสกสรร ชัยเจริญ”ที่ล่าสุดออกมาเผยว่า เจ้าตัวได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “นายจงรักภักดี ญาณวินะโย”มาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ไม่ได้บอกใคร อีกทั้งยังตั้งชื่อลูกว่า “ปกเกล้า” ด้วย ลั่นชื่อนี้มีความหมาย และเป็นมงคลในชีวิตของตน
“จริงๆ ผมเปลี่ยนชื่อมานานแล้ว เปลี่ยนตั้งแต่เมื่อประมาณ 10 ปีได้ แต่ไม่มีคนรู้ เมื่อ 10 ปีที่แล้วทำงานถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ เลยเปลี่ยนชื่อเป็นจงรักภักดี เปลี่ยนก็ไม่ได้บอกใคร พอเรามาทำงานอย่างนี้เสียส่วนใหญ่มันต้องให้คนรู้ไง พอคนถามเราก็บอกว่าชื่อนี้คือชื่อของผมเอง

ถามว่าชื่อนี้มาจากไหน ชื่อนี้ก็มาจากที่ผมทำงานถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ พอสิ้นท่านเราก็แต่งเพลงถวายท่านด้วยเราก็เลยคิดว่าความจงรักภักดีมันจะอยู่ในใจเราตลอดไป ก็เลยเอาชื่อนี้มาเป็นมงคลให้ชีวิตตัวเอง เราทำงานด้วยความจงรักภักดี ก็เลยหยิบเอาชื่อนี้มาเป็นชื่อเรา เปลี่ยนชื่อตอนที่ลูกสาวเกิดพอดีตอนที่ทำงานถวายพระองค์ท่านก็บอกว่าขอให้ประสบความสำเร็จ ถ้าประสบความสำเร็จจะขอให้ลูกมาเกิด ลูกก็มาเกิดเลย ลูกสาวชื่อว่าปกเกล้า ผมชื่อจงรักภักดี”

นามสกุลเจ้าอาวาสตั้งให้ เปลี่ยนแล้วเป็นคนใหม่
“เป็นนามสกุลของเจ้าอาวาสท่านตั้งให้ แต่ก่อนนั้นเหมือนกับว่าชีวิตเราล้มลุกคลุกคลาน หลวงพ่อก็บอกว่าเปลี่ยนแล้วจะได้เป็นคนใหม่ ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ ก็เปลี่ยนทั้งชื่อทั้งนามสกุลไปเลย ก่อนเปลี่ยนก็ไปบอกพ่อกับแม่ก่อน ถ้ามันเป็นเรื่องดี ท่านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เราก็ยังเมมโมรี่นามสกุลเดิม แต่ทางการใช้ชื่อและนาทสกุลใหม่ ในบัตรประชาชนก็ใช้ชื่อและนามสกุลใหม่”

เปลี่ยนแล้วชีวิตดีมาก ชีวิตต้องสู้และอดทน
“พอเปลี่ยนแล้วชีวิตดีมาก ชีวิตมันก็ผ่านร้อนผ่านหนาวอะไรมาเยอะแยะ โควิดมาร้านปิดไปเยอะแยะ แต่ไม่เป็นไร ได้เวลาเราก็เปิดใหม่ ชีวิตผมมันก็อย่างนี้ อย่างเดียวคือมันต้องสู้ มันต้องทน และมีกำลังใจ”

คงไม่เปลี่ยนเป็นชื่ออื่นแล้วครับ ผมคิดว่าตั้งแต่ผมใช้ชื่อนี้ชีวิตผมมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง แล้วยิ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมยิ่งต้องเทิดทูน ชื่อนี้มันจะเป็นสิ่งที่มากำกับชีวิตผมว่าเราต้องเดินและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ ถึงแม้ว่าจะมีดารานักแสดงบางคนไม่ชอบ ผมก็สามารถที่จะไปบอกกล่าวให้เขารักได้”

ทนไม่ได้สถาบันถูกย่ำยี ตั้งแต่เกิดไม่เห็นสถาบันทำร้ายประชาชน พระองค์มีแต่ให้ จวกดาราบางคนโพสต์สนุก พร้อมเดิมไปบอกให้ศึกษาประวัติ
“คือบางคนไม่ออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ในขณะที่คนพยายามจะย่ำยี เหยียบย้ำ ซ้ำเติมสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่พวกเราปล่อยให้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้ ผมคนนึงที่ทนไม่ได้ ผมอายุเกือบจะ 60 ปีแล้ว ผมเกิดมาผมยังไม่เคยเห็นสถาบันพระมหากษัตริย์มาทำร้ายประชาขน พระองค์ท่านมีแต่ให้ แต่มีบุคคลบางกลุ่มมาพูดถึงท่านในทางที่ไม่ดี เอารูปท่านมาเหยียบย้ำ ใจผมมันรับไม่ได้ ผมก็ทำได้แต่ปกป้องโดยการโพสต์ แนะนำ อธิบาย ดารานักแสดงบางคน อาจจะเหมือนว่าเขาสนุกโพสต์ตามนี้แล้วได้ใจ หรืออะไรต่างๆ ก็แล้วแต่เขา แต่ว่าเมื่อไหร่ที่เจอผม ผมจะแนะนำเขาว่าน้องไปศึกษาประวัติของสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ดีๆ

ก็เดินเข้าไปแนะนำดาราเยอะเลย บางคนเขาอาจจะไม่ชอบผมนะ ผมก็บอกไม่เป็นไรเลยน้อง เพราะน้องเป็นรุ่นใหม่ ยังไม่เข้าใจถึงประวัติศาสตร์ของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง พี่จะ 60 แล้วน้อง พี่ผ่านมาหมดแล้วพี่ถึงบอกได้ว่าสิ่งที่น้องคิดไม่ใช่ คือเขาจะไปด่ารัฐบาลก็เรื่องของเขา แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ควรทำ เพราะยังมองเห็นเหตุผลของการด่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เจอเลย ผมเห็นพระองค์ท่านมีแต่ทำดี ปกป้องประชาชน ช่วยเหลือประชาชนตลอดเวลา คือเราทำอย่างนั้นแล้วเราจะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร ถามจริงถ้าพวกเราเจอคนไม่รักสถาบัน พูดให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ทนกันได้เหรอ เรารับกันได้เหรอ เพียงแต่บางคนอาจจะไม่แสดงออกไง แต่เผอิญผมมันเลือดเข้มข้น ผมจะพูดเลย ผมแสดงออกว่าคุณอยู่ในใจได้ แต่ถ้าคุณพูดออกมาเมื่อไหร่คุณเจอผม”

แม้แต่เพื่อนถ้าย่ำยีสถาบันก็เลิกคบ ตายไปก็ต้องเทิดทูนสถาบัน
เอาง่ายๆ เพื่อนกันยังมีเลย ผมบอกว่าคุยอะไรก็คุยได้ แต่ถ้ามาด่า มาย่ำยีสถาบันพระมหากษัตริย์นี่เลิกคบ เพราะผมคิดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่เราต้องเทิดทูน ไม่ได้มีอะไรที่ไม่ดี อ่านประวัติตั้งแต่ ๑-๑๐ ไม่มีอะไรบกพร่อง ผมอยู่มาเกือบ 60 ปี ตายไปยังไงก็ต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์”

มั่นใจคนไม่รักสถาบันแค่คนกลุ่มน้อย การปฏิรูปสถาบันไม่มีทางเกิด
“ผมจะบอกให้ว่าคนพวกนี้เป็นกลุ่มน้อย สมมติ 10 ล้านคนอาจจะมีสัก 1 ล้านคนที่คิดไม่ดี แต่ 9 ล้านคนคิดดีครับ 9 ล้านคนเขาเป็นพลังเงียบ เขาไม่อยากมีเรื่อง ผมเชื่อว่าพลังเงียบมหาศาล ไม่ยอมหรอกที่จะมาปฎิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมไม่เชื่อ ผมเป็นคนนึงที่คิดว่าไม่มีทางเกิดหรอก ผมไปถามวัยรุ่น นักเรียนที่จะปฎิรูป พอเอาเข้าจริงๆ มีกี่คน โซเชียลเป็นสิ่งที่ทำให้คนเข้าใจคลาดเคลื่อน ถ้าเราไม่ช่วยกันชี้แจง ช่วยกันปกป้องพวกต่อต้าน พวกเขาก็จะเข้าใจผิดๆ ผมก็คงทำได้เท่าที่ทำ ถ้าเจอใครพูดถึงสถาบันไม่ดี ผมนี่แหละไม่ยอม”

ทัวร์ลงเพียบแต่ไม่กลัว เย้ยไม่ใช่ของจริง ด่ามาด่ากลับ ถึงเวลาฟ้องก็ต้องมากราบตีน คนพวกนี้เสียชาติเกิด
“ขอโทษนะ ทัวร์แม่-ลงเพียบ แต่ผมก็ไม่เคยกลัวเพราะทัวร์พวกนี้มันไม่ใช่ของจริงไง บางทีผมด่าเลย ผมบอกมึงมาเจอกูสิ ผมด่าหมด ถึงเวลาฟ้องพวกนี้ก็ต้องมากราบตีน ไม่มีเงิน ผมถามเลยมีเงินจ่ายค่าหมิ่นประมาทผมไหม เงียบ

ตอนผมโพสต์ทัวร์ลงผมเต็มเลย ผมบอกเลย ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ลุย ไอ้พวกทัวร์ก็มาอุ้ย ร้องเพลงส้นตีน ลงกันมากระหน่ำผม แต่ผมไม่สนใจเพราะคนพวกนี้มันไม่ใช่ของจริง ผมยกตัวอย่างเวลาไปอยู่ในคุกแล้วเป็นไง ดูสภาพสิ ร้องแรกแหกกระเชอ นั่นนี่ แต่พอเขาปล่อยออกมาแล้วก็ทำเหมือนเดิม คนพวกนี้ผมเชื่อว่าเสียชาติเกิดผมอยู่มาจะ 60 แล้ว ผมคิดว่าแผ่นดินเราอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปล่อยให้พวกนี้ครองประเทศเหรอ คอยดูยิงกันทุกวัน นี่ขนาดสถาบันอยู่เฉยๆ พวกมันยังทำกันขนาดนี้ ลองมันปฎิรูปสิ มันคงด่าสถาบันกันทุกวัน คุณจะทนได้เหรอ เขาเอารูปมาเหยียบ มาเผา เอาง่ายๆ มีใครมาด่าพ่อแม่เรา เราจะยอมไหม เรายังไม่ยอมเลย แล้วนี่พ่อของแผ่นดิน แม่ของแผ่นดิน มาทำแบบนี้ได้ยังไง ผมรับไม่ได้”



กำลังโหลดความคิดเห็น