เจ้าของโรงโม่ปืนโหด! ยิงทะลุคอผู้จัดการโรงโม่เช่าช่วงต่อ ก่อนตามมาซ้ำจนดับคาที่ ปมขัดแย้งธุรกิจ-หนี้สิน

ชุมพร - เจ้าของโรงโม่หินวัย 71 ปี โหดยิงทะลุคอผู้จัดการบริษัทเช่าช่วง วิ่งหนีตายแต่ถูกยิงซ้ำใส่กลางหลังดับคาที่ แล้วเข้ามอบตัวต่อตำรวจ เผยปมขัดแย้งธุรกิจ หนี้สิน

เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ (13 พ.ค.) ร.ต.อ.ณภัทร ด้วงสถิต รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตายภายในโรงโม่หินพื้นที่หมู่ 7 ต.ทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.สายันต์ จันทมาศ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวี พ.ต.ท.ถิรเดช แข็งแรง รอง ผกก.(สืบสวน) พ.ต.ต.ธนเทพ สุวรรณ สวป. ร.ต.อ.มานิตย์ มณฑิราช รอง สวป. และ ร.ต.ท.ถวัลย์ จันทร์สิงขรณ์ รอง สวปใ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยอาสากู้ภัยกู้ชีพมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตสวี รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบริเวณโรงโม่หิน พบศพ นายวีระวัฒน์ จิโนวัฒน์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159/4 หมู่ 4 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร เป็นผู้จัดการของบริษัทเช่าช่วงจากบริษัทเจ้าของสัมปทาน สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นคอปกสีขาวลายดำแดง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนถนนลูกรังลักษณะเป็นทางลาดชันตามแนวภูเขาใช้ในการขนย้ายหิน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. กระสุนเข้าต้นคอขวาทะลุกรามซ้าย 1 นัด ด้านหลังทะลุอกซ้าย 1 นัด รวม 2 นัด ห่างจากศพประมาณ 20 เมตร พบรอยคราบเลือดเป็นทางยางไปจนถึงรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีขาว ทะเบียน 6 กธ 6367 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของผู้ตายจอดติดเครื่องอยู่

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถกระบะคันดังกล่าว พบที่กระบะหลังมีซองปืนหนังสีดำวางอยู่ 1 อัน เป็นของคนก่อเหตุ ส่วนบนพื้นระหว่างประตูหลังซ้ายและล้อมีปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก และที่หน้ารถอีก 1 ปลอก รวม 2 ปลอก มีรองเท้าหนังของผู้เสียชีวิตตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน


ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายอุดม อุโพธิ์ อายุ 71 ปี อยู่เลขที่ 150 หมู่ 7 ต.ทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร เป็นเจ้าของสัมปทานโรงโม่หินดังกล่าว หลังก่อเหตุยิงนายอุดม ได้นำอาวุปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุเดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี ผกก.สภ.สวี โดยมี พล.ต.ต.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร เดินทางสอบปากคำด้วยตัวเองนานกว่า 1 ชั่วโมง

สำหรับปมเหตุเบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ทั้งคู่มีความขัดแย้งกันมานานแล้วจากเรื่องธุรกิจและเรื่องเงิน โดยก่อนเกิดเหตุนายอุดม เจ้าของสัมปทานโรงโม่หินได้เดินทางกลับจากซ้อมยิงปืนที่สนามยิงปืนในพื้นที่ ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อมาถึงโรงโม่ใกล้กับบ้านพักได้ขับรถเข้าไปในโรงโม่ได้เจอนายวีระวัฒน์ ผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้จัดการของบริษัทเช่าช่วงสัมปทาน กำลังขับรถยนต์ลงมาจากโรงโม่พอดี และทั้งคู่ได้จอดรถลงมาพูดคุยกันได้ครู่เดียวจนเกิดมีปากเสียงกันขึ้นอีก นายอุดม จึงใช้ปืนยิงนายวีระวัฒน์ 1 นัด เข้าต้นคอทะลุกราม และนายวีระวัฒน์ ยังสมารถวิ่งหนีเลือดไหลโชกออกไปได้ราว 20 เมตร แต่ถูกนายอุดม ใช้ปืนยิงถูกกลางหลังกระสุนทะลุอกซ้ายนายวีระวัฒน์ ล้มขาดใจตายคาที่ จากนั้นนายอุดม ได้ขับรถไปมอบตัวต่อตำรวจดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาอย่างละเอียดเพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และรอผลชันสูตรพลิกศพของแพทย์โรงพยาบาลสวี ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป