xs
xsm
sm
md
lg

“มด” สาวน้อยหัวใจแกร่ง แม้อุบัติเหตุทำติดเตียงหลายปี แต่สู้จนเดินได้อีกครั้ง หวังได้เรียนต่อ-ทำงานช่วยพ่อแม่!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “มด” สาวน้อย ผู้ใฝ่เรียน แต่ยังเดินไม่ถึงฝัน ด้วยฐานะที่ยากจนและอุบัติเหตุที่พลิกชีวิต ทำให้เป็นผู้ป่วยติดเตียงหลายปี แต่วันนี้ เธอเริ่มเดินได้อีกครั้ง พร้อมความหวังที่จะได้เรียนและทำงานช่วยพ่อแม่ในอนาคตอันใกล้



มณี แก้วประเสริฐ หรือมด สาวน้อยวัย 28 ผู้เคยมีฝันเรื่องเรียนด้านที่ตนเองชอบ แต่ฝันกลับดับวูบลงถึง 2 ครั้ง 2 ครา ครั้งแรกจากฐานะที่ยากจน และครั้งสองจากอุบัติเหตุ

แม้ฐานะที่บ้านจะยากจน โดยพ่อแม่ทำงานรับจ้าง รายได้แค่วันละ 300 บาท แต่ความใฝ่เรียน ทำให้มดสอบติดวิศวะและพยาบาล


“เขาบอกว่า แม่ หนูสอบได้ 2 อย่าง วิศวะกับพยาบาล แม่บอกว่า แล้วแต่หนู หนูอยากเรียนอะไร หนูก็เลือกเอา เขาก็เลือกเอาวิศวะ เขาบอกว่าค่าเทอมหนูแพงนะ แม่ไหวไหม เริ่มแรกก็กระอักกระอ่วน เพราะหาเงินฉุกเฉิน ถึงจะหามาทัน เขาเลยไปเอาที่ย่าเขา 2 หมื่น ค่าเทอม เทอมแรก พอเทอม 2 แม่ก็พยายามหาให้ พอจะไปเรียน พ่อกับแม่ก็มาป่วยพร้อมกัน” คำปิ่น พงษ์สา คุณแม่ของมด


“แม่ทำงานแล้วเกิดอุบัติเหตุ รถม้าเข็นเหยียบเท้า แล้วกระดูกแตก ก็เลยต้องพักฟื้นอยู่บ้านยาว ส่วนพ่อ เหยียบตะปู เป็นเบาหวาน มันจะเน่าภายในมันจะกินข้างใน น้องเลยบอกแม่ว่า ขอดร็อปไว้ก่อน”


เมื่อพ่อแม่ป่วยพร้อมกัน ฝันของมดในการเรียนวิศวกรรมไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีจึงพับไป และถูกแทนที่ด้วยการออกมาหางานทำ โดยเป็นพนักงานขายที่ร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน จ.สมุทรปราการ


หลังจากทำงานเก็บเงินได้ 5 ปี มดเริ่มมีความฝันเรื่องเรียนอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอไม่คิดเรียนวิศวะแล้ว เพราะรู้ว่าฐานะไม่พอที่จะเรียน จึงเลือกเรียนต่อที่วิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจสมุทรปราการ สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน แต่หลังจากเรียนไปได้แค่ 1 ปี มดก็ประสบอุบัติเหตุ จนทำให้ฝันเรื่องเรียนของเธอต้องสะดุดหยุดลงอีกครั้ง


มดย้อนเหตุการณ์วันเกิดเหตุเมื่อ 3 ปีก่อนให้ฟังว่า วันนั้นเธอนั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซค์เพื่อนเพื่อไปหาที่ฝึกงาน

“เราก็มาที่ทางไหล่รถนี่แหละ ธรรมดา เราก็ขับไม่ได้เร็วมาก และมีรถอีกคันที่เขาตัดจากเลนที่ 1 เข้าไหล่ทางเพื่อจะรอเลี้ยวเข้าซอย รถสิบล้อที่อยู่ถนนอีกเลนหนึ่ง ก็ขับมา และเบียดเข้ามา ด้วยความที่รถควบคุมไม่อยู่ พอรถล้ม รถมันก็เหยียบ ทับ แล้วก็ลากไป”


โชคดีรอดชีวิตมาได้!!

“หนูเข้าห้องผ่าตัดไปทั้งหมด 21 ครั้ง มีผ่าตัดใหญ่และผ่าตัดเล็กๆ เหมือนตกแต่ง ช่วงล่างหนู ช่วงอวัยวะเพศก็ต้องตัดเนื้อตายทิ้ง ช่วงขา ข้างนี้จะเสียไปเลย เพราะรถไปทับโดนระบบประสาทใหญ่ที่เป็นใยแมงมุมอยู่ตรงช่วงก้นกบ หมอบอกเสียหายรุนแรง ทำให้เท้าของเรา ปกติมันจะขยับได้ แต่ของหนูไม่สามารถทำได้”


“(ถาม-ผลกระทบต่ออุ้งเชิงกราน มีผลกระทบด้านอื่นอีกไหม?) เคยถามหมอ เขาบอกว่า ถ้าสมมุติว่าจะท้อง ไม่สามารถคลอดได้ ต้องผ่าตัดอย่างเดียว เพราะอุ้งเชิงกรานมันไม่ขยาย และตอนนี้เราเสริมถุงหน้าท้องอยู่ ยกลำไส้ใหญ่ขึ้นมาอยู่หน้าท้อง”


มดยอมรับว่า ช่วงนาทีชีวิตหลังประสบอุบัติเหตุ ห่วงพ่อกับแม่มาก นั่นจึงเป็นแรงกดดันว่า เธอต้องรอด จะตายไม่ได้

“ห่วงพ่อกับแม่ ช่วงที่เราฟื้นขึ้นมา เราอาการวิกฤตมาก เราก็พยายาม เราต้องรอด ในใจคิดเสมอว่าต้องรอด จะตายยังไม่ได้ เพราะพ่อกับแม่แก่แล้ว ไม่มีคนดูแลแน่นอน”


ตอนที่มดยังป่วยติดเตียงระหว่างรักษาตัวจากอุบัติเหตุ พ่อของมดที่ป่วยเบาหวานก็อาการกำเริบจนต้องหยุดทำงานเพื่อรักษาตัวเช่นกัน

“เมื่อ 2 ปีกว่าๆ เข้า รพ. หนักเลย มีอยู่ปีหนึ่งที่เราผ่าขา ผ่ามาน่าจะ 3 ครั้งแล้ว” มาโนช แก้วประเสริฐ คุณพ่อของมด


ขณะที่มดเอง แม้จะเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่นาน และไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่ด้วยการกายภาพ บวกพลังใจที่พร้อมสู้เพื่อครอบครัว ทำให้พัฒนาการของเธอดีวันดีคืน จนกลับมาเดินอีกครั้งแม้จะยังไม่สมบูรณ์ 100% ก็ตาม


“3 ปี นี่ปีที่ 4 พัฒนาการการรักษาก็ดีขึ้นเยอะ ตอนแรกหมอบอกว่าจะเดินไม่ได้เลย ติดเตียงตลอดชีวิต พอแม่เห็นเขาเดินได้ก็ดีใจ ถึงจะทำงานไม่ได้ แม่ก็ดูแลได้ ขอแค่ให้เขาดูแลตัวเองให้ดีก็พอ เหนื่อยก็ต้องสู้”

“แรกๆ เขาเอาขาลงพื้น เวลาลงมันจะเจ็บมาก จะพยายามเดินให้ได้ ลงให้ได้ จนหมอบอกว่า เก่งมากเลย สู้มาก หมอที่กายภาพเขาพูดว่า เก่งจริงๆ”


เมื่อเริ่มเดินคล่องขึ้น แม่จึงเริ่มชวนมดให้ลองขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส เวลาต้องไปหาหมอที่ รพ.ภูมิพล ซึ่งมดก็สามารถเดินได้ โดยใช้ไม้เท้าช่วยค้ำยันบ้าง แม่ช่วยจับบ้าง ซึ่งการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สามารถประหยัดค่ารถไปได้มาก เพราะก่อนหน้านี้ต้องเสียค่าจ้างรถเพื่อไป รพ.ครั้งละ 2,000 บาท


“เคยนั่งล้างจานและซักผ้าเอง แต่พอนั่งนานๆ แล้ว มันจะปวดช่วงสะโพก และมันปวดร้าว พอมันปวดปุ๊บ ขาข้างขวามันจะอ่อนแรง แล้วเราก็จะเดินไม่ได้ เพราะกระดูกตอนนี้ติดกันดีแล้ว คุณหมอก็ให้นานๆ เจอกันทีหนึ่ง หรือปีหนึ่งเจอกันครั้งหนึ่ง เพื่อเอ็กซเรย์ดูว่า กระดูกเราดีขึ้นไหม กิจวัตรประจำวันก็อาบน้ำแต่งตัวเอง ทำอะไรเองได้ไม่เหมือนแต่ก่อน ตอนนี้อุบัติเหตุผ่านมา 3 ปีแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะจากจุดนั้นถึงจุดนี้ ความเป็นอยู่ ด้วยความที่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ในเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เราต้องใช้ อย่างบางทีเราต้องตัดรองเท้ากับ รพ. อาจจะมีอุปกรณ์ที่หมออยากให้เสริม ก็อาจจะใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แล้วแม่ก็หาอยู่คนเดียว”


ขณะที่สุขภาพของแม่ ก็มีโรครุมเร้าอยู่เช่นกัน

“ตอนนี้ก็มีโรคไต และน้ำท่วมปอดเข้ามาอีก ตอนนี้หมอคุยเรื่องทำเส้น ทำเส้นไว้ฟอกไต คุยแล้วแต่ยังไม่ได้ทำ เพราะอาการยังทรงตัวอยู่ หมอเลยยังไม่ทำให้ (ถาม-วันที่เราเหนื่อยมากๆ เราผ่านมาได้ยังไง?) ดูลูก คิดถึงน้องมดมากกว่า เพราะลูกชายอีก 2 คนไม่เท่าไหร่ เพราะ 2 คนยังปกติ ยังหาทำกินเองเขาได้อยู่ แต่น้องมด กลัวไม่มีคนดู”


ปัจจุบัน “มด” ยังต้องกายภาพวันละไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อฟื้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรงสมบูรณ์ที่สุด เธอจึงหวังว่า อนาคตอันใกล้ เมื่อสุขภาพหายดี เธอจะได้ทำงาน และสานต่อความฝันเรื่องเรียนอีกครั้ง

“(ถาม-มองอนาคต 6 เดือน 1 ปีหลังจากนี้ ถ้าร่างกายดีขึ้น อยากทำอะไรเป็นสิ่งแรก?) สิ่งแรกเลย ช่วยแม่หาเงิน และอาจจะทำสิ่งที่เราอยากจะทำ ถ้ามีโอกาสเรียน ที่หนูอยากเรียนก็อาจจะเป็นโลจิสติกส์ (ถาม-เรียนต่อให้จบไปเลย?) เราต้องเริ่มเรียนใหม่ เพราะอาจารย์บอกว่า มันเป็นหลักสูตรใหม่แล้ว ต้องไปเริ่มเรียนใหม่หมดเลย ใช้เวลาแค่ 2 ปี”


หากท่านใดต้องการช่วยเหลือเงินซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ถุงหน้าท้อง และทุนต่อชีวิตให้กับ “มด”สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีสมุทรปราการ ชื่อบัญชี มณี แก้วประเสริฐ เลขบัญชี 3612925034

คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “สู้เพื่อฝันอันเลือนลาง”
https://www.youtube.com/watch?v=KS1AybujjHU&t=360s


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
กำลังโหลดความคิดเห็น