“ออกัส” เผยไม่ตั้งใจมาสายเซ็กซี่ จากนี้งดโชว์แล้วเพราะเริ่มเขิน เล่าที่มากล้ามโตต้องแลกกับการเสียหลังล่างจากการฟิตผิดวิธี ทำให้มีปัญหาเรื้อรังตามมาทุกด้าน เผย “ใบเฟิร์น” คือสาวในฝัน อีกฝ่ายน่าจะรู้ว่าตนชอบ แต่ไม่กล้าจีบ ไม่ใช่สายบุก
เป็นอีกหนึ่งหนุ่มฮอตเลือดใหม่ของช่อง 3 ที่ถูกจับตามองสำหรับ “ออกัส วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์” ที่ความอยากอวดกล้ามที่บรรจงปั้นเป็นเหตุ ทำให้ตอนนี้ขึ้นทำเนียบหนุ่มเซ็กซี่ครองใจสาวไปเรียบร้อยแล้ว วันก่อนออกัสได้มาโปรโมตละครเรื่องใหม่ ยมทูตกับภูติสาว ละครเย็นที่กำลังออนแอร์อยู่ เวลา 19.00 น. เจ้าตัวก็เลยเผยถึงเรื่องการเดินบนเส้นทางกล้ามของตนที่กว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ไม่ได้ตั้งใจไปสายไหนเลย จริงๆ ก่อนหน้านี้กัสเป็นคนที่ผอมมาก กล้ามขึ้นยากมากเพราะกินน้อย จนค่อยๆ เริ่มมีกล้าม เราก็เริ่มรู้สึกโอเคกับตัวเอง จริงๆ เป็นคนชอบออกกำลังกายแต่ไม่ชอบการที่จะต้องมาเข้าฟิตเนส จนโดนผู้จัดการเก่าบังคับให้เข้าฟิตเนส แล้วมันก็เริ่มเห็นผล ก็ภูมิใจกับตัวเอง อยากที่จะถ่าย กล้าที่จะถ่ายมากขึ้น เริ่มจากที่ถ่ายเล่นๆ ก่อน เราแค่ถ่ายเล่นๆ ของเราก็ไม่คิดว่าละครเขาจะเอาไปลงจริงๆ
แต่ตอนนี้มีปัญหาเรื่องหลังด้วย จะได้แค่บอดี้เวท ตอนนี้ก็ออกกำลังกายอยู่บ้าน เข้าฟิตเนสไม่ได้ ที่เจ็บหลังเป็นเพราะผมเล่นฟิตเนสเอง ก็คิดว่าตัวเองแข็งแรงก็เลยเล่นเอง แล้วอาจจะไม่ถูกท่า น้ำหนักลงที่หลังล่างเลยทำให้เจ็บ พอดีขึ้นเราก็กลับไปฟิตเนสใหม่ สุดท้ายมันไม่หาย ผมไม่ได้ใช้เทรนเนอร์ส่วนตัวเพราะผมไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เราเล่นตามใจตัวเองมันสนุกกว่า”
อาการปวดหลังส่งผลเรื้อรังระยะยาว เป็นอุปสรรคในการทำงาน ตอนนี้ไม่สามารถเล่นฟิตเนส ส่งผลต่อความฟิตของร่างกาย
“นี่ก็เป็นปีแล้วครับยังไม่หายเลย มีไปจัดกระดูก ยืดกล้ามเนื้อ ฉีดยาที่หลังล่างก็ทำมาแล้ว ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่หาย มันก็เป็นอุปสรรคกับการทำงานนะ ถ้ายืนนานๆ นั่งนานๆ ทำอะไรท่าเดิมนานๆ มันจะเจ็บ ทำให้เราอารมณ์เสียกับตัวเองตอนทำงาน ตอนถ่ายละคร เราต้องใช้ร่างกาย พอมันเจ็บขึ้นมาเราก็จะหงุดหงิด คือนอกจากจะจำบทแล้ว ยังมามีอุปสรรคกับร่างกายตัวเองอีก มันก็ทำให้เราทำงานยากขึ้น ตอนนี้ก็เปลี่ยนจากเข้าฟิตเนสมาตีเทนนิส วิดพื้นอยู่ที่บ้าน คือเลิกเข้าฟิตเนสไปเลยมานานแล้ว
พอไม่ได้เข้าฟิตเนสมันมีผลต่อกล้ามที่เราฟิตด้วยเพราะผมไม่สามารถออกกำลังกายเล่นไหล่ได้ มันก็น้อยลง แต่เราก็จะพยายามทำให้ได้มากที่สุด ก็เศร้าอยู่เหมือนกัน หุ่นผมก็ยังพอได้อยู่ มันยังคงอยู่เพราะผมขยันที่จะเล่นเยอะขึ้นให้ทุกอย่างมันคงที่ แล้วก็เลือกทางอาหารพอสมควร”
อาการป่วยหลังทำให้ใช้ชีวิตประจำวันลำบากขึ้น
“ลำบากขึ้นเลยครับ ผมยกของหนักไม่ได้ คือไม่ว่าจะเดิน จะวิ่ง จะก้มจะอะไรก็ตามในชีวิตประจำวันมันใช้หลังล่างหมดเลย เราเพิ่งรู้ว่ามันสำคัญมากตอนที่มันเจ็บไปแล้ว เคยคิดที่จะสร้างให้มันแข็งแรงเลยในส่วนของหลังล่าง แต่เราก็ไม่ค่อยไปโฟกัสกับมันเท่าไหร่ ก็เพิ่งมารู้ว่าแกนกลางของร่างกายเราสำคัญมาก หมอก็บอกว่าสามารถหายขาดได้แน่ถ้าเรามีวินัยมากพอ แต่เราก็มีไม่มากพอ นี่พอยังไม่หายดีเราก็ไปตีเทนนิสแล้ว คือน้อยอยากไปเล่นกีฬา
ถือเป็นอุทาหรณ์กับการปั้นหุ่นเอง ถ้าเรามีความรู้ เราศึกษามาดีเราจะไม่เจ็บ เราตามใจตัวเองด้วย มันเลยเกิดความผิดพลาดซึ่งมันส่งผลระยะยาว ก่อนเราจะฟิตร่าง เราควรหาความรู้หรือมีคนที่มาดูแลที่เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้จริงๆ”
รู้สึกเขิน จากนี้จะโพสต์ถอดเสื้อลงโซเชียลน้อยลงแล้ว
“ดูที่ความพร้อมของตัวเองด้วยครับ คิดว่าปีนี้อาจจะน้อยลง โดนแซวว่ามีแต่รูปถอดเสื้อ ก็อาจจะเบาลงแล้ว เพราะรู้สึกเขิน รู้สึกอายที่มีภาพแบบนี้อยู่ที่ความรู้สึกเรามากกว่าตัวผมไม่ได้คิดว่าจะทำเพื่อกระแสอยู่แล้ว ถ้าเป็นในแง่ของงานก็โอเคครับ ด้วยภาพจำคนอาจจะมองว่าผมถอดเก่งไปแล้ว พอลงรูปแบบนั้นคนก็กดไลก์เยอะ มันเป็นความบังเอิญมากกว่าที่ละครก็ไปตรงกับที่ต้องถอดเสื้อพอดี ตอนนี้รู้สึกอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง (เคยเจอโรคจิตหรือมีคนไดเร็กแปลกๆ ไหม?) มีครับแต่ผมไม่ได้เข้าไปดูละเอียด ผมจำไม่ได้แล้วว่าเขาพิมพ์อะไรมาบ้าง ก็มองเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอในโซเชียล แต่ผมก็ไม่ได้ไปบล็อกอะไร ก็ปล่อยไว้แบบนั้น มีเสนอจำนวนเงินบ้างนะ ที่พูดถึงเรื่องนี้ เคยเห็นบ้างแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร”
เผยโสดมา2 ปีแล้ว คุยกับใครแล้วไม่ใช่ก็เลิกเลย
“ถ้ามีก็ดีสิครับ แต่ตอนนี้ไม่มีเลย ที่ผ่านมาก็มีคุยๆ แล้วก็เลิกคุยกันไป ไม่ได้มีจริงจัง มีทั้งในและนอกวงการ คุยกับแป๊บๆ แล้วก็เลิกกันไป ถ้ามีคนอื่นก็น่าจะรู้ ผมซ่อนอยู่แล้ว โตแล้วก็ไม่ต้องปิดอะไร คือพอคุยกันไปแล้ว พอเริ่มที่จะไม่ใช่ เราก็ตกลงกันว่าจะไม่ไปต่อ เพราะเราไม่อยากจะให้เวลาไปสนิทกันมากจนมันผูกพันแล้วสุดท้ายมาเลิกกัน ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ไม่อยากให้ต้องมีใครเสียใจมากๆ โสดมา 2 ปีแล้ว เคยคบทั้งอายุมากกว่าและน้อยกว่า อายุมากกว่าก็ดี เขาเข้าใจเรามากกว่า ดูแลเราเป็น ก็ดี มันสำคัญทั้งภายนอกและภายใน ข้างนอกก็สำคัญ นิสัยก็สำคัญ”
ฟุ้ง “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” เป็นสาวในสเปก บอกไม่ใช่แนวสายบุก แล้วฝ่ายหญิงไม่น่าจะชอบเด็ก
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะผมยังไม่เคยเจอเลย ยังไม่เคยเจอคนที่รู้สึกลงตัวและพอดีกันกับเรา ก็ไม่รู้ว่าผมเลือกเยอะไหมนะ ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองห่างไกลกับการที่จะมีใครซักคนมากๆ เลย ไม่ได้รู้สึกว่าเจอคนที่จะมาคุยแล้วคบกันเลยมานานแล้ว จนไม่ได้ไปโฟกัสว่าจะได้เจอแล้ว คงจะได้เจอสักวันแต่ตอนนี้ไม่ได้เจอเลย ผมชอบแบบพี่ใบเฟิร์นครับ ผมชอบแบบนี้เลย ประมาณว่านี่แหละสเปก เคยเจอพี่เขาอยู่ตามงาน พี่เขาก็น่าจะพอรู้ เหมือนเพื่อนผมรู้แล้วแซว แต่เขาไม่น่าจะชอบเด็ก ส่วนตัวไม่เคยคุยกัน ผมก็ตามไปกดไลก์รูปเขาอยู่แม้ในใจจะกดไลก์รัวๆ
แฟนคลับผมอยากให้ผมมีแฟนคลับ อย่างที่บอกถ้ามีผมไม่ปิดแน่นอน ถ้ามีผมก็เปิดในโซเชียลแน่นอน ถือว่าเป็นการให้เกียรติเขาด้วย แฟนคลับจะบอกว่าเมื่อไหร่กัสจะมีแฟน อยากเห็นหน้าแฟนกัสแล้ว กัสก็บอกว่าหาให้หน่อยสิ(หัวเราะ)
ถ้าชอบใครอาจจะต้องเริ่มทำความรู้จักกันก่อน พอเราเริ่มได้คุยกันแล้ว ความสัมพันธ์จะเดินต่อไปคิดว่ามันก็เป็นเรื่องของคนสองคน ต่างคนต่างอยากคุยกันไหม กัสไม่รู้สึกว่าการที่เราชอบเขาแล้วเราจะต้องไปจีบเพื่อให้ได้เขามาเป็นแฟน พยายามทำให้เขาชอบเรา กัสไม่เก็ตฟีลนี้ ผมไม่ใช่สายบุก”
