เพราะพิษโควิดเล่นงานจึงทำให้ร้านอาหารต้องปิดตัวลงทุกสาขา ทำให้มองหาช่องทางการหารายได้ใหม่ โดยเจาะไปยังกลุ่มลูกค้าที่สั่งซื้ออาหารแบบเดลิเวอรี่เป็นหลัก และผัดกะเพรานั้นตอบโจทย์เพราะเป็นเมนูที่ทุกคนแทบจะกินเกือบทุกวัน ขายข้าวผัดกะเพราได้ไม่นานก็ต่อยอดเป็นซอสผัดกะเพราพริกแห้ง โดยมีจุดเด่นคือคือพริกแห้งและไม่ใช้น้ำมัน กลายเป็นน้ำซอสผัดกะเพราสำเร็จรูปที่สร้างยอดขายได้หลักล้านบาทต่อเดือน
นายสัจจา วสุวัต เจ้าของธุรกิจซอสกะเพราสำเร็จรูป แบรนด์ หมีปรุง เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์นั้นเริ่มต้นมาจากการที่เคยเปิดร้านขายสเต็กและขายอาหารมากว่า 5 ปี แต่ต้องมาปิดเพราะพิษโควิดเล่นงาน ซึ่งเมื่อต้องปิดร้านก็ยังไม่มีงานอื่นให้ทำ จำเป็นต้องอยู่บ้านเฉยๆ โดยช่วงเวลาที่อยู่บ้านนั้นเกิดความคิดและต้องการหารายได้ ซึ่งในตอนแรกคิดจะขายอาหารและสเต็กเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนจากหน้าร้านมาขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์หรือเดลิเวอรี่ แต่มีเหตุบังเอิญเกิดขึ้น ตนเปิดดูรูปภาพในมือถือแล้วไปเจอกับรูปผัดกะเพราที่ตนถ่ายเก็บเอาไว้
หลังจากนั้นตนจึงลองนำรูปดังกล่าวไปลงในแอปฯ ส่งอาหารเพียง 1 รูป และใส่เมนูเป็นเมนูกะเพราหมูสับ เนื้อและไก่ ทั้งหมด 3 เมนู โดยมีจุดขายคือเป็นกะเพราพริกแห้งโบราณไร้น้ำมัน หลังจากนั้นตนยังมีความคิดที่ว่า อาหารทุกจานควรจะมีรสชาติที่เหมือนกัน ซึ่งเป็นเคล็ดลับสำหรับการทำอาหารขายอยู่แล้ว ทำให้ตนได้ลองทำซอสผัดกะเพราเก็บไว้ใช้เองเพื่อให้ได้รสชาติที่เหมือนกันทุกจาน หลังจากขายออนไลน์ไปได้ 1 เดือน รายได้อยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ต่อมาเดือนที่ 2 สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 50,000 บาท
ทั้งนี้มีอยู่วันหนึ่งตนไม่ได้อยู่บ้าน มีเพียงแม่ของตนอยู่บ้าน ประจวบกับมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามา ตนจึงได้บอกสูตรน้ำซอสผัดกะเพรากับแม่ไปทำขายให้กับลูกค้า เมื่อแม่ได้ลองทำก็สามารถทำได้และมีรสชาติที่เหมือนกับที่ตนทำเอง หลังจากนั้นก็เกิดความคิดที่จะทำน้ำซอสผัดกะเพราสำเร็จรูปขึ้นมา เพื่อที่จะได้ต่อยอดได้เพิ่มมากขึ้น หลังจากนั้นตนจึงได้ถ่ายรูปซอสผัดกะเพราที่ทำขึ้นมาเองและบรรุจุลงในขวดแกลลอนไปโพสต์ขายลงบนเฟซบุ๊ก ผลปรากฎว่าในระยะเวลาเพียง 1 คืนสามารถขายได้ประมาณ 5,000 บาท มีลูกค้าสนใจและสอบถามสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก และได้ตัดสินใจหันมาเอาดีด้านการขายซอสและเลิกขายข้าวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงกลายเป็นที่มาของธุรกิจซอสผัดกะเพราสำเร็จรูป แบรนด์ หมีปรุง จนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบันเปิดแบรนด์มาได้ประมาณ 2 ปี และมีลูกค้าร้านอาหารเป็นหลักทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม บางร้านนำซอสของทางแบรนด์ไปขายแล้วสามารถสร้างรายได้เดือนละ 100,000 บาทก็มี เมื่อเจ้าของแบรนด์เห็นผลตอบรับดังนั้นก็เกิดไอเดียการทำเป็นเซ็ตขาย โดยจะให้เครื่องมือสำหรับนำไปขายออนไลน์และมีการแต่งรูปภาพโปรโมทและเพิ่มเมนูแจกฟรีไปให้ สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อซอสกะเพราของทางแบรนด์
นอกจากนี้เมื่อทำไปได้สักพักก็เกิดปัญหาขึ้นคือซอสผัดกะเพราเริ่มบูดหรือเสียจำนวนมาก ทำให้ต้องหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อให้มีอายุการเก็บรักษาที่นานขึ้น จนได้ไปเจอกับโรงงานที่ได้มาตรฐานและสามารถยืดอายุของสินค้าได้นานถึง 2 ปี และได้ร่วมมือกับโรงงานเพื่อผลิตซอสกะเพราต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้จุดเด่นและความพิเศษของน้ำซอสนั้น เมื่อนำไปใช้แล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนทำสดใหม่ๆ รวมถึงเรื่องรสชาติที่มีสูตรเฉพาะและมีเอกลักษณ์โดยการใช้พริกแห้งและสามารถผัดโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน นอกจากนี้ยังได้รับมาตรฐาน อย. เกรดส่งออกอีกด้วย
จุดขายอีกหนึ่งอย่างคือซอสกะเพราหมีปรุงส่งเสริมให้คนมีอาชีพหรือสร้างอาชีพได้ทั่วไทย ถ้ามีลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อน้ำซอส ทางแบรนด์ก็จะมีเคล็ดลับและบอกวิธีในการสร้างอาชีพให้อีกด้วย ปัจจุบันมีลูกค้าที่สั่งซื้อประจำกว่า 400 ราย ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักในตอนนี้จะเป็นลูกค้ากลุ่มร้านอาหารประมาณ 90% ซึ่งมี 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่มีอาชีพอยู่แล้ว 2.กลุ่มที่มีร้านอาหารอยู่แล้วแต่ขายไม่ดี และ 3.กลุ่มร้านอาหารขนาดกลางและใหญ่ รวมถึงคาเฟ่ต่างๆ ส่วนอีก 10% จะมีลูกค้ากลุ่มอื่นๆ เข้ามาสนใจบ้างเล็กน้อย ทำให้ผลตอบรับจากลูกค้านั้นอยู่ในระดับที่ดีมากและเกิดอัตราการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง
สำหรับขนาดและปริมาณของซอสผัดกะเพรานั้นจะมี 2 ขนาด คือ ขนาด 1 ลิตร บรรจุแบบถุง ราคาปลีกถุงละ 169 บาท ผัดได้ประมาณ 35 จาน โดยที่ไม่ต้องปรุงเพิ่ม และแบบขวดราคา 59 บาท ปัจจุบันขายในรูปแบบออนไลน์ 100% นอกจากนี้สูตรการปรุงน้ำซอสนั้นเจ้าของแบรนด์ได้เรียนรู้มาจากคลิปวิดีโอต่างๆ ใน Youtube และได้นำความรู้เหล่านั้นมาปรับให้เป็นสูตรของตัวเอง
ในส่วนของกำลังการผลิตนั้น ทางแบรนด์ได้ร่วมมือกับโรงงานที่ผลิต OEM ให้และมีมาตรฐานเกรดส่งออก กำลังการผลิตในตอนนี้นั้นจะสามารถผลิตได้ประมาณ 10 ตันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้สำหรับเทคนิคและกลยุทธ์ในการทำการตลาดนั้น ทางแบรนด์เริ่มและเติบโตจากแพลตฟอร์มออนไลน์ แน่นอนการโปรโมทสินค้าต้องโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ทั้งนี้ปัจจุบันนอกจากน้ำซอสผัดกะเพราแล้ว ยังมีซอสกระเทียมพริกไทยดำ ซอสผัดไทขายร่วมอีกด้วย รวมถึงในตอนนี้ยังคงเน้นขายในไทยเป็นหลัก
นอกจากนี้ในส่วนของยอดขายในแต่ละเดือนนั้น น้ำซอสผัดกะเพราสามารถสร้างยอดขายได้เดือนละกว่า 1.69 ล้านบาท ยอดขาย 10 ตันต่อ 1 เดือน ขายปลีกถุงละ 169 บาท ขนาด 1 ลิตร ซึ่งทางแบรนด์ให้ข้อมูลว่าสำหรับยอดขายดังกล่าวนั้นถือว่ายังประสบความเร็จได้ประมาณ 10% เนื่องจากตั้งเป้าให้ยอดขายเติบโตไปถึงหลักพันล้าน ภายในระยะ 5 ปี และมีโรงงานเป็นของตัวเอง รวมถึงต้องการกระจายสินค้าไปสู่ร้านอาหารให้ถึงหลักแสนร้านค้า
อย่างไรก็ตามในอนาคตทางแบรนด์ได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการเพิ่มไลน์ผลิตมากขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ รวมถึงกำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจเพื่อนำสินค้าเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าและพัฒนาสินค้าให้ได้คุณภาพมากยิ่งขึ้น
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : ซอสผัดกะเพราหมีปรุง สร้างอาชีพทั่วไทย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *