แม่ชาวอเมริกันวัย 40 เศษ ขโมยตัวตนของลูกสาวไปใช้สมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แถมยังออกเดตกับหนุ่มๆ หลายคนที่หลงคิดว่าเธอเป็นสาวอายุ 22 ปี
ลอรา เอ.โอเกลสบี (Laura A.Oglesby) วัย 48 ปี ยอมรับสารภาพข้อหาขโมยตัวตนลูกสาวและฉ้อโกงสวัสดิการสังคม ซึ่งอาจทำให้เธอต้องเข้าไปนอนคุกถึง 5 ปี โดยหมดสิทธิทำทัณฑ์บน
รายงานระบุว่า หญิงคนนี้เคยอาศัยอยู่กับลูกสาวที่ชื่อ ลอเรน เฮย์ส (Lauren Hays) ที่เมืองโจนส์โบโร รัฐอาร์คันซอ ก่อนจะย้ายไปที่รัฐมิสซูรี และขาดการติดต่อกันไป
พฤติกรรมฉ้อโกงเริ่มขึ้นในปี 2016 เมื่อ โอเกลสบี ในวัย 43 ปี เอาชื่อของลูกสาวไปทำบัตรประกันสังคม ทำใบขับขี่ และปีต่อมาก็สมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย Southwest Baptist University แถมยังใช้ความเป็นนักศึกษาขอกู้ยืมเงินในนามลูกสาวด้วย
โอเกลสบี หลอกลวงคนรอบข้างอยู่ได้นานถึง 2 ปี โดยไม่มีใครนึกแปลกใจหรือตั้งคำถามว่าเธออายุ 22 ปีจริงหรือไม่
“ทุกคนหลงเชื่อหมดเลย” เจมี เพอร์คินส์ ผู้กำกับการตำรวจ Mountain View ให้สัมภาษณ์ “เธอยังคบแฟนหนุ่มๆ หลายคนที่เชื่อว่าเธออายุแค่ 22 ปี”
ตำรวจยอมรับว่า คดีนี้มีความซับซ้อนและน่าประหลาดใจยิ่งกว่าคดีสวมรอยอื่นๆ ที่พวกเขาเคยทำมา และไม่น่าเชื่อว่าหญิงวัย 43 ในขณะนั้นจะสามารถปลอมเป็นสาวอายุ 20 ต้นๆ ได้อย่างแนบเนียน ทั้งการแต่งกาย การแต่งหน้า และบุคลิกท่าทาง
โอเกลสบี มาถูกจับเอาในปี 2018 หลังเจ้าหน้าที่รัฐอาร์คันซอได้ติดต่อไปยังสำนักงานตำรวจ Mountain View เพื่อตามหาคนที่ชื่อ “น.ส.โอเกลสบี” ซึ่งได้ขโมยตัวตนลูกสาวไปใช้ฉ้อโกงและยักยอกเงินกว่า 25,000 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2017
พนักงานสอบสวนได้ติดตามจนไปพบตัว โอเกลสบี ซึ่งตอนแรกเธอก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ขโมยตัวตนลูกสาว แต่พอโดนเจ้าหน้าที่คาดคั้นหนักเข้าก็ยอมรับสารภาพหมดเปลือก
ความผิดฐานแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสำนักงานสวัสดิการสังคมมีโทษจำคุกถึง 5 ปี และภายใต้ข้อตกลงรับสารภาพ โอเกลสบี ยังต้องชดใช้เงิน จำนวน 17,521 ดอลลาร์คืนให้แก่มหาวิทยาลัย Southwest Baptist University รวมถึงลูกสาวของเธอด้วย
ในส่วนของ ลอเรน เฮย์ส ตัวจริงยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมฉ้อฉลของมารดา และยังไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแม่นั้นดีร้ายประการใด
ที่มา : odditycentral, New York Post